ริชาร์ด คีย์ส เดือด‼️ เซาธ์เกตเตือนแรชฟอร์ด‼️ สเตอร์ลิง โดนวิจารณ์ยับ‼️ คล็อปป์ช้ำใจ ลิเวอร์พูลพ่ายแมนยู
{เนื่องจากผมได้หัดแปล ข่าวจากเว็บไซค์ต่างประเทศ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ}
ข่าวที่ 1 ริชาร์ด คีย์ส ผู้ประกาศข่าวรุ่นเก๋าได้ตำหนิผู้เล่นที่เจาะรูถุงเท้าฟุตบอล และอ้างว่าการฝึกซ้อมนี้ เลยเถิดไปไกลเกินไป
คีย์สเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บรรยายฟุตบอลชื่อดังในอังกฤษ เคยร่วมงานกับสกายสปอร์ตมาก่อน ก่อนที่จะลาออกในปี 2554 และย้ายไปร่วมงานกับ beIN Sports ช่องกีฬาในกาตาร์
ล่าสุด คีย์สวิพากษ์วิจารณ์เทรนด์ใหม่ของนักฟุตบอลที่เจาะรูถุงเท้า โดยอ้างว่าเป็นการฝึกซ้อมที่ไร้สาระและเลยเถิดไปไกลเกินไป เขาพูดถึงเรื่องนี้ระหว่างการถ่ายทอดสดเกมเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
คีย์สอ้างอิงบทความในเดอะไทม์สที่เขียนโดยเกรเกอร์ โรเบิร์ตสัน อดีตนักฟุตบอลที่ผันตัวมาเป็นนักข่าว บทความพูดถึงเทรนด์ใหม่ของนักฟุตบอลที่เจาะรูถุงเท้าเพื่อลดแรงกดบนกล้ามเนื้อน่องและเอ็นร้อยหวาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดความเสี่ยงตะคริว
คีย์สไม่เห็นด้วยกับเทรนด์นี้ เขาคิดว่ามันไร้สาระและไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ เขาเสริมว่า "ไคล์ วอล์คเกอร์ เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลคนแรกๆ ที่ทำแบบนี้ จริงๆแล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะหลังจบเกมพวกเขาก็ใส่ถุงเท้ารัดกล้ามเนื้อน่องอยู่ดี"
"เกรเกอร์พูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน เขาอ้างคำพูดของผมว่า ฟุตบอลสเปนห้ามเจาะรูถุงเท้า ผมส่งข้อความไปหาเขาเพื่อบอกว่าผมรู้เรื่องนี้ และผมก็หาข้อมูลมาแล้ว จริงอยู่ที่จูด เบลลิงแฮม ไม่โดนใบเหลือง แต่เทรนด์นี้มันเลยเถิดไปไกลเกินไป
แหล่งที่มา sportbible
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าวที่ 2 แรชฟอร์ดเจอเตือน! เซาธ์เกตเผย 3 ดาวรุ่งพร้อมลุ้นแย่งตำแหน่ง
มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าจอมพริ้วของทีมชาติอังกฤษ ถูกเตือน โดย แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีม ว่าเขาจำเป็นต้อง "ต่อสู้" และทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อรักษาตำแหน่งในทีมชาติชุดลุยศึกยูโร 2024
เซาธ์เกตเน้นย้ำว่าแรชฟอร์ดต้องเผชิญ การแข่งขันที่ดุเดือด จากดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง แอนโทนี่ กอร์ดอน, โคล พาลเมอร์ และ ฟิล โฟเด้น ซึ่งต่างก็ต้องการโอกาสพิสูจน์ตัวเองบนเวทีใหญ่เช่นกัน
ฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวัง ของแรชฟอร์ดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงประตูได้เพียง 7 ประตูจาก 34 นัด กลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เขาถูกจับตามอง
อย่างไรก็ตาม เซาธ์เกต ยังคงเชื่อมั่น ในศักยภาพของแรชฟอร์ด และ คาดหวัง ให้เขากลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้งก่อนการแข่งขันยูโร
"เขาต้องต่อสู้กับกอร์ดอน พาลเมอร์ และโฟเด้น พวกเรามีการแข่งขันที่สูงมากในตำแหน่งนั้น" เซาธ์เกตกล่าวกับสื่อ Metro UK
แหล่งที่มา : dailypost
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ช่าวที่ 3 ราฮีม สเตอร์ลิง โดนวิจารณ์ยับ แย่งจุดโทษจากพาลเมอร์ ในเกมเอฟเอ คัพ
ราฮีม สเตอร์ลิง โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง กรณีแย่งยิงจุดโทษจาก โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งอนาคตไกล ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เชลซี เอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 4-2
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงท้ายครึ่งแรก เมื่อเชลซีได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอล สเตอร์ลิง แม้จะยืนอยู่ห่างไกลจากจุดเกิดเหตุ กลับรีบคว้าบอลจากพาลเมอร์ ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่สังหารจุดโทษประจำทีม
มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลังปืนใหญ่ ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของสเตอร์ลิง ผ่านทาง BBC Sport ว่า
"มันเป็นการกระทำที่ไร้สาระสิ้นดี สเตอร์ลิงอาจคิดว่าตัวเองทำเพื่อทีม แต่ท้ายที่สุดแล้ว โคล พาลเมอร์ ควรเป็นผู้สังหารจุดโทษ"
คีโอว์นยังแสดงความกังวลว่า การกระทำของสเตอร์ลิง อาจส่งผลเสียต่อความมั่นใจของพาลเมอร์
"ลองสังเกตดู พาลเมอร์ ไม่ขอรับหน้าที่ยิงฟรีคิกหลังจากนั้น และนั่นอาจส่งผลต่อความมั่นใจของเขาในการยิงจุดโทษในอนาคต สเตอร์ลิง แม้จะเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ แต่เขาควรเคารพนักเตะดาวรุ่งอย่างพาลเมอร์"
ประเด็นนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แฟนบอลจำนวนมากต่างไม่พอใจกับการกระทำของสเตอร์ลิง มองว่าเป็นการเห็นแก่ตัว และไร้ความเป็นมืออาชีพ
แหล่งที่มา : dailypost
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าวที่ 4 คล็อปป์ช้ำใจ! ลิเวอร์พูลพ่ายแมนยู 4-3 หลุดฝันคว้า 4 แชมป์
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เสียดายที่ทีมของเขาแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูลเกือบจะคว้าชัยชนะในช่วงทดเวลาบาดเจ็บถึงสองครั้ง แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตีเสมอได้ทั้งสองครั้ง ก่อนที่อาหมัด ดิอัลโลจะซัดประตูชัยให้กับทีมปีศาจแดงในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ความหวังของคล็อปป์ที่จะคว้าแชมป์สี่รายการในฤดูกาลนี้จบลง
คล็อปป์กล่าวว่า "เราควรจะชนะเกมนี้ และเราสมควรได้รับมัน แต่แมนฯ ยูไนเต็ดก็สมควรได้รับด้วยเช่นกัน"
"ตอนที่เราขึ้นนำ 2-1 เราะมีโอกาสปิดเกมได้หลายครั้ง แต่จังหวะการจ่ายบอลสุดท้ายยังไม่ดี บางทีก็เล่นแบบรีบร้อนเกินไป ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ตามที่เห็น"
ยิ่งเกมดำเนินไปนานขึ้น การตัดสินใจของเรายิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ ต้องขอแสดงความยินดีกับยูไนเต็ดที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ตอนนี้เราลงเตะน้อยกว่าเขา 1-2 เกม เราจะพยายามใช้ความได้เปรียบตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า"
แหล่งที่มา : dailypost
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------