ในความคิดความรู้สึก ประการ
สำหรับท่าน ยุคนี้รวยยาก หรือ รวยง่าย


ผมหลบในไทยมาทำเสริมตลาดตปท เจอคนไทยมาทีหลังแม่งตามก็อปตามลอกรายวัน มันเฝ้าวันต่อวัน
พวกดรอปชิบไม่มีต้นทุน

หลังโควิดผมเจอคนเลิกเปลี่ยนการค้า ธุรกิจเยอะชิปเป๋ง

คู่แข่งที่ไม่เหมือนสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ โรงงานไทย-เทศ ค้าส่ง ค้าปลีก อาชีพเสริม พวกดรอปชิป
ตัวเลือกสินค้าเพียบ ทางเลือกเพียบ ไม่โตไปพร้อมกับเศรษฐกิจ
ไม่มีแบรนด์ที่เรามีคนเดียวไม่สามารถเติบโตได้เลย

ตอนเรียนมหาลัย อ.คนนึงแกชอบมาสาย แม่งบอกต้องผูกขาด
ตอนนั้นไม่เข้าใจตอนนี้เข้าใจละทำไมเจ้าสัว รัฐ แม่งต้องการผูกขาดกันจัง

รวยง่ายคับ ขอแค่รู้งี้ อย่างตอนบิทคอยรวยแบบไร้สาระ เกมเปิดใหม่รีไอดีขาย ขายของในเกม อย่างตอนromเปิดใหม่ๆกาดกอบบิ้นลีดเด้อร่วง คนซื้อไอดีไป3แสน ทั้งๆที่กาดแม่มโคตรกระจอก คนมีเงินซื้อของไร้สาระเยอะแยะ ขอแค่คุณมีดวงหาของไปขายได้

ยากขึ้นแน่นอนครับ
ไม่งั้นความเหลื่อมล้ำไม่สูงแบบนี้หรอก

ง่าย เพราะมีข้อมูลให้ดูเยอะ

ไม่สำคัญว่าจะรวยยาก หรือรวยง่าย

สำคัญคือจะ รวย หรือเปล่า

ผมว่ารวยยาก แต่รวยแล้วคนเห็นง่ายกว่าเดิมเพราะมี Social

รวยง่าย แต่รักษาระดับยาก

หาเงินง่าย แต่รวยยาก

รวยง่ายแต่ยั่งยืนยากครับ

1.สมัยนี้เงินหมุนเวียนไหลผ่านออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทำให้มีหลายคนที่จับจุดถูกขายในสิ่งที่ต้องการหรือเป็นคนที่ต้องการของคนส่วนมาก จะสามารถกอบโกยรายได้ ได้ไวกว่าสมัยก่อนหลาย 100เท่าครับ เพราะเดี๋ยวนี้เรามีสื่อออนไลน์ในมือทำให้สามารถซื้อตรงกันง่ายและรวดเร็วด้วย แต่จะยั่งยืนยากตรงนี้ เทคโนโลยีใหม่มาเร็วไปเร็ว การเเข่งขันไว ทำให้อาชีพนักค้าขายออนไลน์ไม่ค่อยจะยั่งยืนกัน จะเห็นได้ชัดจากตัวเลขของรายได้ ที่แกว่งไปมา ปีแรกๆอาจจะได้ 100-1000ล้าน แต่ปีต่อๆมาอาจจะหล่นมาเหลือหลัก ล้านต้นหรือแสนก็เป็นได้


2.สมัยก่อนรวยยากกว่าแต่ยั่งยืนกว่า เพราะสมัยก่อนกว่าจะมีชื่อเสียงหรือเปิดบริษัทระดับกลาง-ใหญ่ได้ต้องมีเงินทุนพอสมควรครับ ยกตัวอย่าง ตัวแทนกระจายสินค้าในจังหวัดนั้นๆ เรียกได้ว่าถ้าท่านไม่มีเครดิตหรือเงินจำนวนกว่า10ล้านบาทโอกาสที่บริษัทจะเลือกท่านเป็นไปได้ยากมาก(ซึ่งต่างจากสมัยนี้หากท่านมีชื่อเสียงในออนไลน์แต่ไม่มีเงินก็มีคนพร้อมลงทุนให้ท่านก่อน) ฉะนั้นสมัยก่อนจึงเกิดการผูกขาดสำหรับผุ้ที่มีฐานะครับ แล้วตัวแทนเมื่อก่อนจะแบ่งเขตกันขายครับ หากท่านมีศักยภาพมากก็สามารถควบได้ทีละหลายจังหวัด ศักยภาพน้อยหน่อยก็จังหวัดเดียว ฉะนั้นมันจึงยั่งยืนกว่าาตรงที่ จังหวัดที่ท่านขายจะไม่มีใครสามารถมาขายในที่ของท่านได้ พูดง่ายๆถ้าท่านจับธุรกิจถูกตัว อาทิ samsung มาใหม่ คนที่จับได้เป็นตัวแทนตอนนั้น ยอดขายต่อปีพุ่งไปเกือบพันล้านทั้งนั้นครับ (แต่สมัยนี้ทำไม่ได้แล้ว ต่อให้ท่านเป็นตัวเเทนถูกต้องแต่ออนไลน์เข้ามาตี มีคนพร้อมส่งสินค้าแบบเดียวกับที่ท่านมีในราคาที่ถูกกว่า เข้ามาในพื้นที่ของท่านมหาศาลแน่นอน โดยที่ท่านทำอะไรไม่ได้ เพราะสินค้ามันมีวิธีหาช่องโหวนำเข้ามาจากต่างประเทศเอย หรือวิธีผิดกฎหมายอื่นๆเอยก็ตามได้มากขึ้น จะทำให้ตัวแทนประจำจังหวัดสมัยนี้ ได้กำไรไม่คุ้มเท่ากับเมื่อก่อนแล้ว บางรายเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะซื้อต้นทุนมาสูงกว่าราคาขายในออนไลน์ปัจจุบันซะอีก ยังไม่รวมของก็อปอีกด้วยนะ)


ฉะนั้นถ้าดูจากตัวอย่างที่ผมยกมา (บางธุรกิจเท่านั้นนะครับ) จะเห้นได้ว่าคนเมื่อก่อนมีโอกาสผูกขาดยั่งยืนกว่า แต่จะรวยได้ยากกว่า แต่ถ้าหากได้มีโอกาสรวยแล้วจะรวยไปตลอดจนได้ยากครับ

แต่สมัยนี้ ทุกๆคนมีโอกาสมีตัวตน มีโอกาสได้รับสิ่งดีๆได้ง่ายกว่า ไม่ต้องรอมีเงิน แต่มีตัวตนมีกระแส มีคนติดตามก็มีโอกาสได้รับสินค้ามาขายได้เงิน 10ล้าน100ล้านได้ไม่ยากครับ แต่นั่นแหละ จะหาคนที่ยั่งยืนตลอดไปได้ยากจริงๆ อยูู่ได้ 1-2 ปีก็เก่งแล้วพวกค้าออนไลน์สมัยนี้

สมัยนี้เริ่มธุรกิจง่ายขึ้น แต่ยืนระยะให้รอด โครตยาก
หาลูกค้าเหนื่อยโครตๆ ใครที่มีฐานลูกค้าเหนียวแน่น นับว่าโชคดีสุดๆ
การันตีcash flowต่อเดือนแน่ๆ

อาชีพไหนที่อยู่ในวงจร Supply chain ที่จำเป็นต่อมนุษย์ กินได้ยาวๆ

แค่ไหนเรียกว่ารวย ต้องถามก่อน
ต่ำกว่าร้อยล้าน ไม่ยาก ที่รู้จักหลายคนเริ่ม 0 แบบ 0 จริงๆ
เกินร้อยล้าน ยาก ที่รู้จักไม่มีอ่ะที่เริ่มจาก 0 มีแต่เริ่มจาก 000,000,000 ทั้งนั้น

ง่าย ถ้ารู้จุดขาย และ รู้วิธีการใช้ Leverage

ตัวอย่าง

เมื่อก่อนขายครัวซอง ก็ขายได้แค่ในพื้นที่

แต่พอใช้ Leverage ที่เป็นโซเชียลมีเดีย จากขายแค่ในพื้นที่

ตอนนี้มีคนสั่งเต็ม แทบจะทำไม่ทัน

เสื้อผ้า กางเกง มีจุดขาย + โซเชียลดีๆ ยอดขายหลายสิบล้านต่อเดือน

ทำบัญชี วางแผนภาษี ก่อนหน้านั้นก็ทำได้แค่ในจังหวัด

เดี๋ยวนี้รับทั่วประเทศ จากการทำคลิปสอน + ให้คำแนะนำ ไลฟ์ผ่าน ตต

ถ้าวัดจากค้าขายนะ สมัยก่อนคนขายน้อย ขายอะไรก็ได้ รวยง่าย สมัยนี้คนขายเยอะ แต่คนซื้อก็พร้อมซื้อกว่าเมื่อก่อน เพราะมีพวกออนไลน์ ถ้าเก่งๆหน่อย ก็รวยง่าย

สรุปคือสมัยก่อนรวยกระจาย สมัยนี้รวยกระจุก ไอ้คนรวยนี่ก็รวยมากๆ