ปี 2546 พรรคชาติพัฒนาภายใต้กลุ่ม “บ้านราชครู-กลุ่มโคราช” ทั้งนายกร ทัพพะรังสี และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเข้ามารวมกับพรรคไทยรักไทย รวมไปถึงพรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็เข้ามาควบรวมเช่นกัน ทำให้ปลายสมัยทักษิณ 1 นั้น เป็นรัฐบาลที่เหลือแค่ 2 พรรค คือ ไทยรักไทยและพรรคชาติไทยที่ตัดสินใจไม่ควบรวม

และยิ่งชัดเจนเมื่อสมัยการเลือกตั้งปี 2548 ที่เรียกว่ามี “พลังดูด” จนทำให้พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ที่มีเอกภาพและกวาดไปถึง 377 ที่นั่ง จากทั้งหมด 500 ที่นั่ง ซึ่งมีการผนวกพรรคกิจสังคม พรรคเสรีธรรม และพรรคเอกภาพเข้ามาร่วมด้วย
https://workpointtoday.com/groups-of-thairakthai/




ถ้ามองเป็นเรื่องตัวเลขการเลือกตั้ง คณิตศาสตร์การเมือง ถ้ามีหลายพรรคตัดคะแนนกัน ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียที่นั่งมากขึ้น

การเลือกตั้งที่ผ่านมา แพ้แบบเฉียดๆ ก็หลายเขต จากการที่คะแนนตัดกัน

ถ้าสามารถยุบรวม พลังประชารัฐ ที่ปีกธรรมนัสคุมเกือบหมดแล้ว คงไม่ยากนัก

ถ้าผลการตัดสินคดียุบพรรคภูมิใจไทย ออกในทางลบ หมากก็เข้าทางทักษิณมากขึ้นไปอีก

พรรคหน้าด้าน ขยะ

คนที่ยังเลือกแมร่งได้นี่ต้องสุดจริง

คุณอย่าไปคิดเยอะ สุดท้ายก็วัดกันที่บัตรลงคะแนน เชื่อผมเถอะ เลือกตั้งรอบหน้าส้มแดกขาด เพื่อไทยอ่ะมีคนเลือกแน่ๆแหละ แต่ได้ไม่เท่าเดิมแน่นอน กลยุทธ์เพื่อไทยตอนนี้ไม่ใช่เบอร์ 1 แล้ว แต่เป็นการเข้าที่ 2 แล้วไปจับมือกับพรรคร่วมอื่นๆ นี่คือปัญหาใหญ่ของส้ม ที่ต่อให้ได้เสียงเยอะก็ไม่อาจจะเป็นรัฐบาล

เว้นเสียแต่ว่ารอบหน้าคนแม่มจะเลือกส้มขาดลอยจริงๆ

ผลประโยชน์ทั้งนั้นไม่ว่าจะรวมหรือไม่

เลือกตั้งรอบหน้า คนพวกนี้ทำอะไรก็ได้ แค่ไม่ให้ก้าวไกลได้เสียงเกิน 250 เดี๋ยวมันก็จับมือกันเหมือนแบบตอนนี้

สมมุติควบรวมจริงสลิ่มเลือกใคร พรรคแมลงสาปอ่อ คงไม่มั้งเพราะหมดวาระนี้พวกแก่ๆก็เลิกหมดละ พวกใหม่ๆมันก็พร้อมจับมือ พท กันทั้งนั้น

ประเมินผิดนี่ล่มสลายเลยนะ
รวมๆ กันแล้ว เสียงดันไม่ขาดเนี่ย
แบ่งเก้าอี้ไม่รอด มุ้งระเบิดนะ

ต้องวัดแหละ
บัตร 2 ใบ พรรคใหญ่ได้เปรียบ
รึจะโหวตกลับไปใช้บัตรใบเดียว แล้วไปเก็บเศษเสียงเอา

ผมว่ามันชัดเจนนะ ว่าควบรวมแน่ หลายๆพรรคตอนนี้ก็มาจากทรท ทั้งนั้น
พรรคที่ควบแน่ๆก็ พปชร / รทสช แล้วก็ดูดภจท.บางก๊วนกลับมา
คราวนี้คะแนนเสียงที่เคยต้องแข่งกัน ก็จะมารวมกันแทน โอกาสชนะเลือกตั้งก็สูงขึ้นมาก

แต่ๆ ไอ้คำไม่จับมือ3ป. คราวนี้จะดังกว่าเดิม เพราะมันเล่นควบรวมเลย

ปล.ที่กลัวสุดคือมันให้มีการเลือกตั้ง โดยไม่มีฝั่งส้ม จะด้วยยุบพรรคใกล้เลือกตั้ง หรือยัดขัอหาใดข้อหนึ่งช่วงหาเสียง แบบไทยรักษาชาติ
คราวนี้ปชช.ไม่อยู่เฉยแน่ เมื่อเกิดการชุมนุม ก็ทำให้แอ่นแอ้นออกมารักษาความสงบอีกรอบ

ลงชื่อ รอดูครับ

ต่างกันตรงปี48 ไม่มีโซเชียล ประชาชนไม่มีสื่อในมือ

สภาพแม้วนี่มันคนแก่ยึดติดอดีตชัดๆ วิธีการต่างๆที่ทำตอนนี้ คือ วิธีการที่ตัวเองเคยทำสำเร็จเมื่อ 20 ปีที่แล้วทั้งนั้น

แต่ไอ้พวกที่ไปหาตอนนี้มันไม่ได้โง่หรอกนะ ถึงวันนึงคงรู้ตัวอยู่เงียบๆเป็นคนแก่น่าสมเพช โม้เหม็นเรื่องตัวเองในอดีต

ถ้าไม่ควบรวม คะแนนตีกันเอง ก็แพ้ก้าวไกลแหละ นี่คือไม่กี่ทางรอด เห็นแล้วก็สงสาร

ถ้าตามที่วิเคราะห์กัน ก็คงต้องรวมแหล่ะ ไม่งั้นตัดคะแนนกันเอง แต่ในความเป็นจริง แต่ละพรรคเค้าก็มีแคนดิเดตของตัวเองแต่ละจังหวัด บ้างเขตอาจจะตกลงกันได้ แต่บางเขตต่างคนก็ต่างมั่นใจในคะแนนเสียงของตัวเอง ทำไงหล่ะที่นี้จะตกลงแบ่งกันยังไง มันจะจบไม่สวยหน่ะสิ ก็รอดูกันต่อไปว่าเพื่อไทยจะเดินไงต่อ คงจะประเมินอีกทีหลังเงินดิจิตอลได้ออกมา เสียงของประชาชนพอใจไหม

นักการเมืองรุ่นนั้นเขาจะคิดไม่ได้หรอ รวมแล้วอำนาจการต่อรองจะไม่เหลือ
การเป็นตัวแปรตั้งรัฐบาล อำนาจการต่อรองสูงกว่าไปหลบใต้ปีกเพื่อไทยเยอะ