อาจารย์ มอ นเรศวร วิเคราะได้ลงลึกเลย ได้รู้อะไรหลายๆอย่างว่าแพ้โซนไหน ไหนจะ ผู้สมัครเพื่อไทย (ลูกสาวนายกเทศบาล) และพลังประชารัฐ (ลูกชายนายก อบจ) ในปี 66 คะแนนรวมปี 66 ประมาณ 37,000 ยังไม่นับรวมฝั่งอนุรักษ์นิยม ประชาธิปัตเก่า และภูมิใจไทย

ฝ่ายท้องถิ่นรู้สึกภัยคุกคาม ตอนหมออ๋องประกาศแคนดิเดท เทศบาล อบจ อบต

แพ้โซนวัดพิ กับวังน้ำคู้ ที่แพ้คะแนนเยอะๆ เกือบ 3,000 คะแนนใน 2 เขตนี้ ( มอ นรศวร ไม่ได้อยู่เขต1)

เพื่อนๆลองฟังคนที่อยู่พิษณุโลก วิเคราะห์ดูครับ ได้รู้อะไรใหม่ๆเยอะเลย เป็นการบ้านของประชาชนในการเลือกตั้งที่จะมาเร็วที่สุดต้นปีหน้า

นายก อบจ เชียงใหม่ กับภูเก็ต

ปล. ชอบประโยคที่ว่าการแช่แข็งให้ชนชั้นกลางใหม่ไม่เกิดในต่างจังหวัดบางพื้นที่ เพราะถ้าเกิดจะเป็นผลดีต่อพรรคประชาชน

รวมพลังกระทืบไอ้ส้ม โครตนัว

ใช่ครับ​พูดง่ายๆ
​อิติ่งวัดพริก​กับน้ำคู้
เอาไว้เป็นฐานหลัก
มันแบ่งเขตแปลกๆแต่แรกแล้ว

เกี่ยวกับคนไม่ได้กลับไปเลือกตั้งด้วยไหมครับ คิดว่าส่วนนี้น่าจะมีผลมากไหมครับ

ผมว่าน่าสนใจนะ นี่อาจจะเป็นระบบที่โทนี่มองไว้ก็ได้คือรวบบ้านใหญ่ที่แตกให้กลับมาแต่ละเขต จากเดิมเรายังมองไม่ออกเพราะเขาไปคนละทาง แต่ตอนนี้พอทหารหายไปสายน้ำเหล่านั้นอาจจะไหลรวมมาที่โทนี่อีกครั้ง

เหมือนปลุกกระแสไม่ขึ้น พิโลก รอบนี้ก่อนเลือกตั้งซ่อม บอกเลยขนาดเอา ธร มาปราศรัย คนก็ไม่ค่อยมีนะ มีรถแห่ก็มีกระบะ กับ มอร์ไซต์พ่วงข้าง อย่างละคัน คนแทบไม่สนใจเลย ขับผ่าน ขับแซง
ผมว่าการโปรโมท ยังไม่ดีนะทีมงานในจังหวัดพิโลก ยังทำไม่ถึงอ่ะ ต้องเซตระบบดีๆแล้ว มันต้องทำให้มีกระแส ความดีมีแล้ว แต่ความเก๋าเกมยังไม่มี ต้องมีคนทำงานด้านนี้จริงจัง ปลุกระดม สร้างกระแส