ทำงานด้านนี้ก็ต้องเชื่อแหละครับ

นาทีนี้ยังไม่มีคนเชื่ออีกเหรอ? นักวิทย์ก็เตือนแล้วปลายปีจะเกิดลานีญา แต่รัฐก็ไม่สนใจเตรียมการ ก็นี่แหละ

เดียวโลกมันก็รีเซทตัวเองได้

แค่มนุษย์จะอยู่ลำบากขึ้น จากภัยธรรมชาติ ที่เราเร่งให้มันเกิดไวขึ้น

แต่ได้เทคโนโลยี มาเสริม นี่แหละเรียก สมดุล

สมัยก่อน อากาศดี แต่ก็ ไม่ได้อยู่สุขสบาย ขนาดนี้

คิดเอาว่า ขี้เยี่ยว ยังขุดหลุม น้ำประปา ไฟฟ้า ไม่มีใช้

พอมายุคนี้ทำลาย ธรรมชาติ โลกร้อน แต่ เรามีแอร์ มีไฟ มีน้ำ

ส่วนไหนโดนภัยก็ลำบากเป็นจุดๆไป ต่อให้ไม่มี เรื่องโลกร้อน ภัยธรรมชาติ มันก็เกิด อยู่ตลอด อยู่ละ

สุดท้าย ถ้ามันถึงจุด เดียวมนุษย์ก็สูญพันธุ์ ไปเอง ละโลกก็ รีเซท สัก ล้านปี ธรรมชาติ ก็กลับมา เหมือนเดิม

น้ำแข็งที่มีอยู่ก็มาจากยุคน้ำแข็ง นั่นแหละ อุณหภูมิโลกปรับตัวอุ่นขึ้นตามวิถีของมันอยู่ละ

ตอนนี้มีอีกอย่างที่อยากให้สังเกตุ ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงที่โลกห่างจากดวงอาทิตย์ที่สุดแล้วนะ ทำไมแดดมันยังร้อนแรงเหมือนช่วงเมษายน อยู่เลย สำหรับตัวเองรู้สึกว่าดวงอาทิตย์มีแสงแดดที่ร้อนกว่าปกติเยอะมาก คิดว่าคงเกิดจากรัศมีดวงทิตย์เพิ่มขึ้นหรือเปล่า

ผิดแล้วครับ

https://thaiastro.nectec.or.th/library/misconception/5087/

น้ำมันปิโตรเลียมจะหมดโลก มันมาจากสมมติฐานว่าหากไม่มีการขุดเจาะเพิ่ม หรือยังใช้อัตราที่สูงแบบขณะนั้น ยังไงปิโตรเลียมก็จะขาดแคลน ไม่คุ้มทุนให้ขุดเจาะอีกต่อไป

ตอนนั้นเทรนด์ลดพลังงานฟอสซิล ลอคดาวน์โควิด ยังไม่มา การจะคาดเดาอนาคตเลยพลาดกันได้

จริงๆ ข้อ B เห็นในเพจพวกนักลงทุนเจ้าหนึ่งเอามาปั่นอยู่ โดยอ้างเรื่องงานวิจัยลวงโลก ว่าโลกร้อนก็เช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายก็มีนัยแฝงเสนอสมมติฐานตัวเองอยู่ดีเพราะจงใจไม่พูดถึงก๊าซเรือนกระจกอื่น และแหล่งคาร์บอนไดออกไซด์นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิต

(แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องคาร์บอนเครดิตมันจะดีนะ อันนี้เล่นแร่แปรธาตุ ผลักภาระไม่ต่างจากออกกฎสิ่งแวดล้อมเข้มๆ แล้วย้ายฐานผลิตมาในประเทศกำลังพัฒนา สมควรตำหนิจริง)

ถ้าจะบอกว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มันไม่ได้เกิดจากฝีมือมนุษย์ ก็ขอให้นึกถึงสาร CFC ที่ทำให้โอโซนเป็นรูโหว่จนทุกวันนี้แม้จะสั่งงดใช้มานาน กับน้ำมันมีสารตะกั่ว ดูเอาก็ได้ ว่าปริมาณไม่ได้มากมายแต่ยังส่งผลกับโลกขนาดนี้