‘ป๊อบ ศราวุธ’ สาบานกับพระ ครอบครัวไม่เอี่ยวยาเสพติด พร้อมฟ้อง ‘ชัยธวัช’
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย จ.อุดรธานี นายศราวุธ เพชรพนมพร หรือ "สส.ป๊อบ" อดีต สส.อุดรธานีหลายสมัย ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.อุดรธานี หมายเลข 2 สังกัดพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวิเชียร ขาวขำ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี และอดีต สส.อุดรธานีหลายสมัย ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จ.อุดรธานี กรณีถูก นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.อุดรธานี หมายเลข 1 สังกัดพรรคประชาชน กล่าวพาดพิงในหลายประเด็นขณะปราศรัยหาเสียงในพื้นที่ จ.อุดรธานี ในห้วงวันที่ 16 – 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นายศราวุธ เพชรพนมพร เปิดเผยว่า ผมได้มอบอำนาจให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายชัยธวัช ตุลาธน และร้องกับ กกต. ในประเด็นเรื่องจงใจปราศรัยใส่ร้ายให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ประเด็นนี้มีความผิดถึงใบแดง เนื่องจากนายชัยธวัชฯ เป็นผู้ช่วยหาเสียงที่ได้รับแต่งตั้งจากผู้สมัครฯ ผมให้ทนายไปแจ้งความในทุกเวทีที่เขาปราศรัย เพราะมีการพาดพิงถึงครอบครัวผม ที่แจ้งความไป ไม่ได้มีความโกรธแค้นส่วนตัว ผมไม่ได้รู้จักนายชัยธวัชเป็นการส่วนตัว
"ผมเชื่อว่าสิ่งที่นายชัยธวัชน่าจะรู้ว่า สิ่งที่พูดไป มันมีมูลหรือมีเหตุ หรือพูดเพื่อต้องการอะไร ในการปราศรัยเขาดึงเอาครอบครัวผมเข้าไปเกี่ยวข้อง พูดถึงภรรยาผมทุกเวที บอกว่ามีส่วนพัวพันในเรื่องหุ้นส่วน ในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เรื่องเสพติดมันเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ไม่ว่าจะกับใครที่โดนกล่าวหาว่าเกี่ยวข้อง ผมว่าใครก็รับไม่ได้ ที่ผมต้องแจ้งความเพราะผมต้องปกป้องภรรยาผมและครอบครัวของผม" นายศราวุธ กล่าวและเผยด้วยว่า
"…ผมฝากถึงคุณชัยธวัชสั้นๆว่า ถ้าหากว่าในอดีตที่ผ่านมา ครอบครัวผม ภรรยาผม วงวานหว้านเครือผม เคยมีผลประโยชน์เรื่องยาเสพติดแม้แต่บาทเดียว หรือเคยสนับสนุนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ว่าทางใดก็ตาม (ใช้มือขวาล้วงสร้อยพระเครื่องจากคอเสื้อ) ผมขอพูดต่อหน้าพระที่ผมห้อยคออยู่ ที่ปกป้องครอบครัวผมอยู่ในตอนนี้ ขอให้ครอบครัวผมมีอันเป็นไป ขอให้เกิดวิบัติชิบหายกับครอบครัวผม คุณชัยธวัชมีครอบครัวหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่คุณชัยธวัชดึงครอบครัวผมเข้ามา ผมก็เอาครอบครัวผมเป็นประกัน และผมก็จะไม่ท้ากลับด้วย แต่คุณชัยธวัช ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วย…"
"…คำพูดที่คุณชัยธวัชพูด คุณอยากได้คะแนน คุณมาพูดสิ่งต่าง ๆ มันกระทบกับครอบครัวผม ผมต้องปกป้อง ผมยืนยันเลยว่าถ้าผมทำสิ่งเหล่านั้นจริง ขอให้สิ่งที่ผมพูดไปมันเกิดขึ้นจริง ประเด็นนี้เอาแค่นี้พอ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เอาแค่สิ่งที่มันออกมาจากหัวใจผม คุณชัยธวัชพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือปล่าว ผมเชื่อว่าคุณชัยธวัชรู้อยู่แก่ใจว่าผมเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง แต่ก็พยายามดึงผมและครอบครัวเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ไม่เป็นไร แต่ขอพูดจากหัวใจผมเลย ถ้าผมมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ก็ขอให้เป็นอย่างที่พูดไป…" นายศราวุธ กล่าว
ต่อข้อสักถามเรื่องการหาเสียง นายศราวุธ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้ก็ลงพื้นที่หาเสียงตามปกติ เดินตลาดขอคะแนนเสียง ขึ้นรถแห่ไปตามพื้นที่ต่างๆ พรรคเพื่อไทยคงจะไม่มีส่งใครลงมาในพื้นที่อีกแล้ว เพราะเหลือเวลาแค่ 2–3 วัน ก่อนเลือกตั้ง เรื่องการขึ้นเวทีหาเสียงของท่านทักษิณ มีการโยงไปถึงเรื่องยุบพรรค ผมว่ามันไม่เกี่ยวกัน ท่านอยากมาพบชาวอุดรฯอยู่แล้ว ท่านบอกตั้งแต่ก่อนผมลงสมัครเลือกตั้งแล้ว ท่านอยากมานอนอุดรฯ อยากมาเจอพี่น้องชาวอุดรฯ มันเป็นจังหวะที่ผมลงสมัครพอดีก็เท่านั้น
คนก็ถามว่าไม่กลัวหรือที่ท่านทักษิณมาแล้วจะถูกยุบพรรค แล้วท่านมีความผิดอะไร ที่จะโยงไปถึงการยุบพรรค คนโดนตัดสิทธิ์เขาก็ยังมาหาเสียงกันอยู่ ท่านทักษิณไม่ได้โดนตัดสิทธิ์ ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอะไรกัน และหลังจากที่ท่านทักษิณกลับไปแล้ว เชื่อว่ามีผลทางจิตใจแน่นอน เพราะท่านทักษิณกับชาวอุดรฯ มีความผูกพันกัน ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก ท่านก็มาแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวอุดรฯมาตลอด ส่วนเรื่องคะแนนเสียงในช่วงนี้ ถือเป็นโค้งสุดท้ายแล้ว การเมืองระดับนี้ ผมเชื่อว่าทุกพรรคเขาทำโพลกัน แต่ผมจะไม่ขอพูดถึง แต่ละคนรู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะแพ้หรือชนะ แต่ที่สุดแล้วผมมั่นใจในสนามนี้…