ผมก็ไม่ได้มองว่ามันพูดถูกนะ บางอันก็เบียวเกิน อันไหนฟังได้ผมก็ฟัง ฟังไม่ได้ผมก็ชั่งมัน

เช่นการลงทุนเนี่ย ก็ไม่ใช่จะ growth เสมอไปด้วย ใครซื้อหุ่้นโดยเฉพาะตลาดไทย คนถือยาวมันเจ็บกันเยอะครับ ตลาด 5-6 ปีนี้วนอยู่ในอ่าง ราคาเดิมๆ new high หุ้นพื้นฐานดีๆ ก็ทำกันน้อยมาก ส่วนใหญ่ถือไปซักพักก็ร่วง พอขึ้นก็วิ่งไปราคาเดิม แล้วก็ร่วงใหม่

แต่หุ้น ตปท ก็หนังคนละม้วนกับบ้านเรา 55555

สำคัญคือบริหารจัดการให้เป็น มันมองเป็นหนี้ก็แรงไป

แต่เอาจริงๆ ผมว่ามันพยายามจะตีความสิ่งที่สื่อ แบบแนวพวกฝรั่งชอบพูดมากกว่าครับ มันเรียกว่า metaphor ครับแบบนี้ ผมไม่รู้ภาษาไทยมันต้องใช้คำไหน

โดยส่วนตัวคิดว่า นี่เป็นอีกหลักการที่เพี้ยนครับ
ถ้าจะว่าไปถึงแกนขนาดนั้น จะพูดไปถึงขนาดนั้น ทุกอย่างก็ = หนี้ ถูกไหมครับ
ตราบใดที่เรายังอยู่ใน Debt-based monetary system ทุกอย่างก็ควรจะเป็นหนี้หมด

"คนเอาเงินไปฝากแบงค์ แบงค์เอาไปปล่อยกู้ต่อ"
ซึ่งมันก็คือ Money Multiplier ซึ่งคือแกนหลังนึงของระบบนี้

แถมCK ไม่ชอบอสังหา ไม่ชอบบ้าน คอนโด ที่ดินด้วย
Bank Run ถ้าพูดถึงระบบเลย ก็แปลว่าประเทศเจ๊งหมด รัฐบาลจะdefaultทุกอย่าง หรือเกือบก็ได้
ถ้าหลักการคือแบบนี้ ก็แทบจะแปลว่า ทุกอย่างมันอินเฟลตหมด ก็ไม่ควรมีคำว่าการลงทุนที่ดีรึเปล่าครับ

ยกตัวอย่างพวกเฟลสเตดประเทศที่เป็นแบบนั้น ไม่ว่าจะหุ้น ที่ดิน หรืออะไรก็แล้วแต่
ต่อให้ราคาขึ้นจริง แบบโคตรพ่อโคตรแม่ขึ้นเลยก็ว่าได้ ในเชิง real price (ราคา-เงินเฟ้อ)
มันก็ไปไม่ได้ทั้งนั้น หุ้นขึ้นร้อยเท่า แต่ราคาก๋วยเตี๋ยวขึ้นหลายร้อยเป็นพันเท่า มันก็ไม่น่าจะโอเค

assumption ตรงนี้จึงดูเพี้ยนๆ ว่าจริงๆต้องการพูดเรื่องอะไรกันแน่
ถ้าจะพูดถึงระบบการเงินโลก ถ้าว่ามาแบบนั้นยังพอเข้าใจได้ ว่ามันห่วย อะไรไม่ดียังไง
ทำไมต้องบิทคอย สเตเบิ้ลคอย บลาๆๆ มันยังฟังขึ้นกว่า

เพราะไม่งั้น มันจะเมคเซนส์ได้ยังไง เพราะมูลค่าไอ่ของพวกนี้ ก็คือการ generate cash หรือเทียบเท่า
ในระยะยาว บริษัทอะไรก็แล้วแต่ ก็อยากขายของเป็นเงินสดหรือ cashที่=debtนี้
ต่อให้จะเอา cash ซึ่ง = debt ไปลงทุนเร็วๆ มันก็เพื่อจะได้ cash ที่มากขึ้นเข้ามาอีก
ซึ่งก็คือกระบวนการประมาณนี้ get cash(more debt) > invest > get more cash > more investment > much more cash ... วนไปเรื่อยๆ แต่สรุป cash = ของไม่ดี

แบบนี้เงินสด=หนี้ เอาไปลงทุนอย่างอื่นเหอะ ก็บอกตรงๆว่า ไม่เข้าใจครับ
ว่าจะโง่ทำทั้งหมดนั้นกันไปทำไม

เพราะเรื่องนี้ทั้งหมดทั้งหมดมัน = กฎของเกมครับ ซึ่งกฎของเกมทั้งหมดมันก็เบสออนแคช
ซึ่งจะว่าไงก็แล้วแต่ แต่โลกนี้มันก็เล่นอยู่บนเกมนี้ทั้งหมด ซึ่งทุกอย่างที่ซื้อขายกันได้
(ไม่นับพวกแลกเมียกัน หรือแลกความรัก ความทุกข์ บลาๆๆ)
มันก็ใช้เงินหมด in general
และมูลค่าของสินทรัพย์ทุกอย่างที่ตีเป็นอะไรก็ตาม มันก็ไม่เคยมีอยู่จริง ถ้าไม่ตีเป็นเงินอะไรซักอย่าง

ต่อให้ลากมาโคตรจะออกทะเล และสมมติว่าเป็นจริง สมมติให้เมกาเบี้ยวหนี้ ทุกประเทศทุกคนเบี้ยวหนี้เลย
ในระยะยาว มันก็ต้องมีระบบการเงินใหม่เข้ามาเซ็ท0 ในซักวันนึง
ซึ่งจะบอกว่าคนมีเงิน1000ล้านวันนี้ ในระบบใหม่ จะเป็นหนี้500ล้าน เออ... มันไม่เข้าใจหลักการอะ

คือจะบอกว่าอะไร ว่าคนที่ถือพันธบัตร อย่างแย่สุดลงไปล้าน เหลือ0
ไม่พอ ต้องไปจ่ายหนี้แทนประเทศต่างๆอะหรอ? มันจะไปตรงนั้นได้ยังไง ไม่เมคเซนส์ซักนิด

จะบอกว่าเงินสด 1000ล้านวันนี้ = 10นิวบาทในวันหน้า
สินทรัพย์มันก็ไปทางเดียวกันแทบทั้งนั้นรึเปล่า? ถ้าจะว่ากันในภาพใหญ่ ในเชิง asset class
เช่น หุ้น พันธบัตร ทองคำ ที่ดิน บลาๆๆ มันก็ลงกันหมดอะ
(แน่นอนว่ารายละเอียดรายตัวรายที่อาจจะต่างได้ แต่ในภาพasset classทั้งหมด ก็ควรไปทางเดียวกัน)

อย่างเดียวที่จะเมคเซนส์ได้ ตามความเข้าใจส่วนตัวคือ ถือassetดีดี
แล้วก้าวข้ามยุคสมัยทางการเงิน ซึ่งคือเงินในปัจจุบันจะหายไป แล้วกลายเป็นอย่างอื่น เช่นสมมติบิทคอย
แบบนี้มันยังพอเข้าใจมุมมองได้

แต่ไม่ใช่บอกว่า cash = debt แบบดื้อๆ แล้วให้ไปซื้อกองทุน หุ้น หรืออะไรงั้น
มันไม่เมคเซนส์อะ ถ้าจะสุดโต่งขนาดนั้น ก็พูดมาเลยว่า เงินในปัจจุบันมันจะหายไป
แล้วอีกหน่อยจะมีวิวัฒนาการไปเป็น.. หรืออะไรซักอย่างพูดไปลอยๆยังดีกว่า ซึ่ง cash ในปัจจุบัน = trash
ถ้าจะเอาแบบนั้นมันยังพอเข้าใจได้ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไร ถ้าassetมันดีจริง

ไม่ว่าระบบการเงินมันจะเป็นยังไง มันก็จะgenerate XXX/YYY/ZZZ ในระยะยาวได้ ซึ่งอาจจะคือ
นิวไทยบาท นิวดอลล่า อีตีเรี่ยม บิทคอย ดอจคอย หรืออะไรก็แล้วแต่

ถ้าเงินสดมันจะ=หนี้จริง และเอาตามคำแนะนำ มันก็ควรจะเป็น ไปซื้อ real asset ซึ่งก็ไม่ชอบอีก
แต่ตลาด cash กำลังจะ crash ไง เพราะงั้นตลาดการเงินทั้งหลาย หุ้น บอน ฟอเร็ก กำลังจะพัง
เพราะงั้นบทสรุปส่วนตัวจากคำแนะนำแบบนี้คือ ไม่ต้องทำอะไรซักอย่างในระยะสั้น+กลาง ใช่ไหม
รอระบบการเงินโลกเปลี่ยน ลงทุนระยะยาวพอ พูดแค่นี้ก็ได้เลยจริงไหม

ผมก็ยัง งงๆ แกพูดนะ