[RE: Concord ประกาศปิดตัว]
เอาจริงๆกราฟฟิค + Gameplay + Cinematic อะไรพวกนี้มันขายได้เลยนะ แต่ต้องไม่ใช่ราคานี้ในยุคนี้อะ
คือสมัย OW 1 มันก็ขายราคานี้แหละ $40 แถมเป็นตัวสแตนดาร์ดอีก
https://www.blognone.com/node/74509
เพียงแต่ว่าในยุคนั้นไอเกมแนวๆนี้มันมีแค่ TF2 ที่พอจะนึกออกในตอนนั้น ก็เลยออกมาแล้วมีคนแห่เล่นในระดับนึง
ตัวละครก็ออกแบบมาดี (ดีจน R34 แม่มมาโคตรไว
)
ปัญหาคือแม่มพัฒนามา 8 ปีเพื่อ Refine ตรงนี้มันไม่จำเป็นเล้ย
OW สมัยแรกๆมันก็ไม่ได้ Bug-free อะไรขนาดนั้นแต่มันก็ค่อยๆแก้เรื่อยๆ ฉะนั้นแล้ว 8 ปีนี่ยิ่งไม่ควรเอามาโฆษณาเลยด้วยซ้ำ แม่มยิ่งตอกย้ำว่ามันอยู่ใน Development Hell คือเกมที่พัฒนาแล้วเกิดปัญหาดีเลย์ ไม่ว่าจะไอเดียตัน ปัญหาบัค ฯลฯ
ละก็รู้อยู่วงการนี้แม่งเปลี่ยนไวขนาดไหน 8 ปีที่แล้วก็ 2016 ซึ่งก็เป็นปีที่ OW1 เปิดตัว ซึ่งถามว่ามันมีเกมที่พยายามมาสู้ไหมมันก็มีแหละ แต่ก็สู้กระแสมันไม่ไหวจริงๆ แถมเข้าปี 2017 ก็กลายเป็นปีที่ PUBG เปิดตัว คนแม่งก็เฮโลไปเล่นกันหมด + หลายค่ายก็แห่ทำ BR กันหมด จริงๆถ้ามันปรับไป BR อาจจะเสร็จหลายปีก่อนแล้วมั้ง
เรื่อง Woke อะไรพวกนี้จริงๆมันไม่ได้อะไรมากขนาดนั้นหรอกแรกๆอะ คนแม่งเล่นเกมก็ไม่ได้มานั่งดูตูดดูนมกันตลอดหรอก เพียงแต่พอเกมมันไม่มีอะไรใหม่ๆเสนอให้ต่างจากเดิมนอกจากเรื่อง Pronouns กับ Dev ปากแจ๋วด่าคนที่วิจารณ์ (ทุกวันนี้แม่มล็อค Twitter ตัวเองไปละ นี่กำลังลุ้นอยู่ว่า PUBG จะเตะมันออกด้วยไหมเพราะเห็นยังอยู่ใน Bio อยู่) มันก็เลยพากันลงเป็นรถไฟเหาะแบบนั้น
ฟางเส้นสุดท้ายคือการล็อบบี้ระหว่างขนมหวานและสื่อหลายๆเจ้านี่แหละ
แบบที่ท่านเม้นบนๆบอก คือขนมหวานแม่งเหมือนโจรเรียกค่าคุ้มครองละ ใครไม่เอาตัวเองไปปรึกษาก็จะรวมหัวกับสื่อต่างๆในมือ ทั้ง IGN ทั้ง PC Gamer ออกรีวิวมากดดัน วิจารณ์เสียๆหายๆ
ของ CC นี่คือ PC Gamer/IGN ออกบทความมาปกป้องยิ่งกว่าบอดี้การ์ดทรัมป์ บอกปัญหาอยู่ที่พวก Anti-woke
หนักสึสๆ