BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 16
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jan 21, 2024 14:46
ประวัติโดยย่อ : Omar Berrada : Manchester United CEO
Omar Berrada ชายที่ดอร์ปการเรียนวิศวะเพื่อไปทำงานที่บาร์เซโลน่าและเป็นคนนำ Erling Haalan สู่แมนฯซิตี้
ณ ตอนนี้เค้าได้รับโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนครั้งใหญ่ ที่ แมนฯยูฯ ในตำแหน่งของ CEO



Berrada ได้ลาออกจากตำแหน่ง CFO (Chief Football Operation) จาก Man City เพื่อมารับตำแหน่งที่ Man Utd ซึ่งเป็นย้ายข้ามฝั่งจากอริร่วมเมืองโดยตรง การแต่งตั้งผู้บริหารวัย 46 ปี ในครั้งนี้ เป็นเจตจำนงของ Sir Jim Ratclife โดยดีลนี้ทำให้แฟนบอลได้เห็นว่ากลุ่ม Ineos ได้เข้ามาบริหารสโมสรอย่างเต็มตัวแล้วนั่นเอง บอร์ดต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมได้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น และการแต่งตั้งในครั้งนี้คือก้าวแรกสำหรับการเดินทางครั้งสำคัญ การเข้ามาของ Berrada จะทำให้เห็นว่า คำพูดของ Sir Matt Busby “เราจะได้เห็นธงสีแดง อยู่ในจุดสูงสุดของเกาะอังกฤษอีกครั้ง” ให้กลายเป็นจริงสักที โดยเค้าเข้ามารับหน้าที่ต่อจาก Richard Arnord ที่อำลาตำแหน่งไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยในระหว่างนั้น คนที่รับหน้าที่ชั่วคราว คือนักกฎหมายที่ชื่อ Patrick Stewart


Richard Arnord

ประวัติการศึกษาและเส้นทางการทำงาน
ต่อจากนี้เรามาดูประวัติโดยย่อของผู้บริหารคนใหม่กันสักหน่อย Berrada มีเชื้อสายโมร็อกโก แต่เกิดที่ ปารีส ฝรั่งเศส โดยเค้านั้นเข้าสู่โลกของฟุตบอลตั้งแต่ปี 2004 ที่สโมสรบาร์เซโลน่า ความฝันในวัยเด็กของเค้านั้นคือเป็นวิศวกร จึงได้เข้าเรียนในระบบการศึกษาสไตล์อเมริกันที่ประเทศโมร็อกโก แล้วศึกษาต่อในชั้นปริญญาตรีด้านวิศวกรรมที่ Massachusetts หลังจากนั้นเพียง 6 เดือน เค้าก้อพักการเรียน หลังจากค้นพบตัวเองว่า ไม่เหมาะกับเส้นทางที่กำลังศึกษาอยู่ และได้เปลี่ยนเส้นทางไปศึกษาต่อที่ EU Business School ในยุโรป โดยในปีสุดท้ายของการศึกษา เค้าได้เลือกฝึกงานที่บาร์เซโลน่าช่วงเวลานั้นเองเค้าได้เรียนภาษาสเปนและมีสิทธิ์ได้เข้าชมเกมส์การแข่งขันของทีมบาร์เซโลน่าอีกด้วย และในปี2004 เมื่อบาร์เซโลน่ามีแผนที่จะขยายแผนกการตลาด ชื่อของ Berrada ได้ถูกเสนอขึ้นมาทันที ในตำแหน่งของ Head of sponsorship หน้าที่หลักคือตัวแทนในการเจรจาดีลต่างๆระหว่างสโมสรและองค์กรธุรกิจชั้นนำจากทั่วโลกหลังจาก 8 ปี ที่บาร์เซโลน่า Berrada ได้ย้ายไป Man City ในปี 2011 เค้าเป็นหนึ่งในคณะผู้บริหารชุดแรกๆ ที่ย้ายมาที่นี่ ตามมาด้วย Ferran Sorriano ในปีต่อมา ปิดท้ายด้วย Pep Guardiola ในปี 2016 เค้ายอมรับว่าการย้ายงานไป Man City เป็นก้าวสำคัญในสายอาชีพของเค้าเลยทีเดียว “มันมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดผมและมันทำให้ผมอยากที่จะลองสิ่งใหม่ เช่น ท้าทายตัวเองในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างออกไป” เจ้าตัวกล่าว “ที่บาร์เซโลน่า ทุกบริษัทอยากที่จะเป็นพาร์ทเนอร์กับเรา แต่ที่แมนฯซิตี้ น้้น เราต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาตลอด ซึ่งนั้นทำให้ผมต้องคิดอะไรใหม่อยู่เสมอ” เค้านั้นเข้าร่วมกันแมนฯซิตี้ในตำแหน่ง Head of International Business Development ดูแลด้านคอมเมอร์เชียลเหมือนอย่างที่เค้าเคยทำที่บาร์เซโลน่า

การเติบโตในสายงาน
ต่อมาเค้าเลื่อนตำแหน่งเป็น senior vice president และควบอีกตำแหน่งคือ Commercial Director ดูแลเรื่องยอดขายและกิจกรรมส่งเสริมของผู้สนับสนุน รวมไปถึงค้าปลีกและกิจกรรมทัวร์ของสโมสร พูดง่ายๆก้อคือทำทุกอย่างที่หาเงินเข้าองค์กร ประสบการณ์ที่โชกโชนระหว่างที่ทำงานที่แมนฯซิตี้ เป็นสิ่งที่แมนฯยูฯนั้นต้องการ เนื่องจากก่อนหน้านี้ แมนฯยูฯโดดเด่นในแง่ผลประกอบการมาตลอด โดยคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จชิ้นนั้นก้อคือ Richard Arnold นั้นเอง ผลงานเด่นๆในช่วงนั้นก้อคือดีลกับ Adidas มูลค่า 900 ล้านปอนด์ และดีลกับ Qualcomm มูลค่า 60 ล้านปอนด์
ปี 2016 เค้าเลื่อนขึ้นเป็น Chief Operating Officers (COO) ของแมนฯซิตี้ ปี 2020 ขยับเป็นตำแหน่งเดียวกัน แต่ในสเกลที่ใหญ่กว่าคือ Man City Group Operation บริหารงานใน 5 ประเทศ 11 สโมสรฟุตบอล ช่วงเวลานี้เอง ที่เค้าได้ทำงานด้านเทคนิค เช่น สัญญาของนักเตะ, การวิเคราะห์ข้อมูลผู้เล่น รวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬาและหน่วยสอดแนม(scout) อีกด้วย ข่าววงในยังเผยอีกว่าเค้าเป็นบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับ Begiristain มาตลอด และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการมาของ Haaland อีกด้วย Berrada ยังได้คำชมอย่างมากในเรื่องความสำเร็จการขายผู้เล่นให้สโมสรอื่น

Txiki Begiristain

หลักในการทำงาน : เค้ามีหลักใหญ่ 3 ข้อ ในการทำงานดังนี้ 1.Clear Vision 2.Leading by Example 3.Being Collaborative อีกทั้งเค้าเองยังเชื่อเสมอว่า แฟนบอลในระดับท้องถิ่นคือฐานรากสำคัญในการเติบโตของสโมสรฟุตบอล "ถ้าคุณอยากเป็นสโมสรระดับโลก คุณต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับคนท้องถิ่น ต้องหาแนวทางที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับพวกเค้า ไม่ใช่เพียงผ่านช่องทางทีวีหรือโซเซียลมีเดีย" Berrada กล่าวทิ้งท้าย



Credit : Dailymail
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel