[RE: เหตุผลที่แท้จริงที่ สภาแพทย์ VS เภสัช ออกมาซัดกันคือไรครับ]
ขอตอบ 2 ส่วน
1.) เรื่อง เภสัช vs หมอ
ผมมองแบบกลางๆ การที่คนไข้รับยาเองได้ เป็นเรื่องที่ดี
จริงๆ ผมเองชอบด้วยซ้ำ
เพราะลดการมา รพ โดย ไม่จำเป็น
มันก็เหมือนเราไปซื้อยาเองต้ามร้านเอง
แต่ผมก็เข้าใจในมุมหมอ ว่า
อาการบางอย่างใน 16 ข้อมันกว้าง
ตัวอย่างที่ดีเลยคือ อาการปวดท้อง
เพราะ มันเป็นได้ยันโรคหัวใจ หรือ มะเร็ง
การดูแลคนไข้จำเป็นต้องผสมผสานความรู้และทักษะ
ตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย และ เจาะเลือด หรือ ส่ง xray
เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องที่สุด
ผมเชื่อว่าอันตรายถึงชีวิตอาจจะยังไม่เจอก็จริง
แต่อย่าลืมว่าการ delay diagnosis
หรือ วินิจฉัยล่าช้า คนไข้ก็เสียโอกาสเช่นกัน
ซึ่งหากเกิดปัญหาในขั้นตอนนี้ใครจะรับผิดชอบ
ทุกวันนี้มีกฎหมายคุ้มครองเภสัชไหม กรณีเกิดปัญหา
ดังนั้นผมเลยคิดว่าอาจจะต้องจัดการเงื่อนไขให้ดี
ผมมองว่า แพทย์ และ เภสัช จริงๆสามารถคุยกันได้
และเชื่อว่าไม่ควรมีปัญหากันถึงจุดนี้
แต่งานนี้ หมอ เภสัช กำลังโดนเสี้ยม
โดย บุคคลที่ 3
และ เป็นที่มาของ part 2 ข้อถัดไป
2.) สปสช องค์กรที่ curry สุดใน สธ
ขอด่า สปสช ต้นเรื่องเลยว่า
ยิ่งกว่าเสือนอนกิน ยิ่งกว่าทำนาบนหลังคน
สปสช นี่ตัวดีเลย
ติดหนี้ รพ เยอะ ไม่ยอมจ่าย
พลักภาระ อ้าง ศีลธรรม เอาดีเข้าตัวเอง
ล่าสุด พยายามไปหาเจ้าหนี้รายใหม่คือ ร้านขายยา
ให้รับยาฟรี แล้วค่อยเบิกคืน
ไปบีบคอร้านยาแทน ลดต้นทุน
เคยมีคนโพสใน ss เรื่องนี้ด้วย
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2414389
ถามว่าเรื่องนี้ดีต่อ สปสช อย่างไร
- ลดต้นทุนการดูแลประชาชน
ง่ายๆเลยคือ การมา รพ ของผู้ป่วย มีต้นทุนบุคลากรเยอะ
ก็ไปแต่ร้านขายยาพอ
- ได้หน้า + กินเงินกันได้เยอะขึ้น
- ไปก่อหนี้กับเภสัชแทนหมอ
เอาจริงๆเลยคือ คนที่เสียประโยชน์จากเรื่องนี่ในระยะยาว
คือ เภสัช ด้วยซ้ำ ไม่ใช่หมอ
เพราะเชื่อว่าถ้านโยบายนี้ไปเรื่อยๆสุดท้าย
ร้านยาที่จะเปิดใหม่อาจจะต้องโดนบีบคอให้เข้าร่วมวงจรอุบาทนี้
และสุดท้ายหนี้ก่อนใหญ่ก็จะกองเพิ่มที่ร้านขายยา
นานาจิตตัง
ผมคิดว่าอะไรที่คนไข้ได้ประโยชน์ย่อมดีเสมอ
แต่ใครที่เอาคนไข้มาเป็นตัวประกันและเกาะกินเงินที่ควรจะเป็นของคนไข้คนอื่นๆ
มันผู้นั้นจะต้องเจอแต่ความชิบหาย