Apple โดนฟ้อง ใช้อำนาจตลาดเอาเปรียบผู้บริโภค ทำราคาบริการต่างๆแพงไป
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ร่วมกับ 15 รัฐ ฟ้องร้อง Apple ในข้อหาใช้พลังอำนาจตลาดเพื่อเอาเปรียบผู้บริโภค นักพัฒนา และคู่แข่ง คดีความนี้มุ่งเน้นไปที่ App Store ของ Apple ซึ่งถูกกล่าวหาว่าผูกขาดตลาดและจำกัดทางเลือกของผู้บริโภค
- Apple โดนฟ้อง ใช้อำนาจตลาดเอาเปรียบผู้บริโภค ทำราคาบริการต่างๆแพงไป
จากรายงานของ รอยเตอร์ ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และ 15 รัฐ ร่วมกันฟ้องร้อง Apple โดยกล่าวหาว่าบริษัทใช้ความต้องการที่สูงสำหรับ iPhone และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในการผลักดันราคาบริการต่างๆ ให้สูงขึ้น รวมถึงสร้างความเสียหายให้กับคู่แข่งรายเล็กกว่า นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ ในการปราบปรามยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
Apple นับเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ฟ้องร้องในข้อหาต่อต้านการแข่งขันทางการค้า โดยมีทั้ง Alphabet (บริษัทแม่ของ Google), Meta Platforms (Facebook) และ Amazon.com ที่เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วทั้งในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โจ ไบเดน
"ผู้บริโภคไม่ควรต้องจ่ายราคาที่สูงขึ้น เพียงเพราะบริษัทเหล่านี้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด" อัยการสูงสุด Merrick Garland กล่าวในแถลงการณ์ "หากไม่ถูกตรวจสอบ Apple จะยิ่งเสริมสร้างการผูกขาดตลาดสมาร์ทโฟนของตนให้แข็งแกร่งขึ้นต่อไป"
ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นผู้เล่นรายเล็กในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โมเดลธุรกิจของ Apple คือการเรียกเก็บราคาพรีเมี่ยมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทสามารถควบคุมได้เกือบทั้งหมด ตั้งแต่การทำงานไปจนถึงการใช้งานอุปกรณ์ กระทรวงยุติธรรมพยายามที่จะเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจนี้ โดยบังคับให้ Apple ให้ทางเลือกแก่ผู้ใช้มากขึ้นในเรื่องของการที่แอปพลิเคชันต่างๆ จะเข้าถึงฮาร์ดแวร์ที่ Apple ออกแบบได้อย่างไร
- กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาว่า Apple ใช้อำนาจตลาดเพื่อเอาเปรียบผู้บริโภค
หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลเขตโคลัมเบียร่วมฟ้องด้วย กล่าวหาว่า Apple ใช้พลังทางการตลาดเรียกเก็บเงินที่สูงขึ้นจากผู้บริโภค นักพัฒนา ผู้สร้างคอนเทนต์ ศิลปิน สำนักพิมพ์ ธุรกิจขนาดเล็ก และร้านค้าต่างๆ สำหรับคดีความยาว 88 หน้าที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ระบุว่าต้องการ "ปลดปล่อยตลาดสมาร์ทโฟนจากการต่อต้านการแข่งขันของ Apple รวมถึงกอบกู้การแข่งขัน เพื่อลดราคาสมาร์ทโฟน สร้างความเป็นธรรมในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับนักพัฒนา และรักษานวัตกรรมในอนาคต"
ทางสหรัฐฯ กล่าวหาว่า Apple จงใจลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตัวเองเพื่อขัดขวางคู่แข่ง ยกตัวอย่าง 5 กรณีที่ Apple พยายามลดการแข่งขันทางเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น "ซูเปอร์แอป" แอปเกมที่เล่นแบบสตรีมผ่านคลาวด์ แอปส่งข้อความ สมาร์ทวอทช์ และกระเป๋าเงินดิจิทัล ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐฯ กล่าวหาว่า Apple สร้างความยากลำบากให้แอปส่งข้อความและสมาร์ทวอทช์ของคู่แข่งทำงานได้ราบรื่นบน iPhone รวมถึงกล่าวหาว่านโยบาย app store ของ Apple เกี่ยวกับบริการสตรีมมิ่งเกมต่างๆ ก็ขัดขวางการแข่งขันด้วยเช่นกัน
กระทรวงยุติธรรมยังอ้างอิงอีเมลจาก Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ที่เสียชีวิตไปแล้วในปี 2011 ซึ่งระบุว่า "ไม่สนุกเลยที่เห็นว่าผู้บริโภคเปลี่ยนจาก iPhone เป็น Android ได้ง่ายดาย" และสาบานว่าจะ "บังคับ" นักพัฒนาให้ใช้ระบบการชำระเงินของ Apple เพื่อกักตัวทั้งนักพัฒนาและผู้บริโภคเอาไว้ นอกจากนี้จุดสนใจที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สอบสวน เพราะการเปลี่ยนแปลงเรื่อง App Store กระทรวงยุติธรรมจึงหันมาตรวจสอบวิธีการอื่นๆ ของ Apple เช่น การที่ Apple จำกัดการเข้าถึงชิพและเซนเซอร์ใน iPhone ของบริษัทอื่น
ด้าน Apple ไม่เห็นด้วยและออกแถลงการณ์ว่า "คดีความนี้คุกคามตัวตนของเราและหลักการที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ Apple แตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง หากฟ้องร้องสำเร็จ มันจะบั่นทอนความสามารถในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ผู้คนคาดหวังจาก Apple ซึ่งเป็นจุดที่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆมาบรรจบกัน"
เวลานี้ ยังไม่ชัดเจนว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ต้องการให้ Apple เปลี่ยนแปลงอะไรโดยเฉพาะ คำฟ้องขอให้ศาลสั่งห้าม Apple ใช้การควบคุมแอปสโตร์ สัญญาต่างๆ และการใช้ส่วนเชื่อมต่อซอฟต์แวร์ส่วนบุคคล ในทางที่ทำลายคู่แข่ง นอกจากนี้ยังต้องการให้ศาลสั่งการอื่นๆ ที่จำเป็น "เพื่อฟื้นฟูสภาพการแข่งขันในตลาดที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของ Apple"
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.amarintv.com/spotlight/business-marketing/detail/62411