ผลจากเอ็นโซ่ ของอาเจนร้องเพลงเหยียดนักแตะฝรั่งเศส และโรดี้เหยียดชาติอื่น เราทุกคนรู้ ทุกชาติรู้ว่ามันไม่ดี ไม่ควร เป็นเรื่องไม่น่ากระทำ แต่เจาะลึกลงไปแล้วรู้สึกกันไหมความรุ่นแรงของการเหยียด ของแต่ละเชื้อชาติจะมีความรุ่นแรงต่างกันไป เช่น
1. ถ้าเกิดเหยียดคนผิวสี หรือผิวดำ (ไม่รู้เรียกแบบนี้เหยียดไหม) ความรุนแรงจะ Level 10 เลยคือพากันประนาม ออกมาเรียกร้อง บลา ๆ
2. แต่เป็นการเหยียด ในกลุ่มยุโรบด้วยกัน มีน้อยด้วยมั้ง เช่นคนผิวสีเหยียดคนยุโรปทั่วไป (ไม่รู้มีป่ะ) ความรุ่นแรง Level 7-8
3. พอสองกลุ่มบน ยุโรป คนผิวสี เหยียดฝั่งเอเชีย ดูไม่เดือดร้อนเท่าไร ไม่มีคนออกมาเรียกร้องอะไร Level 4-5 ประมาณ อ้อพวกเหยียดนี่ จบ ๆ ไปอีกอย่างเพราะเอเชียเราไม่กระตือรือร้นด้วยละมั้ง

อย่างกรณี เอ็นโซ่ และโรดี้ หากร้องเพลงเหยียดทางเอเชียผมว่าการ take action ต่าง ๆ น่าจะน้อยกว่านี้มาก จากจุดนี้เอเชียเราควรหาคนเป็นหัวเรือในการ take action ด้วยไหมรู้สึกเกิดอะไรกับเอเชีย เงียบ ๆ กันหมด

ณ ปัจจุบันเอเชียมันจุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหารอยู่แล้วครับ

แต่แค่ในอดีตเราไม่ได้มีการถูกนำไปเป็นทาสเหมือนฝั่งคนดำ

การต่อสู้มันไม่ได้ยาวนานเข้มข้นแบบนั้น เรามีวัฒนธรรมของเรา

เราค้าขาย เราทะเลาะกันเอง เราปิดประเทศ เรามีอารยธรรมประมาณนึง

ไม่งั้นเราก็ถูกจับไปเป็นทาสแบบคนดำนั้นแหละเพราะคนขาวมันไม่ได้มองเป็นมนุษย์

แต่หลังจากนี้ไปอีก 100 ปีก็ไม่แน่ ถ้ามันแก้ได้ก็ดีเราก็รอดไปด้วย

ถ้ามนุษย์มันแก้ไม่ได้จริงๆวันที่พวกผิวเหลืองโดนกดหนักๆมันก็มาแน่ๆ

เหยียดคนดำ เดือดร้อนสุดในโลกตอนนี้

จริง ดูเหมือนกลายเป็นไม่เท่าเทียมกันไปแล้ว

เห็นด้วยว่า เอเชียนี้ต่ำสุดของห่วงโซ่ จริงๆ ตอนนั้นเคเนดี้ ของเชลซี ที่ลงสำรองยุคน้ามูรอบ2 ฮิสดิ้ง ก็ไปเหยียดคนจีนตอนปรีซีซั่น กลับมาก็ปล่อยยืม ไปวัตฟอร์ตหรือนิวคาสเซิลนี้แหละ ไม่มีดราม่าไรเลย

คนดำตอนนี้กำลังวาดมาดใหญ่ที่สุดในโลกไงครับ เดมเบเล่ตอนนั้นเห็นสมาคมฝรั่งเศสหรือนักเตะคนดำมาเรียกร้องไม? ก็ไม่เห็นแถมเคสนี้ระดับการเหยียดหรือล้อสำหรับบางคนก็ไม่เท่ากัน ไม่ใช่แค่ผมที่คิดว่ามันคือการล้อ banter ไม่ใช่ Racist

ไปเห็นมีคนบอก ถ้าเนื้อเพลงเป็น

พ่อเป็นไอร์แลนด์ แม่เป็นเวลล์
แต่พาสปอตเป็น อังกฤษ

ก็ไม่ดราม่าแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ มันคนละเรื่องกัน

ปัจจุบันมีหลายบริษัทระดับโลกที่คนเอเชียที่เป็นหัวหน้าระดับผู้บริหารขององค์กรใหญ่ๆ มีฝรั่งเป็นลูกน้อง แต่ก็ไม่ค่อยมีข่าวคนเอเชียเหยียดฝรั่งเท่าไร

พวกคนผิวขาวมักจะรอดตัวจากการโดนเหยียดอยู่เสมอ

ฮีชาน พึ่งโดนไปเมื่อวันก่อนแต่เงียบกริ๊บ

เหยียด แจ๊คกี้ชาน เงียบกริ๊บปล่อยผ่านไอ้สันขวาน!!! ไหนบอกเท่าเทียม เท่าเทียมเก๊ ถุ้ยยยยย!!!

ฝรั่งเศสก็ดูเฉยๆตอนเดมเบเล่กับกรีซมันล้อเลียนคนญี่ปุ่น
เดมเบเล่ก็คนดำแท้ๆโดนมั่งก็ทำดราม่า

มองว่าสงสารพวกมันครับ โลกไปถึงไหนแล้วยังติดอยู่กับการเหยียดต่างๆ เดี๋ยวก็ได้บทเรียนจากสังคมเองล่ะพวกนี้ไม่วันใดก็วันนึง

คนดำ อ่อนไหวมากกว่าด้วยเรื่องประวัติศาสตร์

พวกเขาแสดงออก และ Reaction รุนแรงกว่าเอเชีย

เอเชียไม่ได้ไม่รู้สึก แค่มันไม่ค่อยมีใครฟังหรือมาสนใจอะ จริง ๆ

ถ้าไม่โลกสวยเกินไป สิ่งเหล่านี้มันคงยากที่จะหมดไป ความแตกต่างด้านวัฒนธรรม ภาษา กายภาพ แนวความคิด ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา สิ่งเหล่านี้มันก็หล่อหลอมและส่งต่อกันมา

- ผิวขาว
- ผิวดำ
- เอเชีย
- ละตินอเมริกา
- อาเซียน
- ตะวันออกกลาง

สุดท้ายมันจะมีเรื่องมาใส่กัน ช่วงโควิดระบาด ถ้าหน้าตาใครออกจีน ไม่ว่าเป็นเอเชียชาติไหนก็โดนเหมาหมด ทุกวันนี้ยุโรปก็แยกคนเอเชียไม่ออก เรียกไชนีสทั้งนั้น

คนเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ ถ้าโดนยุโรป ผิวดำ เหยียดมาจะเป็นเดือดเป็นร้อน แต่ประเทศตูเหยียดพวกอาเซียนได้

คนอาเซียน อย่างไทย ก็ไปเหยียดประเทศเพื่อนบ้าน เขมร เมียนมาร์ ว่าชนชั้นแรงงานบ้าง อะไรบ้าง

สุดท้ายมันคือ สันดารมนุษย์ที่พยายามกดผู้อื่นให้ลงต่ำ และคิดว่าตัวเองดีกว่านั่นแหละครับ

ผิวสี เหยียดเราเอเซียอีกทีนึง

ขนาดญี่ปุ่นน่าจะได้รับการยอมรับมากสุดในเอเซีย ยังโดน

จำได้ รูดิเก้อ ตอนบอลโลก