เหนือสิ่งอื่นใด ตำรวจลอยตัว

เดี๋ยวมาหาถึงบ้าน ดูเฉยๆดีกว่า

แบ๊คก็ส่วนนึงครับ

ที่เวลาลงพื้นที่แล้วมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่มา take action เยอะ

เพราะเค้ามาในฐานะสื่อครับ
ื่
การทำงานของหน่วยงานรัฐ มันมีกรอบ มันมีเงื่อนไขเยอะ

ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่เชี่ยวชาญ กว่าจะขยับทีก็ต้องศึกษา เพื่อไม่ให้ทำอะไรผิด ไม่งั้นโดนฟ้องกันตาย

พอคนแบบกัน แบบสายไหม แบบเป็นหนึ่ง ลงเคส

มันเป็นสื่อไง คนสนใจเยอะ มันไม่ออกมาขยับทันทีไม่ได้ ก็เพราะคนกดดันนี่แหละ

ถามว่าดีมั้ย ผมว่ามันดีถ้าเป็นเคสใหญ่ เคสยากที่เจ้าหน้าที่รัฐ ขยับยาก เช่นมีอิทธิพลเบื้องหลัง

ถ้าสื่อเข้าไปช่วย เจ้าหน้าที่รัฐดีๆ เค้าก็จะรู้สึกว่ามีแบ็ค สื่อสนใจ คนสนใจ ทำอะไรง่ายขึ้น

แต่ถามว่าถูกมั้ย มันไม่ถูกหรอก มันเหมือนทางลัด เหมือนแฮคระบบ

ถ้าเป็นเคสที่ไม่ได้มีอะไร แค่มีกระแสแล้วพวกสื่อกลุ่มนี้เข้าไปจับ

มันก็จะกลายเป็นว่า ต้องมาวางงานอื่น เพื่อมาเร่งเรื่องที่คนสนใจให้มันจบเร็วกว่าปกติ

แปลกที่คนต้องพึ่งพากลุ่มคนพวกนี้

แล้วพวกมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง มันทำอะไรกันอยู่วะ

คนพวกนี้ผมไม่เชื่อว่าทำโดยไม่หวังผลประโยชน์ ถ้าอยากแก้จริงต้องแก้ต้นตอ แต่คงไม่ทำหรอก

ไม่รู้นะแต่ผมไม่ไว้ใจพรี่กัน ว่างหรอทำฟรีไม่มีในโลก

ประเทศนี้เอกชนแบกทุกอย่างรวมถึงความยุติธรรม
อะไรมันก็มีผลประโยชน์ให้อยู่แล้วครับสำหรับเอกชน ทั้งทางตรงทางอ้อมอย่าหวังคนดีแบบใสกิ๊งทำงานฟรีเลย

บ้านเมืองเรามันเหมือน คนไม่รู้ผิดรู้ชอบ มีรถไม่มีที่จอดมาจอดหน้าบ้านคนอื่น คนจะเข้าออกต้องไปเรียกให้ขยับตลอด ทั้งๆที่บ้านคุณอยู่ในซอย ถามพี่เค้าดีๆด้วยน้ำเสียงสุภาพทำไมไม่ไปจอดหน้าบ้าน ได้คำตอบว่า ผมจอดตรงนี้มา10กว่าปีแล้ว
ผมคิดในใจพี่สร้างความเดือดร้อนมา10กว่าปีแล้วนะ พี่ยังไม่พอใจอีกหรอ เวลาจะขับรถเข้าออกบ้านทีต้องไปตามพี่ เดินออกจากบ้านมาเลื่อน

ได้แต่ทำใจเลย สังคมบ้านเรา มันมีแต่แบบนี้จริงๆ

แต่ในโลกความจริง ผมก็ยังคิดว่า ทำดีเพื่อหวังผล ก็ยังดีกว่าทำชั่วเพื่อหวังผลหรืออยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลยนะ

เปรียบเหมือนนักทวงหนี้ที่มีชื่อเสียง แต่เปลี่ยนจากทวงหนี้มาทวงคดี อาชีพโคตรอีลิทเลย คนอวยจนลืมความเห้ของกระบวนการยุติธรรมหลัก แล้วก็เอาจริงๆเลย คนดีๆบริสุทธิ์ผุดผ่องมาทำแบบนี้ โดนเก็บไปอยู่ก้นแม่น้ำก้นทะเลไปนานแล้ว
ปล.แต่ถามว่าดีไหม ก็ต้องขอบคุณแก แกทำให้คนตัวเล็กๆไม่มีสิทธิมีเสียงในสิทธิขั้นพื้นฐานด้านกฏหมายได้ต่อสู้คดีความต่อได้ ไม่โดนละเลยโดยเจ้าหน้าที่เห้ๆแค่ 1%

ประเทศนี้ ชอบให้มีระบบฮีโร่ มากกว่าระบบที่ดี
จริงๆเราถูกปลูกฝังให้เชื่อในระบบฮีโร่ มากกว่าพัฒนาระบบมาตลอด
จำไม่ได้เหรอครับ มันแทรกซึมไปในจิตใจพวกท่านมาตั้งแต่อนุบาลแล้วนะ
"...ไปที่ไหน ความเจริญก็ไปถึงที่นั่น" บลาๆๆ

ข่าวล่าสุดที่มาถึงมือกัน น่าจะเด็กโดนพ่อเลี้ยงเอาหนังสติ๊กยิงตาบอด

ผมฟังข่าวก็ได้แต่อนาจใจระบบข้าราชการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าทุกข์แจ้งว่าคดีไม่คืบหน้า แถมแม่และเด็กโดนขู่จากผู้ต้องหาเรื่อยๆ

ทั้งที่หลังฐานคลิปชัดเจน หลักฐานแพทย์(แจ้งน้องตาบอด)ชัดเจน พวกที่เกี่ยวข้องกับคดี พวกมันรออะไรกัน?

ถ้านักการเมืองหรือข้าราชการทำงานแบบนี้บ้างเมืองเจริญไปนานละ ทำงานเช้าชามเย็นชาม ส่วนตัวก้มองว่า

ถ้าไม่รวยเป็นร้อยล้านพันล้านไม่มีใครมาทำอะไรแบบนี้ฟรีๆหรอก มีแต่ค่าใช้จ่ายเสียเวลาอีก เดี๋ยวนี้ใครมีปัญหา

ไปร้องสายไหม กัน กรรชัย ได้ผลทันตาเลย ไปร้องหน่วยงานแมร่งไม่สนใจอะไร

ใครจะไปรู้อนาคตได้ สมมตินาย ก ลงทุนทำความดีจนคนชื่นชอบ 10 ปีต่อมานาย ก ได้เป็น นายกประเทศ A แล้วทำบ้านเมืองชิบหาย ตอนนั้นคุณยังมองว่าดีกว่าอยู่เฉยๆมั้ย จริงๆมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ผมแค่ยกตัวอย่าง worst case

ประเทศแม่งหวังพึ่งศาลเตี้ยมากกว่าตำรวจ ผมว่ามันคงสื่ออะไรกับประเทศนี้ได้พอสมควรนะ ส่วนไอตำนวยกับเจ้าหน้าที่รัฐลอยตัวเหนือปัญหา

หมดศรัทธาประเทศนี้ชิบหาย

แก้ที่ต้นตอ ก็ได้กินพิซซ่านะสิครับ