เทนนิสโอลิมปิก ใหญ่กว่าแกรนด์สแลมครับนะ
ความยากของเทนนิสในโอลิมปิกคือ สภาพสนามและสภาพอากาศเปลี่ยนไปตามเจ้าภาพปีนั้น ๆ ทำให้ประเมินได้ยากกว่าแข่งแกรนด์สแลมที่นานๆ ทีจะเปลี่ยนสนามและกฎเกณฑ์

เพียงแต่คนที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้ มักมือขึ้นในช่วงนั้นผิดกับทัวร์นาเมนต์ปกติ หลายคนอาจคิดว่าพวกตัวท็อปๆ ไม่สนใจ อย่าง Monica Puig ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก และ Andy Murray ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยซ้อน

โนเล่ที่รอคอยเหรียญทองโอลิมปิกมานาน ยังลงทุนถอนตัวบางรายการที่กระทบกับร่างกาย ก่อนมามือขึ้นในหนนีน้

อนึ่ง สเตฟฟี่ กราฟ เป็นคนเดียวที่ทำโกลเด้นสแลม ในปีเดียวได้ จากทั้งหมด 13 คน สื่อว่ารายการนี้ยากขนาดไหน
https://olympics.com/en/news/golden-slam-tennis-winners-list

ส่วนฟุตบอลชาย ให้ฟุตบอลโลกเหนือกว่าในแง่ชุดใหญ่ (อาจนับตั้งแต่ 1954) แต่ถ้าเป็นเยาวชน รายการนี้คือรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ 1992

ฟุตบอลหญิง ส่งชุดใหญ่แข่งเหมือนกัน รายการนี้ถกเถียงว่าเจ้าไหนสูงกว่า เพราะแข่งสี่ปีเหมือนกัน ต่างกันตรงคัดทีมเข้ารอบที่บอลโลกมีทีมเข้าแข่งขันมากกว่า

ฟุตบอล กอล์ฟ มันมีความรู้สึกของการเป็นรายการเล็กๆ อะ บอกไม่ถูก

บาสโอลิมปิกดูมีศักดิ์ศรีมากกว่าชิงแชมป์โลก

มวย สมัยนี้ก็ทำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว

เทนนิสนี่ หลายคนไม่ค่อยด้อยค่านะ มีแต่คนอยากได้นะ โอลิมปิกน่ะ

ขอเถียงว่าแกรนด์แสลมเทนนิสสำคัญกว่า เนื่องด้วยประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่นวิมเบิลดันมีแข่งเปน100ปี+
โอลิมปิกเทนนิสนี่มาๆไปๆ
ได้แชมป์ก็ยากกว่า ฝ่ายชายเล่น5เซต จำนวนรอบก็เยอะกว่าโอลิมปิก
อย่าง Murray ทุกคนจะจำว่าเปนแชมป์แกรนด์แสลม3สมัย โอลิมปิกเหมือนเปนตัวแถม

โอลิมปิกไว้เสริมบารมีอย่างเดียว เช่นโนวัค ได้แชมป์ทุกอย่างแล้วเหลือเหรียญทองอย่างเดียว

แต่คนอื่นๆ ทุกคนอยากเปนแชมป์แกรนด์แสลมหมด แต่ถ้าปีโอลิมปิกมา แล้วได้แชมป์เช่นZverev ปี21ที่โตเกียว ก็ฟีลประมาณ "ได้ทองก็ยังดีวะ แต่แกรนด์แสลมเป็น0"

พวกที่ไม่ได้มีนักกีฬาอาชีพ

วิ่งที่ท่านหมายถึงคือพวกมาราธอนใช่ไม เพราะถ้าวิ่งใน track ยังไงก็โอลิมปิค

ใครๆ ก็อยากได้แกรนด์สแลมสักครั้ง อันนี้ไม่เถียง
ยิ่งได้ครบทั้ง 4 รายการ ยิ่งดี ระดับกวาดหลายสมัยแบบ โนเล่, นาดาล และเฟดเอ็กซ์ ยิ่งหายากไปอีก
ไม่ต้องพูดถึงโกลเด้นสแลม

งั้นถามกลับว่า คนจำ Murray เพราะได้แกรนด์สแลมสามสมัยที่ว่า รึว่า เหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติด มากกว่ากัน รายการประดับบารมี แข่งสี่ปีครั้ง แต่แชมป์แทบไม่ซ้ำกันที่ว่า

แล้วยิ่งรอบแข่งมา 4 ปีครั้ง ไม่มีให้แก้ตัวแบบแกรนด์สแลม ผมก็ยืนยันว่า โอลิมปิกสำคัญกว่า
จำนวนรอบน้อยกว่า (64 คนในประเภทเดี่ยว) เพราะเขาเก็บคะแนนจากทัวร์นาเมนต์ตลอดปีนั้นก่อนแข่งโอลิมปิก และจำกัดโควต้าประเภทเดี่ยวสูงสุดชาติละ 4 คน ขณะที่แกรนด์สแลมไม่มีข้อห้ามนี้ อันดับโลกถึง หรือคว้าโควต้าพิเศษมาก็แข่งได้

ส่วนเรื่อง สามในห้าเซ็ต ของเทนนิสแกรนด์สแลมชาย ทำให้ยากกว่า สองในสามเซ็ต ที่ใช้ในรายการอื่นรวมถึงโอลิมปิก อันนี้อาจจะมองต่างกัน คือสองในสามเซ็ตเหมาะกับพวกปิดเกมเร็ว แต่สามในห้าเซ็ตเหมาะกับพวกอดทน แต่แน่นอนก็ใช้แรงมาก

ทำให้ในแกรนด์สแลม จะไม่ค่อยเห็นชายเดี่ยวมาลงชายคู่ หรือคู่ผสม อย่างรายการอื่นด้วยเหตุนี้ แต่โอลิมปิกมีให้เห็นบ่อย ๆ

เทนนิสนี่แล้วแต่คนจะมอง ส่วนตัวผมก็มองgrandslamคือที่สุด
andy roddick บอกไว้ในรายการpodcastว่าgrand slamสำคัญกว่า
andrey rublev รัสเซียอุตส่าเชิญให้มาแข่งพี่แกตอบปฏิเสธเฉย

บาส : เราน่าจะมองเป็นมุมทีมชาตินะ ซึ่ง Olympic น่าจะศักดิ์ศรีดีกว่า FIBA World Champ

เทนนิส : Grandslam ยังคงสำคัญกว่า แต่เริ่มจากปักกิ่ง ผมว่ามันสำคัญขึ้นเยอะเลย แต่ในปฏิทินรายการแข่ง มันยังสำคัญสู้รายการ Master ไม่ได้เลย (ถ้าสำคัญ เทนนิสชายต้องแข่ง 5 เซ็ตแล้วแหละ)

ไม่ว่าจะชนิดไหน ผมว่า สำหรับกีฑา โอลิมปิก คือที่สุดแล้วครับ

แกรนด์สแลม vs โอลิมปิค มันวัดยากเพราะมัน 4 vs 1

แต่ถ้าแยกออกมาโดด ๆ แค่รายการเดียว ผมว่ามีแค่วิมเบิลดัน ที่ดูยิ่งใหญ่เทียบโอลิมปิคได้

โอลิมปิกปี 2024 นักกีฬาจากรัสเซียและเบลารุส ต้องลงแข่งในนามทีม "นักกีฬาเป็นกลางรายบุคคล" (AIN) เพราะถูก IOC ตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงแข่งในนามทีมชาติและประเภททีม ลงได้แค่ประเภทเดี่ยวและประเภทคู่

ใครที่ได้รางวัลในนามทีม AIN จะไม่ถูกนับอันดับในโอลิมปิกหนนี้ ไม่สามารถเล่นเพลงชาติตนเองได้เมื่อได้รับเหรียญทอง

นักกีฬาสองชาตินี้ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บ ก็ไม่อยากเล่นใต้ธง AIN ครับ ซึ่ง Rublev ถอนตัว แต่ Medvedev ซึ่งเป็นมือต้นๆ ของรัสเซียเช่นกัน กลับลงแข่งขันและไปถึงรอบ 8 คนสุดท้ายครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องรายบุคคลมากกว่า

ดูรายการเดวกันเลย

รอดดิก บอกขอวิมเบิลดันซักสมัยดีกว่าเหรียญทอง

พวกมาราธอนผมไม่แน่ใจไม่เคยตามเลย แต่วิ่งใน track โอลิมปิคแน่นอนครับ

ที่สุดของมาราธอน ก็โอลิมปิกครับ

ที่บอกว่าสถิติต่างๆ เกิดใน world majors มากกว่า เพราะหลายๆปัจจัยครับ

เช่น

1. สนามต่างๆมันเอื้อให้ทำสถิติ เช่น สนามเบอลินมาราธอน ส่วนใหญ่จะเป็นทางราบ อากาศไม่ร้อน อย่างโอลิมปิกปีนี้ ร้อนตับแลบ คิปโชเก้ที่ว่าแน่ ยังยางแตก

2. มีเพเซอร์คอยวิ่งนำบังลมให้ ช่วยลดแรงต้านจากลมไปได้เยอะ ทำให้ไม่หมดก่อนที่จะพ้น 30 กม แลเวไปอัดช่วงท้าย

3. เกมส์วิ่งของโอลิมปิก มันมาทำความเร็วแบบรายการอื่นไม่ได้ ใครเปิดก่อน อาจจะได้ปูด แล้วอาจจะไม่มีโอกาสมาวิ่งอีกเพราะแต่ละประเทศจะคัดแต่ตัวโหดๆมา รวมถึงปัจจัยด้านบนด้วย ที่ทำให้ทำเกมส์เร็วไม่ได้ จึงไม่ค่อยเห็นสถิติโหดๆในโอลิมปิก

แต่ถ้าพูดถึงที่สุด ยังไงก็ มาราธอนโอลิมปิก ครับ