ที่ว่ายาก คืองานระดับ ป.ตรี สมกับที่เรียนจบมา เพราะลำพังสอบเข้ามหาวิทยาลัย (ซูนึง) ก็โหดมหาหินพอแล้ว

ถ้าไม่เข้าบริษัทใหญ่ๆ มีงานมั่นคง ก็ต้องรับราชการ ถ้าไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ก็จะโดนกดดันหนักทั้งตนเองและสังคมครับ ตำแหน่งก็มีน้อย บางบริษัทยังมี "ต่างชาติผู้สามารถ" มาคว้าโควต้าไปอีก
ถ้าวงการบันเทิงก็ต้องเป็นนักแสดงมีผลงานต่อเนื่อง หรือเป็นดารา เป็นไอดอลเปิดตัว ถ้ายังเป็นแค่ฝึกหัดไปเรื่อยๆ หากไม่ผันตัวไปทำอย่างอื่นก็จะเจออายุกดดันให้ต้องรามือเอง

ส่วนงานที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำอย่างพาร์ทไทม์ หรือแรงงานตามโรงงานที่ดึงต่างชาติมาทำแทน นั่นเพราะค่าแรงที่ได้ถือว่าน้อยสำหรับคนเกาหลี น้อยคนมากที่จะมาบากหน้ามาทำได้

รับงานได้ แต่ไม่มีทางดังเหมือนเดิมครับ เหมือนสื่อแกล้งลดพื้นที่ข่าวโดยปริยาย

จะไม่มีมาอวยสุดลิ่มทิ่มประตูอย่างก่อนมีข่าวแล้ว

เอาจริงต่อให้ไม่ใช่เรื่องคดีความ แต่มีทัศนคติที่ไม่โดนใจชาวเกาหลี ก็โดนลดบทบาทลงได้เหมือนกัน

ป.ล. เห็นคนยกกรณี มิกกี้ (ยูชอน อดีต ดงบังชิงกิ และ เจวายเจ) มา รายนั้นในเกาหลีถือว่าหมดอนาคตแล้วครับเพราะก่อเรื่องเยอะเหลือเกิน โดยเฉพาะคดีเสพยาเสพติด เลยมาปักหลักในไทยแต่ก็ไม่วายก่อเรื่องอีก ถ้าไม่ใช่แฟนคลับเดนตายนี่แทบไม่รู้ข่าวมิกกี้แล้ว

แต่ข่าวฉาวล่าสุดที่ออกมาเชิง "ซุบซิบ" ในไทยนี่เหมือนแอบปิดข่าวอยู่เหมือนกัน ขนาดจากสื่อเกาหลีลงแป๊บเดียวยังลบ ในไทยนี่แป๊บเดียวหาย

แต่ฝั่งญี่ปุ่นมีอย่างนึงที่ผมไม่เข้าใจคือ บ.จะไม่ไล่คนออกเลยถ้าไม่สุดๆจริงๆ
พนักงานทำงานห่วยแตกแค่ไหนก็แค่โดนด่าและคนจะมองว่าบ.ใช้งานพนักงานไม่เป็นเอง(อ้าว บ.ผิดอีก)
หลับในที่ทำงานนอกจากไม่โดนด่าแล้วยังโดนมองว่าทุ่มเท เอากะมันดิ

ต้องใช้คำว่า แฟนคลับเดนตาย ต่างหาก เพราะก่อมาแต่ละเรื่องนี่สื่อยังเอือมจนลงข่าวมิกกี้ (ยูชอน) น้อยมาก

ไม่รู้เกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพลขนาดไหน ข่าวลือว่าเลิกกันแป๊บๆ หลุดมา ก็ลบออกจากหน้าสื่อแล้ว เช่นเดียวกับข่าวลือเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะไปโกงพรีออเดอร์ผู้ซื้อ

พึ่งเคยได้ยิน 55

สังคมที่ไม่ให้โอกาสคนผิดพลาดได้เลย น่ากลัวเหมือนกันนะ
(ซึ่งผิดจริงหรือป่าว ก็ยังไม่รู้)

สังคมทำงานเมืองไทยก็แบบนั้นครับ
ทำงานจะสิบปีรอบตัวแทบไม่เคยมีใครโดนไล่ออกนะ ต่อให้ห่วยแค่ไหนก็เถอะ

ผมนี่อย่างงงเลย นาทีที่ 2:50

มันน่ากลัวตรง ต่อให้ไม่ได้ผิดจริง หรือต่อให้ไม่ได้ผิดกฏหมาย ถ้าไม่ถูกใจชาวเน็ต คุณก็พังได้ครับ

ซอลลี่ โดนชาวเน็ตเกาหลีสร้างข่าวปลอม รุมด่า Bully แซะตลอดเวลา เพราะอะไร เพราะไม่เป็นเหมือนที่ชาวเน็ตหวังครับ แค่นั้นเลย

เรื่องข่าวปลอมนี่ก็น่ากลัว สร้างมาจากใครไม่รู้ แพร่มาแบบผิดๆ สำนักข่าวเอามาเล่น สุดท้ายถ้าไม่มีความจริงออกมาคนก็เชื่อแบบนั้น พอมีความจริงออกมา คนก็ทำเป็นไม่สนใจ มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยแหละ เคสตัวอย่างมีเยอะมาก

รู้เเต่ประเทศนี้เเมร่งไม่ให้โอกาสคนอื่นเลย ผิด=ประหาร

ซอลลี่ใส่ใจพวกชาวเน็ตมากไป มันมีทั้งคนรัก คนอิจฉาแหละ พอไปตอบโต้พวกอิจฉา สภาพจิตใจแย่ลงไปอีก

ช่วงท้ายๆ ของชีวิต เธอทำเพลงที่บ่งบอกตัวตนเธอเอง กับไปเป็นหนึ่งในรายการตอบโต้ hate speech
นัยว่าต้องการวางตัวว่าทนได้ ผ่านมาได้

อย่างหลังนี่คนธรรมดายังทนได้ยากเลย แล้วผลก็อย่างที่เห็น รายการจบไปพร้อมกับชีวิตของเจ้าตัวครับ

พูดง่ายครับเอาจริงๆ เคสซอลลี่คือ มีคนรักจริง แต่คนด่ามันกลบทุกอย่างไปแล้ว สื่อก็เล่นแต่เรื่องลบ ชาวเน็ตก็โจมตีไม่หยุด

คนที่รักซอลลี่ที่ท่านยกมา ถามตรงๆว่ารักจริงๆถึงครึ่งหรือเปล่า เพราะตัวตนของซอลลี่ที่แท้จริงกับตัวตนที่ถูกคนคาดหวังมันต่างกันคนละฟากเลย

แฟนคลับซอลลี่ก็หันมาด่าซอลลี่เพราะไม่ชอบตัวตนจริงๆ

คนมาเริ่มเข้าใจ ให้กำลังใจ ก็ตอนสายไปแล้วครับ

เป็นไอดอล เป็นคนดัง ยังไงมันก็ต้องสนใจชาวเน็ตเป็นปกติอยู่แล้ว ผมให้ 90% เลย ไม่ว่าจะดาราประเทศไหน ยังไงก็สนใจฟีดแบค

ไม่ถูกใจชาวเน็ตก็มีปัญหาได้ครับ
เอาแค่มีอะไรที่เกี่ยวกับเฟมินิสต์มา ชาวเน็ตเกาก็พร้อมถล่มละ

ที่ดูข่าว โดนเรื่องยาแต่ไม่ผิด
แต่ที่เครียดหนักเพราะโดนยกเลิกงาน ยกเลิกสัญญา แถมโดนปรับด้วยเนี่ยแหละ ที่เครียดมากกว่านะผมว่า