ปกติไม่ได้สนใจมาก อ่านแต่กระทู้ใน SS มีแต่คนบอกว่ารถยุโรป benz bmw โดยเฉพาะพวกรถไฮบริดจ์ ปัญหาจุกจิกเยอะ

แล้วได้ข่าวว่าค่ายพวกนี้เน้นขายไฮบริดจ์ด้วย เลยลดสเปคพวกรถสันดาปเพื่อดันยอดขายไฮบริดจ์อีก

ที่บ้านซื้อรถญี่ปุ่นมา 6 คันแล้ว ยังไม่เคยเจอปัญหาจุกจิกแบบที่ว่าเลย

ละปัญหามันชอบเกิดหลังหมด bsi จริงๆนะ หมดปุ๊บก๊อกแก๊กๆละ

ระบบเซนเซอร์มันเยอะ จนจุกจิกครับ

พวก ครึ่งไฟ ยุโรป ไม่น่าเล่นครับ เสียทีซ่อมแพง หนีได้หนีครับ

หาน้ำมันเพียว สบายใจกว่า

ส่วนตัวเน้นใช้ทางไกล เลยเลือกดีเซลมาใช้ ถือว่าดีเลย แต่เสียงยังกะ กะบะ 5555

อันนี้จริงนะ ของผมทุกคันเลย 5-6 ปี มันทยอยพังแบบปวดหัวเลย แล้วที่ปวดใจคือรถพรีเมี่ยมแต่ภายในละลายเละเป็นเจลเลย ผมจบแค่ 530e คันสุดท้ายแล้วครับ

เสียงดังกว่าเบนซินอย่างพวกซิวิคมั้ยครับ

เทคโนโลยีมันเยอะ โอกาสเสียมันก็เยอะกว่าอยู่แล้ว รถญี่ปุ่นมีไร ทำยังไงก็ขายได้ จะเอาไรไปเสีย ยิ่งถ้าไม่มีไรใหม่ๆเพิ่มมาของเก่าก็ปรับปรุงไปเรื่อยๆ

ดีเซลยุโรปทนครับ นอกนั้นทำใจไว้เลย

Hybrid *** ระบบมันเยอะซับซ้อน

แต่ถ้าน้ำมันล้วนรถเยอรมันค่อนข้างโอเคนะ

ดังกว่าครับ ขับมาด้านหลังคน นี่คนนึกว่าเสียงรถกะบะ มา 5555

แรกๆไม่ดังมาก ใช้ๆไป ดังจัด

ยุโรปความเชี่ยวชาญไฮบริดไม่เท่าญี่ปุ่นครับ

BMW นี่ถึงขั้นต้องทำ agreement แลกเปลี่ยนความรู้เรื่อง Hybrid กับโตโยต้าเลย โดยเอาความรู้เรื่องเครื่องยนต์ดีเซลไปแลก

รถยุโรปมันราคา overprice ไปเยอะ อยุ่เมืองนอกราคาพอๆกับเทสล่า นี่ขนาดประกอบไทยนะ

สมัยก่อนเป็นไฮบริดก็ปัญหาเยอะครับ (เช่นประตูดูดใน S Class ปลาวาฬที่ตาผมเคยใช้) พอทีนี้มีพ่วงไฮบริดมามีส่วนให้เสียเพิ่มอีก

ถ้าเล่น BMW ซื้อดีเซลตัว _20d อ่ะครับ ได้ยินว่าทนถึก แต่ญาติผมมี 630d ปวดหัวกับข่าวไฟไหม้ อีกคน X5ไฟฟ้า ขายทิ้งไปเบนซ์ดีเซลแล้ว

ซื้อมาหกคัน แล้วคันนึงใช้กี่ปีล่ะ ผมว่ามันอยู่ที่บางคนจะมองว่าคำว่าจุกจิกคืออะไร

อย่างผมใช้ Teana แล้วย้ายมา Camry ผมถึงได้รู้สึกว่า เออ Toyota มันดู ไม่เสียเล้กเสียน้อยเท่า Nissan แหะ แต่กว่ามันจะเริ่มออกอาการ ก็ปีที่ 5-6 แล้ว เริ่มจากพวกช่วงล่างก่อน อะไรทำนองนั้น

แต่ถ้าท่านซื้อแล้ว ใช้มานาน มาเยอะแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรเสีย สักที มันมีอยู่สองอย่างคือ ท่านโชคดี กับมันกำลังจะระเบิดตู้ม เสียพร้อมๆกันหลายอย่าง ผมยังไม่เจอรถที่บอกว่าใช้ 10 ปี ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากถ่ายของเหลว ไม่เคยเจอนะครับ กับพวกใช้ทั้งๆที่ยังเสีย ตุ๊ๆไปก่อน ไม่นับนะ กับบางคนเข้าศูนย์ที เค้าให้เปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน อันนี้ก็ไม่นับนะครับ เพราะคุณบำรุงถึงแล้ว เปลี่ยนก่อนมีเหตุ อันนี้ก็มีแนวโน้มครับ

ระบบไฟฟ้ามันเยอะ ระบบอำนวยนั้นนี้ มันทำให้มีvariable เยอะไม่แปลกที่่โอกาสจะพังเยอะกว่า อีกอย่างพฤติกรรมการดูแลรถ นิสัยการขับขี่ ภูมิอากาศทุกอย่างมีส่วนหมด ผมเคยศึกษาก่อนซื้อคันล่าสุด user errorก็มีส่วนเยอะไม่ดูแลรักษาตามระยะ นั้นนี้ถ้าดูแลตามระยะจริงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ส่วนรถยุ่นออกแบบมาโดยยืนบนพื้นฐานเลยว่า ผู้ซื้อมีนิสัยไม่ค่อยดูแล เคยถามช่างช่างบอกระบบขับเคลื่อนไรมันก็คล้ายๆกันหมด แต่รถเอาอย่าง Audi ละกันออกแบบให้เป็นรถที่มี leg room เยอะ ทำให้ต้องดันเครื่องไปอัดอยู่ข้างหน้า พอจะซ่อมนั้นนี้ทีมันเลยต้องรื้อเยอะกว่า งานหนักกว่า ต่างกับรถยุ่น มีที่ให้ซ่อมเยอะกว่า

สรุปง่ายๆ ถ้าจะขับก็ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาไหว ถ้าตามระยะดูแลไหว ก็ทนพอสมควร