IPAD PRO 2024 ตั้งราคาขายแพงๆ แบบไม่แคร์สื่อ แต่ยอดขาย Tablet ก็ยังเป็นเจ้าตลาดอยู่ดี


ตัว tablet ที่แพงมาก รุ่น PRO แค่ตัวเครื่องอย่างเดียวปาเข้าไปครึ่งแสนแล้ว
.
pencil ก็แพงบังคับให้ซื้อใหม่ด้วยนะ ใช้กับ ipad รุ่นเก่าไม่ได้ และ pencil รุ่นเก่าก็ใช้กับ IPAD ไม่ได้
.
Magic Keyboard ตัวใหม่อันละ 13999 บาท ใช้กับ ipad รุ่นเก่าไม่ได้


ในขณะที่คู่แข่ง อย่าง Samsung, Hauwei, Redmi , Xiaomi ทำ tablet ออกมาขาย เอาใจลูกค้าในราคาที่ถูก ก็ยังทำอะไร IPAD ไม่ได้เลย เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

Ipad mini 12 ปีก่อน ทุกวันนี้หยิบมาชาร์ตแบต ก็ยังใช้งานได้ ถ้าไม่นับที่ความจุน้อยและอัพเดทไม่ได้ เปิดเวป เปิด youtube ยังทำงานดี

ปกติ สำหรับผมคือซื้อแล้วจบทุกปัญหาอ่อะครับ สี่ปีก่อนเลยจัด ipad pro ไป ก็ใช้ดีไม่เคยงอแง

เพราะ iPadOS

จริงๆแล้ว ipad ตีโจทย์แตกมั้งว่า tablet ไม่ต้องทำอะไรได้เยอะ

อย่าง tablet android สามารถทำงานเบื้องหลังได้ ทำหลายอย่างได้พร้อมๆกันเหมือนคอมพิวเตอร์
พอทำอะไรหลายๆอย่างได้เยอะ ก็ต้องแบ่งทรัพยากรเครื่องทำงาน

ต่างกับ ipad อยู่แต่กับงานที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้นงานเบื้องหลังไม่ทำ


แต่เอาจริงๆ ปากกา tablet อื่นดีกว่า apple เยอะ

1.ชิพ M
2.ecosystem ซื้อแล้วไม่ต้องไปนั่งเลือกหา accessory
3.คนใช้ iphone ก็ใช้ ipad อยู่แล้ว
4.คุณภาพ อันนี้เถียงให้ตายก็ไม่จบ แต่เอาเป็นว่าผมใช้มาทั้ง2ค่าย apple คืออุปกรณ์ทีั build quality ดีที่สุดที่เคยใช้
5.การ design ipad design มาเพื่อ การใช้งานเชิง tablet โดยเฉพาะ มันมี os ตัวเอง มันไม่พยายามจะเป็นคอมพิวเตอร์พกพาเหมือนค่่ยอื่น

สร้าง Hardware เอง เขียน Software ควบคุมเอง

ทุกอย่างมันลงตัวไปหมด iPad mini 2 ผมน่าจะเกือบ 7-8 ปีละ ทุกวันนี้ยังใช้งานได้ปกติอยู่เลย ทนโคตรๆ

ทุกวันนี้ผมยังใช้ iPad Air 1 อยู่เลยอายุน่าจะ 10 ปีได้แล้วมั่ง อยากได้เครื่องใหม่ แต่มันก็ไม่พังซักที

ผมค่อนข้างติ่งแอ๊พเปิ้ลนะ แต่ผมว่า GAP ของความต่าง ระหว่าง IPAD กับ Tablet อื่นจะน้อยลง

มันจะเริ่มจากปีหน้าเป็นต้นไป

เหตุผลเพราะ ชิบ CPU Performance ปัจจุบัน ถึงมันจะต่างกัน แต่มันจะไม่ต่างพอให้รู้สึกว่าใช้งานต่างกันได้แบบเมื่อก่อนแล้ว

ต่อมา IPAD จะค่อยๆโดนกลืนส่วนแบ่งแน่นอน หลังจากปีหน้า เพราะความที่ Tablet ฝั่งอื่นจะ Blend Feature ให้ใช้แทนNB ได้แบบไม่กั๊ก แบบไอแพทแล้ว

ต่อมาเรื่องหน้าจอ ผมว่า ปีถัดไป พวก TABLET ยี่ห้ออื่นจะ สามารถให้จอ OLED 120hz ในราคาไม่ถึงครึ่งของ IPAD PRO ได้

เรื่องปากกา และเท็คโนโลยีอื่นๆของIPAD มันจะก็อปได้ในราคาที่ถูกลงแล้ว

ผมว่าUSER ที่ใช้ Tablet กับ มือถือ มันมีความแตกต่างกันอยู่ ผมว่าถ้า เจนต่อๆไป ถ้า IPAD ไม่สามารถ

ทำได้เต็มประสิทธิภาพแบบ NB ยังไงก็โดน เจ้าอื่นแย่งตลาด

ผมค่อนข้างชัวว่า Tablet ต่อๆไปมันจะ Performance ระดับ NB ระดับกลางๆได้สบายแล้ว

ที่เหลือก็รอ OS ทีเป็น Window Arm กับ Android ว่าจะทำให้มัน Compatibilities ได้ขนาดไหน

เพิ่มเติมนิดหน่อย ผมว่าหลายคนมีความทรงจำอันขมขื่น กับ Tablet Android ในสมัยก่อนที่โคตรจะกาก(ซึ่งผมก็เคยมี อันนึง) ต้องลองดู

SS S9 ผมว่าแทบจะเทียบเท่า IPAD ได้เลย(และรู้สึกว่าหลายคนไม่รู้ว่ามันมีด้วยไอ้ตัวนี้ออกมาด้วยซ้ำ)

มันสเถียรเเละทน

แบรนด์ ios คนใช้ไอโฟนก็ต้องใช้ไอแพด

แต่สัดส่วนตลาด tablet ไตรมาสแรก ipad 32% SS 22%

มี3เครื่อง น่าจะเกิน5ปีทุกเครื่อง อืดนิดหน่อย ปกติใช้แค่ YTเป็นหลักคุ้มจัดๆ
สาเหตุนึงไม่ใช้ Android tablet เพราะ แอปแชทที่ใช้ส่วนใหญ่มันLog in แยกไม่ได้
ตรงนี้คนแก่กับแฟนชอบมาก สะดวกคนใช้เวลาโทสัพไปชาร์จก็นั่งกดIpadแทนได้ตามสะดวก
หลังๆเริ่มใช้ Facetime กับ Imessage ก็ง่ายไปอีก

os กับพวกการ integrated กับอุปกรณ์อื่นๆ ของตัวเอง

พอคอนเซปมันตรงตามโจทย์ของ user การต่อยอดก็เลยไม่มั่ว

iPadOS ตั้งแต่ใช่ iPad ก็ไม่กลับไปแตะ Tablet Android อีกเลย

tablet ต้อง ipad จริงๆฮะ

มันจบจริงๆนะ ไม่จุกจิก
ปล.ผมใช้ Ipad Pro 2018 ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร

เพราะมันผูกขาดไปแล้วไง

ย้อนให้สมัยสงคราม Tablet ยังสู้กันอยู่ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วนู่น ตอนที่ iPad ยังขอบหนาประมาณนิ้วครึ่งได้มั้ง

ตอนนั้น Tablet มันถูกมองว่าเป็นตัวแทนของ Netbook ซึ่งก็คือ Notebook ราคาโคตรถูกนั่นแหละ (ปัจจุบันก็โดนพวก Chromebook กับ โน้ตบุ้คแนวๆ Surface กินเรียบร้อย) เป้าหมายของ Netbook ในยุคนั้นคือตลาดการศึกษา ซึ่งต่างประเทศเขาจดเล็คเชอร์กันในยุคนั้นด้วยโน้ตบุ้คอยู่ พวกที่ยังต้องขีดๆเขียนๆก็เหมือนเดิม แต่จดเล็คเชอร์ด้วยการพิมพ์นี่ยังมีอยู่พอสมควร

ทำให้ในยุคนั้นราคา Tablet สู้กันที่ไม่ได้แพงมากนัก ไอแพดเริ่มต้นยัง $499 เองมั้ง
ขณะที่ Galaxy Tab เหนือกว่าด้วยการมีปากกา แอพเขียน (S Note) ราคาสูงกว่าเล็กน้อย + จอ 16:9 (ไอแพด 4:3) เลยทำให้จดแล้วคล้ายกับ A4 มากกว่า

ทีนี้พอเวลาผ่านไป มันก็กลายเป็นว่าทุกคนคุ้นชินกับการทัชมากกว่าการคลิกเม้าส์แล้ว ตลาดแท็บเล็ตก็เลยโตขึ้นมากในวงการการศึกษา ประกอบกับ iOS (iPadOS ในภายหลัง) มันเป็นแอพสำหรับแท็บเล็ตจริงๆมากกว่าการเอาแอพมือถือมาเป่าลมแบบ Android รวมถึงการที่ Apple เน้นตลาดนี้จริงจังมาก ไปดีลกับโรงเรียนต่างๆ ลดราคาพิเศษสำหรับการศึกษา (ตอนนั้น iPad ตัวถูกสุดยังไม่มี มีแค่ Mini & Air)

ขณะที่ Android ตอนนั้นดันไปมุ่งมั่นกับการเป็น Tablet สำหรับ Content Consumption (เสพคอนเทนท์) อย่างเดียว โดยเน้นไปที่เรื่องจอสีสวยกว่า อะไรพวกนั้น แถมเริ่มซอยรุ่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่รุ่นประหยัดยันรุ่นแพง
ผลก็คือคนซื้อเองก็งง สรุปแล้วตรูเอามาทำแค่เท่านี้ ตรูควรจะซื้ออันไหนดี
ทำให้เสียส่วนแบ่งการตลาดไปเรื่อยๆ

ตะปูตอกฝาโลงจริงๆคือตอนที่ iPad 6th นั่นแหละ คือเป็น iPad ที่ใช้ Apple Pencil ได้ ทำราคาถูกมาก ($329 ตอนนั้นเข้าไทย 10,300 มั้ง) ตอนนั้นคือใครจะสู้ได้ Galaxy Tab S ราคาตอนนั้นล้ำหน้าไปจะ 2 หมื่นแล้ว
พวกยี่ห้ออื่นๆก็ทำราคาสู้ไม่ได้ ไม่ตกม้าตายเรื่องซอฟต์แวร์ ก็ตกม้าตายเรื่องสเปคที่เงอะๆงะๆ ไม่แรงเท่า

มันก็ผ่านจากตรงนั้นมา 6 ปี ผลคือทุกคนเลิกทำแท็บเล็ตเกือบหมด เหลือแค่ SS เจ้าเดียวที่ยอมชน
ขณะที่ iPad ยึดแม่มทุกโรงเรียนกับสถาบันการศึกษา
จะส่งโน้ตหรือส่ง Slide ให้กันหรอ? กด Airdrop ทีเดียวได้หมดทั้งห้อง ใครไม่ใช้ก็ต้องไปขอเพื่อนเอานอกเวลา
ใช้แอพสำหรับการแพทย์? สำหรับงานวิศวกรรม? iPad มีหมด แอนดรอยด์ไม่มี หรือถ้ามีก็ไม่อัพเดทละ

มันก็เลยกลายเป็นผูกขาดไงครับ แท็บเล็ตสำหรับการศึกษาก็คือ iPad Air ตัวก่อนหน้าตัดออปชั่น
iPad Air ตัวปัจจุบันก็คือ iPad Pro ตัวก่อนตัดออปชั่น
อยากไ้ดของใหม่ล่าสุดก็ต้องจ่ายเงิน 4-5 หมื่นแบบไม่่จำเป็น

อีกไม่นานผมว่า iPhone ก็ตามไปแหละ ถ้าสมมติ SE ตัวใหม่มาแบบข่าวลือจริงๆน่ะนะ