คนใกล้ชิดผมทำ relex มาสองคน ทำที่ว่ากันว่าดีที่สุด ดังที่สุดนั่นแหละครับ

ต้องกลับมาใส่แว่นทั้งสองคนเวลาทำงาน คนนึงตาแห้งตลอดเวลา วันนึงหยอดน้ำตาเทียมประมาณ 10-15 ครั้ง ส่วนอีกคนเห็นภาพเหมือนใส่ฟิลเตอร์ภาพ soft ตลอดเวลาโดยเฉพาะเวลาอ่านตัวหนังสือขาวพิืื้นดำแบบที่เจ้าของโพส fb ว่านั่นแหละครับ แถมเห็นวุ้นในตาลอยไปมาเวลาสะบัดหน้าเพิ่มขึ้นมาอีก

ผมจากที่อยากทำ ตอนนี้เลิกคิดเลยครับ ขอใส่แว่นตลอดแล้วมองคมๆดีกว่า

อย่าให้พลาดนะสหาย

ผัวยายนี่แหละ

ผมทำ เฟมโต เจอแค่แสงฟุ้งตอนกลางคืนกับตาแห้ง นอกนั้นตกกะปิครับ ชีวิตแอคทีฟขึ้นเยอะ อารมณ์ดีขึ้นด้วย

สรุปให้ง่ายๆนะครับ

จริงๆการทำ Lasik หรือ Relex เพื่อแก้ปัญหาสายตา หรือความสะดวกสบายที่จะได้ไม่ต้องใส่แว่นเนี่ย ก็เป็นการรักษาคนไข้แบบนึง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว

แต่ปัญหาหลายๆอย่างที่คนทั่วไป (หรือเจ้าของโพสท์ที่เป็นแพทย์ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ) ไม่ได้นึกถึงกัน คือการผ่าตัดทุกอย่างมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือ complication ได้เสมอ ซึ่งในประเทศไทยการทำ Lasik หรือ Relex อย่างที่ทราบกันคือมันมีเรื่องของธุรกิจมายุ่งด้วยเยอะ ยิง ad ขายของกันกระหน่ำทั้งในเฟสหรือ social media อื่นๆ โดยการโฆษณาส่วนมากก้จะเอาแต่ข้อดี หรือรีวิวดีๆมาให้เราเชื่อถือ แต่ในเรื่องของเคสที่เกิดภาวะแทรกซ้อน จะไม่พูดถึงเลย (หรือถ้าเกิดขึ้นจริง ในไทยถือว่าการรายงาน complication ถือว่าน้อย ด้วยนิสัยคนไทยที่มีความอายเวลาเสียเงินไปทำสิ่งพวกนี้แล้วแย่ลง โดยไม่บอกใคร หรือรวมทั้งแพทย์หรือโรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดก็ไม่ได้รายงานจำนวนเคสที่เกิดภาวะแทรกซ้อนตามจริง เหมือนที่ต่างประเทศเค้าทำ) ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อไปอีกว่าพวกนี้ทำแล้วดีแน่ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก

โดยตามจริงแล้วพวกภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ก่อนผ่าทางแพทย์หรือ รพ.ที่ผ่าตัดเค้าจะแจ้งให้อยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะคร่าวๆหรือแบบละเอียด แต่คนส่วนใหญ่ที่มีความตั้งใจจะไปทำตอนนั้นอาจจะไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว

ความสำคัญของภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเวลาทำหัตถการพวกนี้คือ มันแก้ไขไม่ได้ด้วยแว่นครับ นั่นหมายถึงมันจะเป็นภาพที่เราจะมองเห็นไปอีกตลอดชีวิต หรือบางคนก็จะปวดตา / สู้แสงไม่ได้ / ขับรถกลางคืนไม่ได้ / ภาพเบลอมากกว่าเดิม / เห็นภาพซ้อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางทีก็ดีขึ้นมาบางส่วนเมื่อเวลาผ่านไป แต่หลายๆคนก็ไม่ดีขึ้น แล้วต้องทนอยู่กับมันไปทั้งชีวิต

อย่างแพทย์เจ้าของโพสที่ทำงานเป็นหมอผ่าตัดทางเดินปัสสาวะช่วงแรกก็มีปัญหาจนทำการผ่าตัดไม่ได้ และมีปัญหาเวลาตรวจคนไข้ รวมถึงชีวิตประจำวันที่ลูกมาอยู่ต่อหน้าตัวเองแต่ก็มองไม่เห็นหน้าลูก ได้แค่ยื่นมือไปสัมผัสเพื่อให้รู้ว่าลูกอยู่ข้างหน้าจริงๆ แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นมาบ้างจนสามารถผ่าตัดได้และใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่ก็ไม่ดีเท่าเดิมอยู่ดี

สิ่งที่หมอคนนี้ต้องการสื่อคืออยากให้ทุกคนได้ศึกษาถึงภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้อย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจไปทำ Lasik หรือ Relex ครับ ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดีและปลอดภัย 100% สำหรับทุกคน ถ้าคิดแล้วว่าคุ้มค่าหรือพร้อมรับมือเวลาเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้ ก็ทำได้ตามปกติครับ

หรรมนี่ล่ะครับ

แจ๊ส ชวนชื่น นี่ lasik ป่าว เมื่อก่อนแว่นหนาเตอะเลย

หรือผมโชคดีตัดสินใจทำ ICL

สำหรับท่านที่สนใจจะแก้ปัญหาการมองเห็นด้วยการผ่าตัด

ถ้างบถึงผมอยากให้ข้ามไปทำ ICL เลยครับ
เพราะตระกูล Lasik ทุกแบบไม่ว่าจะ PRK, Femto, ReLEx มันคือการกระทำกับกระจกตาโดยตรง กระจกตาจะเปลี่ยนแปลงแบบถาวร

ให้จินตนาการถึงเลนส์แว่นขยายหรือแว่นตาอันนึงที่มี shape โค้งเว้าและความหนาของตัวมันเองอยู่
Lasik คือการเอาใบมีด/เลเซอร์ (แล้วแต่วิธี) ไปเจียรเลนส์ชิ้นนั้นให้ความโค้งเว้าเปลี่ยนไป
หมายความว่าเนื้อเลนส์มันถูกเจียรออกไปแล้ว และมีแต่จะบางลงเรื่อยๆถ้ามีการเจียรเพิ่ม (ผ่าตัดแก้)
เป็นการผ่าตัดที่เรียกคืนไม่ได้แล้ว เลนส์ตาบางแล้วบางเลย เปลีี่ยนรูปแล้วเปลี่ยนรูปเลย

ส่วน ICL (Implantable Collamer Lens) เป็นวิธีรักษาอีกแบบ โดยจะสั่งทำเลนส์พิเศษขึ้นมาอีกชิ้น คล้ายๆคอนแทคเลนส์
แล้วเจาะรูที่ตาเล็กๆเพื่อเอาเลนส์ชิ้นนั้นม้วนใส่ลงไปหลังกระจกตา
เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ เหมือนเอาเลนส์อีกชิ้นประกบลงไปข้างหลังเลนส์แว่นตา เพื่อแก้ค่าสายตาให้ถูกต้อง
กระจกตาของเราเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มีแผลเป็นรูเล็กๆข้างกระจกตาซึ่งแผลจะสมานเอง
ถ้าเกิดความผิดพลาด ก็ผ่านตัดเอาเลนส์ชิ้นนั้นออกได้ จะกลับมาใส่แว่นเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนเลนส์แก้ก็ได้


แน่นอน ว่าแพงกว่า แต่ complication ก็ต่ำกว่าด้วยเช่นกัน


ป.ล. บางอาชีพต้องเช็คข้อมูลดีๆนะว่าเขาพิจารณาวิธีการผ่าตัดแก้ปัญหาสายตาไหม
เช่นนักบิน เห็นส่วนใหญ่ทำ PRK กัน อาจจะเป็น unwritten rule แต่คิดว่ามีผลกับการพิจารณารับสมัครงานจริงๆ

แม่ผมทำ น่าจะเกิน10ปีแล้วอาจจะ15ปี+ก็ได้ไม่แน่ใจ

ปัจจุบันสายตาแย่มาก หมอพิจรณาแล้วว่าอาจจะตาบอดได้ในอีกไม่นาน (นัดพบหมอทุกเดือน) ไม่แน่ใจว่ามีส่วนมาจากการทำหรือเปล่า ผมไม่กล้าฟันธง แต่ผมจะไปทำแม่ไม่ให้ทำ

รอบๆตังรวมถึงตัวเอง มีทำเลสิคกัน 4-5 คน ทุกคนปกติดีนะใช้ชีวิตขับรถอะไรกันปกติบางคนทำมานานมากกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนตัวรู้สึกคุ้มมาก สำหรับผมปัญหานาาจะแค่รู้สึกตาแห้งกว่าปกติหน่อยหลังการทำ ส่วนเนื่ิงอนาคตสายตาอาจจะเปลี่ยนไปสั้นหรือยาว มันเป็นเรื่องปกตอต้องทำใจ สำหรับส่วนนี้สายตาคนเราแก่ตัวไปอาจจะยาวขึ้นจนต้องกลับไปใส่แว่น อันนี้ทำใจ

พ่อผมใส่แว่นมา40กว่าปี พอไปทำเหมือนได้โลกใหม่ครับ

จากคนรอบตัว ทำแล้ว อายุเยอะขึ้นก็ต้องกลับมาใส่แว่นอีก 100% ครับ ยิ่งถ้าทำงานหน้าคอม หรือใช้มือถือนานๆ ยิ่งเร็วครับ

หูยย ขอบคุณมากครับ ขอไปศึกษา ICL เพิ่มเติมเลยครับ น่าสนใจมาก ไม่แน่ใจอายุเยอะ เจอยาวมาเพิ่ม จะแก้ได้อีกมั้ยครับ

ทำมาจะ10ปีละครับ
ตั้งแต่2015 ทำแบบ PRK
กับคลินิคทำเลสิคแถวๆสีลมครับ
ก่อนทำต้องเข้าไปปรึกษาคุณหมอก่อนนะครับ
แล้วหมอจะเป็นคนอธิบายทุกอย่าง
อย่างผมเนี่ยหมอบอกว่าเนื้อตาเยอะทำได้สบาย
แต่เป็นคนตาแห้งกว่าคนปกติ ถ้าทำไปอาจจะต้องหยอดตา“ตลอดชีวิต” รับได้มั้ย
ก็บอกผมตรงๆนี่แหละ รับได้ก็เลยทำ ยอมรับความเสี่ยงอื่นๆด้วย
สรุป ทำมาแฮ้ปปี้ครับ แม้ว่าต้องพกยาหยอดตา แต่มันไม่ต้องใส่แว่น
คุ้มมากๆครับ โลกใหม่สุดๆ

เรื่องนี้น่าจะขึ้นอยู่กับความเข้าใจและบริหารความเสี่ยงนะครับ
อยู่ที่หมอด้วย ว่าจะบอกกับเราละเอียดแค่ไหน
แต่หมอคลินิคที่ผมทำ ดีจริงๆครับ เพราะคนที่อยู่ในคลินิคด้วยวันนั้น
หมอก็ไม่ให้ทำครับ ด้วยสาเหตุบางอย่าง