??

ใช่ครับ ลาเต้มันก็คือนมสด ท๊อปด้วยเอสเพรสโซ่ช็อตอ่าครับ แค่นั้นเลย

ใช่

ลาเต้มีฟองนม = คาปู

ลาเต้คือ กาแฟ+นม+ฟองนม

แต่ลาเต้เย็นอะไม่มีฟองนม

ลาเต้เย็นเหรอครับ ถ้าเย็นก็ไม่ต้องไปซีเรียสว่าจะมีหรือไม่มีหรอกครับ มันไม่ original อยู่แล้ว
เดิมทีลาเต้ร้อนมันก็กาแฟกับนม พวกที่เป็นเมนูเย็นมันคือการดัดแปลงมาหมดแหละ อยู่ที่ใครจะทำยังไงแล้วหละ ขอแค่สารตั้งต้นมันคือกาแฟกับนมก็น่าจะพอแล้ว

ลาเต้ร้อน ต้องเอานมไปสตรีม มันก็จะมีฟองอยู่ดีครับ

ลาเต้ ในความเข้าใจของผมนะครับ กาแฟ+นมร้อน+ครีมนม

คาปู กาแฟ+นมร้อน+ฟองนม หยาบกว่าครีมนม ไม่แน่ใจว่าของคนอื่นเป็นแบบไหน

ถ้ารู้จัก ลาเต้อาร์ต

ก็จะเข้าใจ ลาเต้คือเอา espresso shot
ใส่ลงแก้วแล้วเอา นมที่ stream มาได้ที่
รินเข้าไปจนสุดท้ายทำออกมาเป็นลาเต้อาร์ต
รูปต่างๆ

ดังนั้นมันจะไม่มีฟองนมข้างบนเหมือน
Cappuccino (นมสตรีมมันไม่ได้เป็นโฟม
เท่าฟองนมที่ใส่ข้างบนคาปู)

แต่คาปูมันคือ ตีฟองนมแล้วตักฟองนม มาใส่เลยนะครับ

ถ้าเอาตามต่างประเทศ มีฟองทั้งคู่ครับ แต่ต่างกันที่อัตราส่วน

ลาเต้ ไม่นับฟองนมในสัดส่วนแก้ว อัตราส่วนนม:กาแฟคือ 2:1
ตักฟองนมมาแปะหน้าแค่บางๆ หรือถ้าเป็นลาเต้อาร์ทก็ถือว่านั่นแหละฟองนม

คาปู นับฟองนมเป็นสัดส่วนแก้วด้วย อัตราส่วน นม:กาแฟ:ฟองนมคือ 1:1:1

ลาเต้ มีฟอง

คาปุ มีฟอง

ทั้ง2ต่างกันคือ คาปุจะเข้มกว่าลาเต้

พูดถึงแค่ร้อนแล้วกัน
ฟองนมเยอะ = คาปู
ฟองนมมีแต่ไม่เยอะ = ลาเต้
ฟองนมน้อยมากแทบไม่มี = แฟลทไวท์

ผมเข้าใจว่าวัฒนธรรมการดื่มกาแฟมันเริ่มมาจากกาแฟร้อนก่อนนะ ทีนี้พวกสูตรหรืออัตราส่วนมันจะเริ่มจากร้อนเป็นหลักครับ ส่วนเมนูเย็นมันคือการประยุกอีกทีและไม่ค่อยเห็นความต่างระหว่างคาปูกับลาเต้เพราะเราใส่น้ำแข็งและใช้หลอดดูดมันเลยไม่เห็นความต่างของการใส่ฟองนมไว้ด้านบน เลยคิดว่าถ้าจะเทียบน่าจะต้องเทียบจากเมนูร้อนเป็นหลักครับ



ถ้าให้พูดถึงภาพรวม ความต่างน่าอยู่ที่อัตราส่วนของนมกับกาแฟครับ ลาเต้จะใส่นมเยอะกว่าคาปูชิโน่และมีฟองนมนิดหน่อยตรงด้านบน ส่วนคาปูจะแบ่งเป็นสามส่วนเท่าๆกันคือ นม ฟองนม และกาแฟครับ

มีร้านที่ทำแบบนั้นด้วยหรอครับ

ร้อน

บอดี้นม ลาเต้ > คาปู

โฟมนม คาปู > ลาเต้


เย็น

ลาเต้ไม่มีโฟมนม บอดี้นมเยอะกว่า

คาปูมีโฟมนม บอดี้นมน้อยกว่า