[RE: ทำไม นายก ไม่ออกกฎหมาย ให้คนไทยกู้ซื้อบ้านใน เรทดอกเบี้ย 1% 30 ปี]
olandor พิมพ์ว่า:
GODZALi พิมพ์ว่า:
ธนาคารก็จะรวมหัวกันไม่ปล่อยกู้ไงครับ ข้ออ้างสารพัด เปิดธนาคารกำไรสุดในประเทศแล้วครับ เงินก็ไม่ต้องลงทุน
เอาเงินฝากคนอื่นมาหมุนจ่ายพนักงาน ปล่อยกู้ ดอกร้อยละ 15-28 ต่อปี แถมจ่ายช้า + ค่าปรับบลาๆๆๆ
ขนาดออกรถผ่อนไป 10 เดือน จะเอาเงินไปปิด ยังลดดอกแค่หลักร้อย อ้างบอกมันเป็รการคำนวนทางบช.
เรียกว่าการรับรู้ถึงรายได้ของธนาคาร โม้ไปเรื่อย ปล่อยกูนะดอกร้อยละ 10+ จ่ายดอกเงินฝาก ไม่ถึงร้อยละ 1
คิดง่ายๆว่ากำไรไหมเล่า 555
เนื่องจากทำงานเกี่ยวกับการเงินมา (แต่ไม่ได้เกี่ยวกับธนาคารโดยตรง) ขออธิบายคร่าวๆตามนี้ครับ
1.ธนาคารเป็นเอกชนต้องทำกำไรอยู่แล้วครับ ไม่ใช่การกุศล
2.ธนาคารต้องถือความเสี่ยงในการที่ลูกค้าจะเบี้ยวหนี้ โดยประเทศไทยปี 2566 มีหนี้เสียที่ไม่ชำระตามกำหนด Non performing Loan (NPL)อยู่ประมาณ 492,000ล้านบาท
3.การออกรถไม่กี่เดือนแล้วปิดส่วนใหญ่จะลดดอกเบี้ยได้จำนวนเยอะอยู่ แล้วทุกครั้งธนาคารจะให้เอกสารอธิบายตรงนี้ ซึ่งผมอ่านมันก็บอกชัดเจนว่าในแต่ละช่วงเวลาที่โป๊ะหมดจะได้ลดดอกเบี้ยเท่าไหร่ ลองกลับไปตรวจสอบตามเอกสารที่ธนาคารเคยส่งให้ดูครับ ถ้ามันไม่เป็นไปตามเอกสารที่ธนาคารอธิบายก็ไปฟ้อง สคบ
ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ผมแค่บอกว่าเปิดธนาคารยังไงก็รวย ลองอ่านโพสผมดีๆก่อน
1.ที่คุณตอบมาก็ถูก ทำกำไรใครจะไปอยากขาดทุน แต่อดอกเงินฝากเหมือนธนาคารยืมเงินคุณไปหมุนอะ แต่ให้
ผลตอบแทน ไม่ถึง ร้อยละ 1 ต่อปี
2.ความเสี่ยงใช่ เสี่ยงแต่ก็ขายหนี้ ฟ้องร้องยึด อายัติได้ อายุความ 10 ปี แถมเป็นระบบธนาคารยังไงมันได้ชัวๆไม่เหมือนตาสีตาสา อย่างเคสน้องกาตูนบังคับคดีเค้าไม่ตามให้หรอกครับ จะหมดอายุความแล้ว
3.การลดดอก เค้าก็แจ้งล่วงหน้าผมรู้ แต่มันก็ไม่ขัดกับข้อ 1 ไง ทีเอ็งเอาข้าไปหมุนให้ผลตอบแทน ร้อยละ1 ทีข้าเอาเงินเอ็งมาหมุนซื้อรถ 10 เดือน เอ็งคิดดอกเต็มๆ มันเลยไม่แฟร์
สรุปในมุมมองผมเปิดธนาคารยังไงก็รวย ขนาด npl บานตะไท มันกำไร จ่ายโบนัสรัวๆได้