เพื่อนผมกับเจ้านายเก่าผมเปิดร้านกาแฟ แก้ว ละ100บาท +

ลูกค้าที่ เป็น Premium ส่วนใหญ่เข้ามาคุยกับ บาริสต้า มานั่งเต๊าะ เอาของมาฝาก(ส่วนใหญ่เป็นเหล้า) ซื้อทีละเยอะๆ พาเพื่อนมาบ้าง

ผมคิดว่าโรบอทน่าจะยังทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้

แสดงว่าท่านๆยังไม่รู้ ว่าอย่างน้อยๆ AI แยกมิติรสขาติออกมาได้แล้ว เช่น เปรี้ยว ขม หวาน เผ็ด

โปรเสสกาแฟทุกวันนี้ในระดับโรงงานก็ใช้เครื่องมือใรการวัดค่าแทบทุกอย่าง
ถามว่าคนทำโปรเสสยังจะเป็นมั้ย ยังจำเป็นมาก

แต่ในประดับบาริสต้า ถ้าเอาแค่อร่อยพอประมาณ ไม่ขี้เหร่รัก
ทั้ง AI และ แมชชีนต่อจากนี้ ในร้านระดับๆกลางๆลดต้นทุนได้พอสมควรแน่นอน

เอาแค่อุปกรณ์กาแฟ เครื่องไม้เครื่องมือทุกวันนี้
ก็อัดกาแฟง่ายกว่าสมัย 10 ปีที่แล้วเยอะ

หมายถึงให้ใครมาหัดทำมันก็ง่ายกว่าเดิมมาก

ไม่ต้องมีฝีมือเป็นบาริสต้า ลิ้นเทพ มือเทพ นับวิ เพื่อเอาเพอเฟคช็อต อะไรมากมาย
แรงงานทั่วๆไปแบบพนักงานเซเว่นก็อาจจะทำกาแฟอร่อยๆออกมาได้


ถ้าคนในแวดวงรักกาแฟ เปิดร้านกาแฟมาเกิน 10 ปี จะรู้เลยว่า ยอดๆมันเริ่มต้น มันต่อยอดพลิกแพลงอะไรได้ยาก ไม่เหมือนอาหาร
เมล็ดกาแฟก็นำเข้าเจ้าใหญ่ๆไม่กี่เจ้า
จะคั่ว จะบด จะอัด มายังไง มันก็จะโปรไฟล์ตันอยู่แค่นั้น
ไม่คุ้มพัฒนาต่อเพราะส่วนต่างคุณภาพมันเพิ่มเล็กน้อยไม่สมต้นทุนซักนิด

ซึ่งต่อไปจะแข่งขันกันที่ขนาดกลาง ที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากๆและโปรไฟล์ระดับแชมป์อะไรแค่นั้น ที่พอจะใช้อัพเลเวลมาอีกระดับ
ถ้าพูดถึงเรื่องกาแฟล้วนๆนะครับ ไม่หนีจากนี้

ที่เหลือก็เรื่องสถานที่ บรรยากาศแค่นั้น ที่จะมาแข่งกันจริงๆ

ถ้าราคาเครื่องสัก 30,000 ค่อยเป็นไปได้

ร้านกาแฟหลาย ๆ ร้าน บาริสต้าคือจุดขายของเขาอะครับ

ขอโม้ที เคยลองสั่งกาแฟ จาก Robotic Barista ของ Amazon ในเซ็นทรัลเวิล
สรุปเมนูแบล็คคอฟฟี่เย็นใช้เวลาเกือบ ๆ 5 นาที คนยังทำได้เร็วกว่า
ส่วนรสชาติไม่มีความแตกต่างอะไร

ข้อสรุปจากมู้นี้คือ บาริสต้าอยู่ได้เพราะชวนคุยเก่ง ไม่ใช่ทำกาแฟอร่อย

ถ้าเครื่องทำกาแฟยังใส่ใจลูกค้าไม่ได้ บาริสต้าก็ยังไม่ตกงานหรอกครับ

งานบริการมันมีอะไรมากกว่าการทำตามระบบอะ

ตอนนี้คงยากครับ อนาคตไม่แน่ ถ้ามันสำเร็จรูปจริงๆ ทำราคามาไม่แรง อาจจะเป็นตลาด homeuse เหมือนพวก nespresso มากกว่า ปรับแต่งรสตามเจ้าของเอง แต่ถ้าที่ร้าน ผมว่ารายละเอียดมันยังมากอยู่ครับ จริงอยู่ หุ่นยนต์รับรู้รสชาติได้ แต่คนมันมีความต้องการหลากหลาย ซึ่งจุดนี้บาริสต้าที่เป็นคนอาจจะได้เปรียบอยู่

แต่ถ้าเครื่องพวกนี้ integrate กับ gen ai แบบพวก gpt ไรงี้ มาช่วยทำความเข้าใจลูกค้า อาจจะกลบจุดอ่อนตรงนี้ได้

มันต้องแยกกันสองประเด็นนะ คนที่ต้องดื่มกาแฟ กับ ต้องการฟังก์ชันของบาริสต้า แล้วก็ต้องมาดูว่าอีกหน่อยเทคโนโลยีจะไปสุดด้านไหน
จริงอยู่ฟังชันของบาริสต้า โน้นนี่ที่หลายคนพูดมันแทนกันยาก แต่พูดเรื่องกาแฟเพียวๆผมว่าทำได้ และอาจจะทำได้ดีกว่า แค่คิดว่าตอนนี้ไม่คุ้มที่จะลงทุนขนาดนั้น เพราะคนเกิน60-70% คิดว่ามันก็แค่กาแฟ มีได้มีความต้องการมากเหมือนพวกฮาร์ดคอร์ กาแฟ

อาจจะแย่งส่วนแบ่งนิดหน่อย

มันแยกได้ 2 แบบ คนที่อยากได้เซอวิส นั่งดูวิธีทำ กรรมวิธีการทำที่ประณีต ออกมาเป็นเครื่องดื่มให้เราดื่ม

กับอีกกลุ่มที่ ขอกาแฟดีมาเลย แต่รีบๆหน่อยนะ จะไปทำงาน

ถ้าเบอร์บดได้ น้ำหนักแทมป์ได้ เวลาในการสกัดได้ และสามารถปรับช้อตเองได้ในแต่ละวัน

มันก็ช่วยเบาแรงได้เยอะแล้วครับ

แทนบาริสต้าธรรมดา แต่แทนบาริสต้าเก่งๆไม่ได้ ถ้าผมเป็นเจ้าของร้านกาแฟที่ขายไม่แพง ผมก็ใช้หุ่นยนต์นี่แหละ แต่ถ้าขายแก้วแพงๆคงจ้างคนชงกาแฟเก่งๆเป็นจุดขาย
ถ้าเทคโนโลยีมันถูกลงจน SME เอื้อมถึงผมว่ากระทบกับบาริสต้าธรรมดาแน่ๆ