เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดังด้วย นั่นแหละ

การตลาดแน่นอน,ปีโควิดไม่ได้จัดไม่มีถ่ายทอดสด,งดแจกเฉย,โหวต onlineไม่ได้รึ

สมัยแรกๆอ่ะคงเรียกไม่เต็มปาก แต่หลังๆอ่ะใช่ สุดท้ายทุกอย่างมันก็ต้องรันด้วยเงิน

ถ้าเอาคนที่เก่งจริงๆนะ ผมว่าเอา MOM มาตัดสินเลยดีกว่า ว่าใครคงเส้นคงวามากกว่ากันในแต่ละปี แบบนี้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบเลย ดูกันนัดต่อนัด ตัดสินกันยาวๆเลย แต่ประเด็นคือถ้าเอาแบบผมว่า เมสซี่มันก็ได้อยู่คนเดียวน่ะสิ เผลอๆได้เยอะกว่า 8 สมัยแน่นอน เพราะเมสส่วนใหญ่มันเล่นดีทุกเกม ได้ MOM บ่อยกว่าใคร คนไม่ได้ก็ไม่แฟร์อีกนั่นแหละ พวกคุณว่าไหม

ถ้าไม่นับเรื่องการตลาด ผมว่ามันเป็นรางวัลเกือบๆตัวรุกอ่ะ ถ้าอยากให้ทีมชนะ ส่วนใหญ่มันนึกถึงตัวรุกมากกว่าตัวรับ

เขา PR เพื่อเรื่องธุรกิจ อย่าไปเหมาว่า PR เพื่อให้ได้รับรางวัล ๆ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น การโหวตมันก็เหมือนระบบประชาธิปไตย คนเก่งที่สุดอาจไม่ชนะ แต่คนที่ได้รับความนิยมที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ส่วนความนิยมนั้นมาจากไหน? ฟุตบอลนั้นความนิยมหลัก ๆ มาจากผลงาน ฟอร์มการเล่น นำมาอย่างแรกเลย การ PR ด้านอื่น ๆ มีผลน้อย แล้วตำแหน่งประเภทปิดทองหลังพระ มันสร้างผลงานจนได้รับความนิยมได้น้อยกว่าตำแหน่งกองหน้าอยู่ล่ะ ดังนั้น โอกาสจึงอยู่ที่กองหน้า / กองกลางประเภทเพลเมคเกอร์ตัวทำเกม ประเภทตัวตัดเกม คุมเทมโป มันยากที่จะเห็นผลงานชัดเจน คนที่ดูทั้งเกมถึงจะรู้ แต่ความนิยมของคนส่วนใหญ่(จนทำให้เกิดคำว่า ชื่อเสียง) มันมาจากคนที่ดูทั้งเกม + คนที่ติดตามดูไฮไลท์ --- แต่หมดยุค เมสซี่ - โรนัลโด้ แล้ว วางอคติต่อรางวัลนี้แล้วใช้ความพยายาม หากเล่นดีระดับนี้ + ทีมประสบความสำเร็จ + โชคนิดหน่อย คือ เป็นปีที่กองหน้าไม่เด่นมาก ไม่มีใครเด่นโดด ๆ ขึ้นมาประเภทยิงถล่มทลาย ตำแหน่งอื่นก็อาจขึ้นมาคว้ารางวัลได้เช่นกัน

ตามโรดรี้เลย

ช่วงหลัง รางวัลนี้มันเทไปให้แนวรุกซะเยอะเลย

ตอบได้ดี ครับ ผมว่า ยังไงมันก็เป็นการตลาด และ เป็นความชื่นชอบด้วย เพราะส่วนใหญ่คนที่ได้รับรางวัล คือคนที่ทำประตูได้ คนที่จ่ายบอลเก่ง รับเก่ง ได้รางวัลพวกนี้น้อยมาก

ลองสังเกตดูครับ ส่วนใหญ่คนที่รับรางวัลมักเป็นกองหน้า มากที่สุด

ถ้าดูจากกระบวนการโหวต มันไม่ใช่การตลาด มันมาจากการเลือกของผู้โหวต

แต่การโหวตของแต่ละคน การตลาดมันก็มีผลส่วนหนึ่ง เพราะผู้โหวตก็น่าจะมีนักเตะในใจ ผลงานที่เข้าตา ไม่ใช่ว่าใครมีทีม PR ดี ยิง AD เยอะ เดินสายแคมเปญหรือเป็นตัวแทนแบรนด์อะไรแบบนั้น

ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ จะชอบผู้เล่นเกมรุก ผู้ตัดสินเกมด้วยประตูตัวเอง มันคือสเน่ห์สุด ๆ ในฟุตบอล
แต่คนที่สุดจริง ๆ ในปีนั้น มีทัวร์นาเม้นต์ฉายแสง ก็ไปอยู่ใน 1 ใน 3 ตัวเลือกได้แน่ ๆ

สรุปคือ มันไม่ใช่รางวัลจากการตลาด แต่กระบวนการเลือกมันก็มีจุดอ่อนที่มาจากความชอบของคน
ถ้าให้ AI มันเลือก คงมาจาก stat ล้วน ๆ และคงดูแห้งเหี่ยวแบบแปลก ๆ ไปเลย

แต่ตั้งแต่ผมดูบอลมาปีที่กังขามีน้อยกว่าปีที่สมควรได้พอสมควรเลยนะ ตีหยาบๆ 75%เผลอๆ80%ด้วยที่ผมมองว่าผลมันถูกต้องแล้ว

ก็เมสแดกขาดหมด งอแงทำไม

การตลาดก็จริงส่วนนึง มีสองปี ที่ผมมองว่าค้านสายตา หลายคนทั่วโลก

1.ผมมองว่าปีที่โด้ได้ แทนที่จะเป็นริเบอรี่ ปีนั้นระหว่างโด้กับริเบอรี่ใครก็ได้นะ ผลงานส่วนตัวโด้ตัวเลขโหดโคตรๆ แต่ริเบอรี่ได้ 3 แชมป์ ครองบอลโหด จ่ายบอลดี แต่ดูไฮไลท์คือโด้โหดมากๆ มันติดตากว่า

2.ปีที่อินเตอร์ได้สามแชมป์ปีนั้นผมมองว่า ยังไงก็ต้องชไนเดอร์แน่นอน พาทีมเข้าชิงบอลโลก ยิงลูกสำคัญมให้ทีมชาติ สโมสรได้สามแชมป์ จ่ายลูกสำคัญบ่อยๆ ถ้าไม่ใช่ชไนเดอร์ก็น่าจะเป็นอินเนสต้า

ปีอื่นๆ ผมว่าสมควรเป็นไปตามนั้นครับ

อารมย์เดียวกับ รายการ โชว์ ใครเพื่อนเยอะกว่า แฟนคลับเยอะกว่าก็ชนะไป ไม่ได้มี กติกา เช่น ได้แชมป์ได้กี่คะแนน ยิงประตูได้กี่คะแนน จ่ายบอลกี่คะแนน พาทีมชนะกี่ครั้ง อะไรแบบนี้เป็นตัวขี้วัด

วัดจากความชอบและนิสัย น้ำใจนักกีฬา (เอาอะไรเป็นตัวชี้วัด) ขำแป๊บ โหวดโดยนักข่าวและสื่อ ชาติที่ติด TOP 100 ฟีฟ่า ใคร ได้โหวดเยอะก็ได้รางวัล นั่งเกาไข่โดนใจสื่อ สมควรแล้วที่หลายคนด่า รางวัลนี้มันไร้ซึ่งความยุติธรรม ไม่ได้วัดผลงานแต่อย่างใด น่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่ รางวัลนักกีฬาฟุตบอล ถูกใจสื่อยอดเยี่ยมแห่งปี ดีกว่านะ

แล้วคำว่าความเห็นส่วนตัวที่ยกมานั่น มันไม่ใช่การตลาดรึไง