ใครจะดูแลแม่งก็คือการมี Regulator คุมปริมาณเงินกลุ่มเดียวนั่นแหละครับ คิดอะไรซับซ้อน
รัฐก็สร้างเงินเฟ้อได้ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล หรือกู้ยืม last lendor resort
แบงค์ชาติก็สร้างเงินเฟ้อได้ผ่านการให้รัฐบาลกู้เงิน และกลไกขึ้นลงดอกเบี้ยรวมถึง QE

สรุปคือ bitcoin is the answer?

แทงใจดำมั้ยละ ถ้าจะบอกว่า Bitcoin คือเงินที่ดีที่สุดตั้งแต่มนุษย์มีอารยธรรมมา ?

เอาจริงๆ กลับไปใช้ gold standard ก็เป็น answer แต่ gold มันผลิตได้ปีละ 2-4% และ salability across space แพ้ Bitcoin

เพราะใช้แล้วเครื่องฟิต สตาร์ทติดง่าย ถรุ้ย

bitcoin รอดูเอล ซาวาดอร์ ใช้ดูก่อนเปนไง

ส่วน gold standard มันพังตั้งแต่ great depression แล้ว

Great depression มัวแต่ไปโทษว่าทองคำคือสาเหตุ สาเหตุคือเราพิมพ์เงินมาเรื่อยๆก่อน great depression มาเป็นสิบๆปีก่อนท1929
แล้วพอพิมพ์ต่อไม่ได้ เพราะกฏหมายบอกว่าปริมาณเงินในระบบต้องแบคด้วยทอง 35% เศรษฐกิจเลยระเนระระนาดไงครับ เมื่อเริ่มพิมพ์แล้วก็ต้องพิมพ์ไปเรื่อย ๆ ถ้าหยุดเมื่อไหร่ความคาดหวังและสภาพคล่องตลาดทุนหายหมด


ส่วนจะรอ El salvador proof of hodl ก็ไม่ว่ากันครับ แต่ถึงวันที่กว่าจะรู้ว่ามันไปรอดเราก็คงเก็บบิทคอยน์ราคาปัจจุบันยากไปแล้ว

ดังนั้น เวลามีค่า ศึกษา Bitcoin

จริงๆ เงินเฟ้อคือสิ่่่งที่ดีนะครับ ถ้าอยู่ในตัวเลขที่เหมาะสม มันสื่อถึงเศรษฐกิจกำลังพัฒนา

ถ้าโลกนี้ไม่มีเงินเฟ้อจะเป็นยังไง ลองจำลองภาพง่ายๆ ว่าเงินในระบบมีจำกัดไม่ถูกผลิตออกมา

นึกภาพถ้าคุณเล่น ragnarok เซิฟเปิดใหม่ เริ่มต้นทุกคนมีเงิน 0 zeny เท่ากันหมด

1 zeny แรกมาจากทุกคนตีมอนนำของไปขาย npc แล้วถ้าจู่ๆวันนึง gm เอา npc รับซื้อขายออก
กลายเป็นว่าทุกคนไม่สามารถฟาร์ม zeny ได้อีกแล้ว เงินในระบบเกมมีจำกัด

คุณคิดว่าสังคมในนั้นจะเป็นยังไง
แน่นอนแรกเริ่มจะเกิดภาวะเงินฝืดเพราะทุกคนไม่กล้าใช้เงินมาจับจ่ายใช้สอย

ในเมื่อเงินมีจำกัด ไม่พอมาหมุนเวียนในระบบ ทุกคนก็จะหาไอเทมอย่างอื่นมาเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนแทน
โดยมูลค่าของสิ่งนั้น จะอ้างอิงจากความแรร์ในการหาและการคงอยู่สภาพของสิ่งๆ นั้น

เทียบง่ายๆ ก็เหมือนทอง เหมือนน้ำมัน หรือสมัยก่อนที่เอาเปลือกหอยเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน

เมื่อความต้องการซื้อ มากกว่าความต้องการขาย สินทรัพย์ทุกอย่างก็จะแพงขึ้น เป็นไปตามกลไก

แทนที่คุณทำงานเพื่อแลกกับเงิน คุณอาจจะได้ก้อนกรวดมาแทน เพราะเงินในระบบไม่พอหมุนเวียน

ฉะนั้นผมมองว่าการผลิดเงินออกมาและอัดฉีดเข้ามาในระบบ มันคือการรักษาสมดุลให้คงอยู่ครับ
แต่ทั้งนี้ต้องไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไป การรักษาความพอดีคือสิ่งสำคัญ
เพราะเผ่าพันธ์มนุษย์เราเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ

ส่วน Crisis ของ Fiat มีมาตั้งหลายรอบ แต่ไม่ยกมาพูด

Fiat พังไปกี่ประเทศ ไม่พูดถึง

เอาเถอะ เคย์เชี่ยนกับออสเตรียนมันก็เหมือนน้ำกับไฟอยู่แล้ว อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

การรักษาสมดุลคือการที่ตลาดจะลดราคา item ครับ ราคาไม่ใช่การอยู่คงทนถาวร ราคาคือ Information ของดีมานด์ ซัพพลาย
เมื่อสินค้าที่เป็นเงินหายาก แต่สินค้าทั่วไปในตลาดเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ราคาของสินค้าจะลดลงเมื่อเทียบกับเงินที่เป็นสินค้าที่แข็งแกร่ง

Again การรักษาสมดุลไม่ใช่การเพิ่มปริมาณเงิน

จะมีสงครามที่เห็นแจ้งชัดจริงกว่านี้

อ่านกระทู้นี้ละมันส์ดี
ขบเขี้ยวด้านความคิดทางทฤษฎีศศ

อยากจะร่วมวงด้วย แต่ความรู้เท่าหางอึ่ง