เกาหลีใต้ที่อดีตพอๆหรืออาจจะแย่กว่าไทย แต่เกิดปรากฎการณ์“ปาฏิหารย์แห่งแม่น้ำฮัน“ จนตอนนี้กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และ GDP ต่อหัวพึ่งแซงญี่ปุ่นไปเมื่อไม่นานมานี้
กับญี่ปุ่นที่บอบช้ำจากสงครามโลก ในฐานะประเทศผู้แพ้สงคราม แต่ก็เร่งฟื้นฟูประเทศได้อย่างรวดเร็ว จนเคยมี GDP เป็นรองแค่อเมริกา
2ประเทศนี้ ใครพัฒนาประเทศได้น่ามหัศจรรย์กว่ากันครับ

ญี่ปุ่นเจริญมาก่อนแพ้สงครามโลกแล้ว เพราะเป็นกลุ่มผู้ก่อสงคราม

ในยุคโลกาภิวัติ แพ้สงครามไม่ได้ทำให้คนโง่ลง ทุกอย่างสร้างใหม่ได้

ญี่ปุ่นเจริญมาก่อนแพ้สงครามโลกแล้ว เพราะเป็นกลุ่มผู้ก่อสงคราม

ในยุคโลกาภิวัติ แพ้สงครามไม่ได้ทำให้คนโง่ลง ทุกอย่างสร้างใหม่ได้

ผมให้ญี่ปุ่น ถ้าไม่มี plaza accord ผมว่าญี่ปุ่นยังไปได้อีก

ญี่ปุ่นนี่เจริญและเป็นมหาอำนาจตั้งแต่ก่อนสงครามโกลครั้งที่1 อีกนะครับ

คือแค่แพ้สงคราม ไม่ได้ทำให้วิทยาการเขาหายไปได้ บวกเมกาอุ้มสุดซอย

ไม่ค่อยน่าแปลกใจเรื่องความก้าวกระโดดของเขานะ

แต่เกาหลีใต้นี่ จากประเทศลูกไล่กลายเป็นประเทศลูกพี่ได้ในระยะเวลาเท่านี้ แค่ชั่วอายุคน เปลี่ยนจากประชากรโลกชั้น2-3ให้กลายเป็นแถวหน้าของชั้น1ยิ่งกว่าพวกฝรั่งหลายชาติ ผมให้เกาหลีใต้มหัศจรรย์กว่านะ

บอกยากแหะ แต่ช่วงญี่ปุ่นหลังจบ WW2 นี้ขนาดเศรษฐกิจพีคเคยอยู่อันดับ 2 รองจากอเมริกามาหลายปี ถึงญี่ปุ่นจะมีพื้นฐานทางอุตสาหกรรมก่อน WW2 ก็ตาม

เกาหลีใต้ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ได้รับอานิสงส์จากญี่ปุ่น อเมริกา มาช่วย กับ ญี่ปุ่นต้องฟื้นฟูสภาพบ้านเมืองที่ถูกทำลาย ต้องรื้อขนซากไปทิ้ง แล้วพัฒนาสร้างใหม่ ย่อมใช้เงินเยอะกว่าละ

ญี่ปุ่นดูพีคกว่าคือเป็นประเทศที่ต่อกรกับอเมริกา ยุโรป ได้เลยด้านอุตสาหกรรมแบบสบาย บางอย่างเหนือกว่าด้วย แต่ที่ญี่ปุ่นได้เปรียบกว่าก็เพราะขนาดพื้นที่กับประชากรเยอะกว่าเกาหลีใต้นี้ละ เลยช่วยสร้าง GDP ได้มหาศาล ขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าต่อยอดอะไรก็ง่ายกว่า แต่ช่วงหลังกลับเป็นญี่ปุ่นที่ซบเซาไป 30 กว่าปีละ

ก็ดูพัฒนาได้เร็วพอๆกันทั้งคู่นี้ละครับ บอกยาก แต่ภาพรวมระดับโลกปัจจุบบันยังไงญี่ปุ่นยังเหลื่อมกว่าในระดับหนึ่ง

ญี่ปุ่นทึ่งกว่า เพราะถึงจะมีหลายๆ อย่างทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนหน้า สะสมมานาน แต่การที่อเมริกาเข้าควบคุมญี่ปุ่น ก็ออกมาตรการบอนไซอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งเปิดเสรีพรรคการเมืองเอย แยกบรรษัทใหญ่ ๆ เป็นบริษัทย่อย ๆ หลายเจ้าเอย (ชัดสุดก็มิตซูบิชิ แยกเป็นสิบบริษัท บางบริษัทกลายเป็นแข่งกันผลิตแอร์ก็มี) ห้ามไม่ให้มีทหารเอย (แต่เลี่ยงบาลีให้มีกองกำลังป้องกันตนเองได้)

ถ้าไม่ใช้กึ๋น ไม่หาจุดเปลี่ยน สยบการเมืองสุดวุ่นวายไม่ได้ ก็สร้างยุค "มหัศจรรย์" หลังจากนั้นไม่ได้หรอก ก่อนจะเจอ "สกัดดาวรุ่ง" จากข้อตกลงพลาซ่า และวิกฤตฟองสบู่ยุต 90 (อันนี้ทำตัวเอง เพราะเยอรมันตะวันตกที่ไปเซ็นเหมือนกันกลับรอดได้)

เกาหลีน่าทึ่งก็จริง แต่นั่นมาจากความช่วยเหลือของชาติมหาอำนาจ (ไม่ว่าจะฝั่งเหนือและใต้) แล้วหาทางต่อยอดได้จนไปไกล ไม่ได้เจอบอนไซแบบที่อเมริกาทำกับญี่ปุ่น
แต่ฝั่งใต้เหนือกว่าตามประสาทุนนิยม (อเมริกามีอิทธิพลกระทั่งเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจากทหารเป็นประชาธิปไตยได้) ฝั่งเหนือนี่พอโซเวียตล่มสลายนี่บ้อแบ้ กลายเป็นรัฐปิดตัวเองแบบทุกวันนี้ไปเลย

เกาหลีใต้สิครับ ญี่ปุ่นมันเจริญกว่าชาติอื่นในเอเชียมานานมากๆๆแล้ว

ปี 1905 ญี่ปุ่นสร้างทัพเรือไปถล่มมหาอำนาจในยุโรปยุคนั้นแบบรัสเซียเละเทะคาพอร์ตอาเธอร์

ในขณะที่ตอนนั้นบ้านเราเพิ่งจะยกเลิกทาสเอง ต่างชั้นแค่ไหนคิดดู

ส่วนเกาหลีเป็นลูกไล่เขามาตลอด เทียบกับอาเซียนก็คือเขมรอ่ะ

เพิ่งมาเริ่มเจริญแบบพุ่งทะยานตอนช่วง 1970 นี่เอง น่าทึ่งกว่าเยอะ

ญี่ปุ่นปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พอหลังสงครามโลกครั้งที่สองจุดเปลียนที่ทำให้ญี่ปุ่นฟื้นกลับมาได้เร็วคือสงครามเกาหลีเพราะสหรัฐเอาญี่ปุ่นเป็นฐานผลิตยุทธภัณฑ์ป้อนสงครามทำให้มีการจ้างงานญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากมีการแบ่งปันเทคโนโลยีจ้างบริษัทญี่ปุ่นเป็น Supply Chain จนญี่ปุ่นเอาไปต่อยอดกลายเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้า

เกาหลีหลังสงครามโลกกรอบครับเพราะเจอสงครามเกาหลีอีกรอบเกาหลีมาฟื้นได้จริง ๆ ตอนที่ประชาชนขับไล่ทหารออกไปจากการเมือง

เกาหลีเริ่มที่หลังแต่ไปได้ไวกว่าประเทศอื่นครับ

เกาหลีใต้ พัฒนาคนจากเตี้ยม่อต้อ เป็นสูงใหญ่เล่นบอลอัดกระเเทกฝรั่ง ฝรั่งล้มได้ ใช้เวลาแค่40ปี นี่ก็โคตรมหัศจรรย์แล้วครับ ประเทศไทยทำมาชาติกว่าแล้วยังไม่ถึงไหน

ญี่ปุ่นแพ้สงคราม แต่คนตายแค่3ล้าน จาก60ล้าน เกาหลีใต้ยับทั้งประเทศต้องสร้างใหม่หมด ต้นทุนไม่เท่ากันแต่แรก

ญี่ปุ่นมันเป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดนสงครามไป มันก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นพี่ใหญ่เหมือนเดิม ผมว่าไม่น่าประหลาดใจอะไร

เกาหลีนี่ ก่อนสงครามก็เป็นลูกไล่โดนบุกซ้ายทีขวาทีมาตั้งแต่บรรพกาล แถมเสียประเทศไปจนแทบจะตกทะเล แล้วยังเจอประท้วงใหญ่กับเผด็จการอีก แต่กลับมาเจริญแบบพุ่งพรวดได้ ผมว่าน่าประหลาดใจกว่า

นอกเหนือจากญี่ปุ่น ที่มีวิทยาการมาก่อนหน้านั้นแล้ว ก่อนจะก่อสงคราม แล้วแพ้สงคราม

เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย นี้ล้วนได้รับการซัพพอร์ตจากลูกพี่มะกันทั้งสิ้น ไว้ฟัดกับโลกสายคอมมูน แต่ไฉนไทยได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ

หรือจีนที่เป็นสายคอมมูนก็จริง ก็ได้รับการซัพพอร์ตจากอเมริกาไม่น้อย ไว้งัดกับโซเวียต และหวังผลไว้ว่า เวลาผ่านไป 20 ปี ประเทศจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย แต่คิดผิด

ทั้งสองประเทศมีเบื้องหลังด้วยอเมริกาทั้งคู่ มันจะต้องเล่าแบบคู่ขนานหน่อยเพราะสองประเทศนี้มันงอกพร้อมกัน

ช่วงหลังสงครามโลกใหม่ๆ (1945-1950)
ญี่ปุ่น : เปลี่ยนจากจักรวรรดิญี่ปุ่นมาเป็นประเทศญี่ปุ่น สภาพบ้านเมืองเละเทะ เมืองอุตสาหกรรมหลักอย่างฮิโรชิม่าและนางาซากิกลายเป็นที่ดินว่าง โตเกียวเองก็เละเพราะโดนระเบิดไฟถล่มมาเป็นปีๆ
เกาหลี : อยู่ใต้กำมือของญี่ปุ่นมาเป็นสิบปีตั้งแต่ก่อนสงครามโลกจะปะทุอีก มาได้รับอิสรภาพจริงๆก็ตอนจบสงครามโลก ประเทศโดนแบ่งเป็นสองฝั่งคือเกาหลีเหนือและใต้ ขีดเส้นตรงในตอนแรก (ไม่ใช่เส้นปัจจุบัน)

ช่วงเริ่มก่อสร้างใหม่ (reconstruction)
ญี่ปุ่น : เมกามองว่าภัยความมั่นคงโลกตอนนี้ปรับจากพวกอักษะมาเป็นคอมมิวนิสต์แทน ก๊กมินตั๋นพ่ายแพ้ต่อจีนคอมฯในปีราวๆ 1947 (ไม่แน่ใจเลขเป๊ะๆนะครับ จะไปนอนละเพิ่งมาเห็นกระทู้) ทำให้ตอนนั้นความกลัวการเผยแพร่คอมมิวนิสต์จะลาม (จีนยังไม่แตกกับโซเวียต อันนั้นเกิดในยุคครุชชอฟ) ก็เลยเร่งปลูกเร่งโตญี่ปุ่นเต็มที่ เช่น
- อภัยโทษนักโทษทางการเมืองเป็นแสนๆคนกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ทั้งในญปและประเทศที่ไปปกครอง (เกาหลี)
- ไม่กำจัดองค์พระจักรพรรดิ (อันนี้มีมจอมพลป.ไม่ต้องมานะ คนละเคสกัน ) แต่ให้คงอยู่ในสภาพที่เป็นสัญลักษณ์เท่านั้น ทุกวันนี้ก็ยังขยี้ซ้ำๆว่าเป็นความผิดของตระกูลตัวเองที่ทำให้คนตายเป็นเบืองี้
- แก้ไขสภาพทางสังคมของผญให้ออกมาทำงานอะไรงี้ได้ (ผชม่องเท่งในสงครามไปหมดละ)
- รีบพิพากษาคดีนู่นนี่นั่นเพื่อให้ทุกคนยอมรับได้แล้วยอมจบ (ใครไม่จบก็เรื่องมุง) เพื่อเดินหน้าต่อ

เกาหลี : ความสำคัญเหลือเป็นลูกเมียน้อยมากๆ คือเมกาเน้นญปก่อนอยู่แล้ว ส่วนเกาหลีนี่อารมณ์ลูกเมียน้อยขั้นสุด คือดูแลเพราะเคยเป็นประเทศเมืองขึ้นของญี่ปุ่นเขา ก็เลยตามมาดู ตอนนักโทษการเมืองญปโดนอภัยโทษนี่โกรธแค้นอเมริกาใหญ่ด้วยซ้ำ

แล้วก็เกิดสงครามเกาหลีขึ้นมายาวหลายปีอยู่ (ไปต่อองก์ถัดไปก็สงครามเวียดนาม)

ผลก็คือญี่ปุ่นกลายเป็นแกนหลักให้เมกาใช้เป็นอู่เป็นท่าในการส่งเรือไปช่วย จะประกอบอะไรก็จ้างญี่ปุ่่นนี่แหละทำให้ บริษัทใหญ่ๆก็เลยงอกมาหมด โดยเฉพาะเครือ Zaibatsu (ก็คือ Chaebol นั่นแหละแต่เป็นฝั่งญป) ที่นึกออกเร็วๆก็พวกมิตซูฯ ซูมิโตโมะฯ ฯลฯ วนๆกันอยู่แค่ 5-6 บริษัทในเครือพวกนี้แหละแบกญปไว้

แต่ทีนี้ญปมันเกิดฟองสบู่ในช่วง 80s ซึ่งมันคือช่วงปลายสงครามเย็นแล้ว เมกาเห็นญปกลับมาเด่นกว่าตัวเองงไม่ได้ก็เลยเริ่มออกมาตราการทางเศรษฐกิจมากดดันนู่นนี่โดยเฉพาะ Plaza Accord ทีว่ากันว่าเป็นจุดเริ่มต้นอของการล่มสลายของเศรษฐกิจญป

กลับกัน เกาหลีก็พัฒนาตัวเองแข่งกับญปเรื่อยๆ ในตอนนั้นยังห่างชั้นญปอยู่เยอะ ของคุณภาพก็คนละเรื่องแล้ว เกาหลีใต้แทบจะไม่ต่างอะไรกับจีนเลยมั้งยุคนั้นในแง่คุณภาพ

ทีนี้พอฟองสบู่ญปแตก เกาหลีก็เลยเป็นฐานที่เหมาะกับการลงทุนมาก นโยบายทำนู่นทำนี่มาหมด
ที่ ironic คือสิ่งที่เกาหลีทำเพื่อชนะญป ก็เป็นสิ่งที่ญปนั่นแหละทำมาก่อนหน้าเป็นหลายสิบปี
ใช้ Chaebol ในการคุมประเทศไปเลยในช่วงนั้น
ผลก็คือเศรษฐกิจพุ่งจริง แต่พวกคนในเครือ Chaebol พวกนี้ก็คิดว่าตัวเองเหนือกฎหมาย (แล้วก็เหนือกว่าจริงๆ CEO Samsung เนี่ยติดคุกนะ พิพากษาจบแล้ว แต่ศาลไม่อนุมัติให้จำคุก อ้างว่า
"จำคุกไปจะสร้างผลเสียต่อรายได้ของประเทศมากกว่า ก็เลยพิพากษาให้เป็นการรองลงอาญาแทน" เออ เอากะมันดิ

ฉะนั้นแล้วถ้าถามผมจริงๆมันก็น่ามหัศจรรย์ทั้งคู่นั่นแหละ แค่เกาหลีมันน่าทึ่งกว่าที่ไปได้ไกลขนาดปัจจุบัน

ผมรู้สึกว่าญปมันเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่อยู่ละนะ ยิ่งก่อนสงครามมันคือหนึ่งในมหาอำนาจดีๆนี่เอง ตบจีน รัสเซียเป็นลูกแมวเลย

เทียบกับเกาหลีที่เป็นเบี้ยล่างเขามาตลอด ทำเลดูไม่น่าเป็นเอกราชได้ด้วยซ้ำ ผมว่าสุดกว่า

.

เกาหลีหลังสงครามเกาหลีไม่ได้ดีอะไรขึ้นมาหรอกครับ มาดีตอนที่ไล่ทหารออกไปได้
แต่มันก็น่าจะเกิดแต่ที่เกาหลีแหละ ประเทศนี้โดนกดหัวมาตลอดตั้งแต่ตั้งประเทศเลยมั้ง
ประชาชนก็เลยมีความดิ้นรน ปลูกฝังแนวคิดชาตินิยมได้
ช่วยกันจนทำให้เศรษฐกิจมันเติบโตได้ทั้งที่พื้นที่ก็ไม่ได้ใหญ่โต
ลองเป็นไทย ถึงจะไล่อำนาจที่ครอบหัวเราออกไปได้ ผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างจากเดิม
ดีไม่ดีอยากจะหาหมวกใหม่มาครอบด้วย เรามันสบายจนเคยตัว

ส่วนญี่ปุ่น ก่อนหน้าก็เจริญอยู่แล้ว หลังสงครามยิ่งเจริญมากขึ้น
แต่ตอนนี้ก็เป็นขาลงแบบสุดๆ คนรุ่นก่อนไม่มีความกล้าหาญที่จะออกจากเซฟโซน
ส่วนเด็กรุ่นใหม่ออกจากห้องให้ได้ก่อน