โห เรื่องแค่นี้ก็ยังต้องเถียงกัน แค่นี้แยกไม่ออกจริงๆหรือครับ
หน้าที่ของ สส. โดยคอมม่อนเซนส์ก็น่าจะชัดเจน
ก่อนอื่นก็ขอด่าไอซ์ก่อน ว่าพูดอะไรวะ ไม่รู้เรื่องเลย โอเครายละเอียดมันก็เข้าใจได้ แต่สรุปคือไรนะ
ผมจับประเด็นได้ว่า
- ศูนย์เด็กเล็ก กระจุกตัวและไม่ครอบคลุม บางเขตไม่มี บางเขตมีน้อย
- ส่วนมากเป็นของเอกชนคนใจดี ไม่ใช่ของกรุงเทพ ซึ่งติดขัดข้อระเบียบของกทม ว่าต้องยกให้กทม เกิน7ปี
- หลังจากนั้นรัฐเข้ามาสนับสนุน
(บอกตรงๆนะ คือไรฟระ ไม่เข้าใจ)
- ปัญหาถัดมาคือ ปัญหาศูนย์เด็กเล็กไม่ได้รับการพัฒนา
- ครูหรือครูพี่เลี้ยง ซึ่งก็คืออาสา เป็นลูกจ้างรายวันไม่มีประกันสังคม ไม่มีสวัสดิการ
- ศูนย์เด็กเล็กดูแล 2-6ปี ต่ำ2ไม่มี
- Gap ระหว่างกฎหมาย ไอ่ 6เดือนที่ลาได้ ไปถึง 2ปีที่ศูนย์เด็กเล็ดจะรับได้
- กทม ทำได้ ถ้าจัดเงินดีดี งานก่อสร้างมีปัญหาเบิกจ่ายเยอะ
- สรุปคือ 'ขอเสนอตัด 5%' (อะไรฟระ งง ชิบบ)
เข้าใจว่าเค้าคงเข้าใจกันหละมั้ง ถ้าได้อ่านอะไรมาก่อนรู้เรื่องมาก่อน หรือผมอาจจะโง่เกินไป ฟังไม่รู้เรื่องครับ
แน่นอนว่าประเด็นที่จะสื่อมันเข้าใจได้ แต่เปิดมาอะไร ประเด็นปิดคืออะไร สรุปจะเสนอไร ไม่รู้เรื่องอะ
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ มันก็เป็นสิ่งที่ สส. ควรจะทำได้อยู่แล้ว ผิดตรงไหนยังไม่เข้าใจ (ผมเห็นด้วยแค่พรีเซ้นห่วย)
ทั้งหมดทั้งมวลประเด็นอยู่ที่จับได้ 2ข้อ คือ
1. งบที่ถูกปรับลด แต่ไม่ได้ไปเพิ่มในส่วนที่ควรจะเพิ่ม
ซึ่งต่อให้เป็นเรื่องของ กทม กับสำนักงบ สส. ก็ควรจะพูดได้หนิครับ ก็สำนักงบขึ้นตรงกับนายก
2. รายละเอียดคือ ศูนย์เด็กเล็กกระจุกตัว ไม่เพียงพอ รายได้ต่ำเพราะเป็นลูกจ้างรายวัน
สวัสดิการไม่มี และไม่ครอบคลุมเพราะกฎหมายให้ลางานได้ 2เดือน แต่ไปช่วยเลี้ยงเด็กตอน2ขวบ
(และ3. ต่อให้ไม่มีอำนาจทางกฎหมาย ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ดูแลก็ตาม
ต่อให้เป็น สส.พัทลุง แต่จะมาเสรือกอภิปรายปัญหาของลำปาง ถ้ามันจริงมีประเด็น ข้อมูลมี เนื้อหาได้
ผมก็ไม่เห็นมันจะเป็นเรื่องแย่อะไร กลับดีด้วยซ้ำไป ไอ่คนที่บอกเสรือกโดยที่ไม่สนใจประเด็นมากกว่าที่เป็นปัญหา
ยึดแต่กฎระเบียบอำนาจหน้าที่โง่ๆ แต่เห็นปัญหาแล้วไม่แก้ ไม่พูด ไม่ทำแมวไรต่างหากที่เป็นปัญหา
ถ้ากฎมันห่วยนัก มารยาทก็เรื่องนึง แต่จะมาเหนือทุกอย่างก็คงจะไม่ใช่)
ประเด็นก็มีเท่านี้
ซึ่งที่มันผิดก็ผิดที่มาเล่นข่าวว่าของงบเพิ่ม ในความเป็นจริงไม่ได้ของบเพิ่ม
อภิปรายของบอุดหนุน จึงเป็นเรื่องที่ผิดแน่นอน (ซึ่งผมก็โทษไอซ์ระดับนึงอะ เพราะอย่างที่บอกว่าเอาหละใจเข้าปัญหาละ สรุปต้องการไร? สุดท้ายยัง งงๆ นะ ถ้าไม่ได้ตามต่อจากนั้น หรือเอามาตีความดีดี)
และ "งบประมาณ รัฐบาลไม่ได้เก็บและจ่ายให้กทม แต่ กทมเป็นผู้จัดเก็บและ บริหาร"
ก็เป็นคำพูดที่ผิดแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งจริงก็ขี้เกียจมาเถียงประเด็นหยุมๆหยิมๆแบบนี้
เพราะก็อย่างที่บอกไปว่าหลักการควรจะเป็นยังไง
Spoil
OrangUtanGa พิมพ์ว่า:
GANGNUM STYLE พิมพ์ว่า:
ก็งงเหมือนกันว่าในเมื่อมันเป็นผลกระทบมาจากนโยบายรัฐเกี่ยวกับงบประมาณที่จะไปใช้ไม่ถูกจุด แล้วทำไมถึงจะอภิปรายในสภาไม่ได้ล่ะในฐานะสส.
งบประมาณ รัฐบาลไม่ได้เก็บและจ่ายให้กทม
แต่ กทมเป็นผู้จัดเก็บและ บริหาร
แบบนี้คุณว่าเกี่ยว หรือ ควรไปอภิปรายในสภามั้ย
https://theactive.net/data/bangkok-revenue-policy/
แต่
https://theactive.net/data/bangkok-revenue-policy/ ไอ่เว็บที่ท่านอ้างมา
มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ส่วนที่จัดเก็บเอง มีแค่ส่วนเดียวคือ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
นอกนั้นเค้าเรียกว่า ส่วนที่รัฐจัดสรรให้ และส่วนที่เป็นงบอุดหนุน
ซึ่งตัวใหญ่ๆสีเหลืองๆตามที่ว่ามา มันจะไปเป็นกทม.เก็บ กทม.บริหารได้ยังได้ฟราย
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ
- ภาษีสรรพสามิต
- ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์และล้อเลื่อน
- ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
- ค่าภาคหลวงแร่ปิโตรเลียม
- ภาษีอสังหาริมทรัพย์
ก็คิดนิดนึงครับ ว่ากทม. เก็บอะไรพวกนี้เองจริงงะ?? เอาใครไปเก็บ หน่วยงานไหน ขึ้นตรงกะใคร
ขึ้นตรงกับผู้ว่าหรอ สก. หรือใคร หรือเค้าแยกหน่วยงานย่อยๆของกรุงเทพมาขึ้นตรงกับกรุงเทพ ก็เรื่องนึง
ซึ่งมันไม่ใช่มั้ยครับ ก็แค่มีกฎหมายบอกว่าให้เอาตังส่วนนี้ยกให้กรุงเทพรึเปล่า กรุงเทพไม่ได้เก็บเอง
คนเก็บมันก็กระทรวงต่างๆ ซึ่งตามหลักมันก็คือรัฐบาล ทำไมจะพูดไม่ได้
และที่พูดมาทั้งหมด ก็คือประเด็นมันก็คือมาตรา33. ซึ่งก็บอกไว้ตั้งแต่ต้น
เอาหละมันอาจจะอ้อมเขาเยอะหน่อย แต่สุดท้ายยกหัวข้อนี้มา แล้วแตกรายละเอียด
มันก็ต้องยึดหัวไว้ก่อนได้ก็ไม่น่าผิดเกินไปนะผมว่า ถ้าจะอ้างว่ากำลังพูดถึง
สิทธิประกันสังคมที่ผู้ประกันตนว่ามันไม่ดีมากพอ แต่ที่เหลือคือรายละเอียด มันก็ได้
ซึ่งหลักมันไม่ผิดละตามความรู้สึกผม ส่วนรายละเอียดเรื่องนี้ไม่รู้เลย จะว่าอะไรก็ว่าไป มีข้อมูลอะไรก็ว่ามา
แต่ก็กลับมาที่ประเด็นเดิม จะรู้ไม่รู้แล้วยังไง คือจะก้าวไกลไม่ก้าวไกลอะไรก็ไม่รู้อะนะ
แถมไอ่ประเด็นนี้ผมก็ไม่รู้เรื่องด้วย แต่ถ้ามันเป็นจริง มีผลกระทบต่อคนเยอะจริง ต่อให้ไอซ์โง่จริงผิดจริง
ก็ไม่เห็นจะต้องเป็นประเด็นอะไรขนาดนั้น เสียเวลาสภา15นาที กับเรื่องแบบนี้ มันจะอะไรนักหนา
ทะเลาะกัน ค้านกันโง่ๆ โต้คารมแบบเด็กม. หลายปีที่ผ่านมา
ไม่รู้กี่ชั่วโมงต่อปีที่ไร้สาระกว่านี้อีกเยอะๆๆๆๆๆ มากๆ ยังไม่เห็นออกมาบ่นไร
ประเด็นนี้ ก็เห็นเถียงกันเรื่องตัวบทกฎหมาย ตัวหนังสือทั้งนั้น
แทนที่จะเอารายละเอียดมาคุยกัน แก้ปัญหาสังคมกันดีดี
ต่อให้ไอซ์โง่จริง ผิดจริง ก็ไม่ต้องแก้ไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องเสรือก ต้องทำตามระบบไป
บอก สก.ให้อภิปรายไป เอางี้จริงอะ ถ้าสก.ไม่ทำหละ ถ้าพูดไปแล้วไม่มีคนฟัง? ละจะทำไงดี
เอาจริงๆ ประชุมสก. มีประเด็นทุเรศทุรังเยอะแยะ ผมก็ฟังอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เห็นเป็นข่าวซะที
(นอกจากเรื่องแอร์เด็ก ที่มาดังแปปๆแล้วก็ไป)
แทนที่จะมารักษากฎระเบียบโง่ๆ มาช่วยสังคมแทนดีกว่าไหม กฎไหนโง่ก็ข้ามไป
สำคัญไรนักหนา ก็คนคิดมาทั้งนั้นอะ ใส่ใจประเด็นบ้างเหอะ
ปล. ต้องขออภัยเด็ก ม.2 ที่ดีดีด้วย