ผมงงตอนจบว่าลูกพระเอกตอนแก่รู้ได้ไงว่านางเอกยังไม่ตายและอยู่ที่ดาวซักดวง  

1. ซึ่งตอนแรกที่ดูก็ยังเข้าไม่ถึง แต่ฉากที่เป็นภาพจำของผมก็คือ บนดาว Miller ที่ 1 ชั่วโมง = 7 ปีบนโลก ลุ้นจัดตอนที่คลื่นยักษ์กำลังมา

2.แถมงงตอนท้ายเรื่องที่เสมือนฉากในห้องสมุด ที่ทำไมพระเอกถึงย้อนเวลาไปบอกใบ้ หรือเตือนตัวเองในอดีตได้[/color]

https://www.soccersuck.com/boards/topic/2381502  

1.เป็นเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพครับ
ยิ่งดาวมวลมากยิ่งบิด สเปส-ไทม์ มาก เอาให้เข้าใจง่ายๆ คือ
ยิ่งดาวมวลมาก ระยะทางแสงที่ต้องเดินทางผ่านดาวนั้นยิ่งมาก
จาก ระยะทางของแสง = ความเร็วแสง x เวลา(ในการรับรู้)
แต่พอดีความเร็วแสงคงที่
เพราะฉะนั้น ระยะทางแสงที่ต้องเดินทางมากขึ้น = ใช้เวลาในการรับรู้มากขึ้น
เวลา(ในการรับรู้)บนดาวที่มีมวลมาก เลยมากกว่า เวลาบนโลก


2.ท่านเคยตัดวีดีโอปะครับ เวลาเลือกไทม์ไลน์อะ เลื่อนไปเลื่อนมา
อันนั้นคือ 2 มิติ ครับ แกนภาพ กับ แกนเวลา
โดยเราอยู่มิติที่เหนือกว่าเราเลย สามารถควบคุมและมองเห็นมันได้
(เราเป็นสิ่งมีชีวิต 4 มิติ แกนx แกนy แกนz แกนเวลา)

ส่วนในห้องนั้น คือ 4 มิติ แกนx แกนy แกนz แกนเวลา
สิ่งมีชีวิตมิติที่ 5 (มิติที่เหนือว่า 4 มิติ)ส่งเราเข้าไป
ทำไมถึงย้อนไปได้ก็เพราะเราอยู่มิติที่เหนือกว่าแล้วเราเลยเลือกจุดใดในแกนเวลาได้
ส่วนอะไรที่สื่อสารหรือผ่านเวลาไปได้นั้น
คือ ความรัก และ แรงโน้มถ่วง (โคตรซึ้งแบบเด็กเนิร์ด)

ประมาณนี้ไม่รู้เข้าใจมั้ยอะ แต่มี YT อธิบายเยอะแยะเลยครับลองหาดูครับ  

สำหรับผมมันคือหนังรักระหว่างตัวละครพ่อ-ลูก, พี่-น้อง ฉากที่เปิดวิดีโอมาแล้วเมิฟมาทวงสัญญาผมน้ำตาไหลในโรงหนังเลยว่า

ช่วงหนังออกผมเบื่อความพยายามจะต้อง scientific accurate ของพวก Greek วิทยาศาสตร์มาก ต้องมีคนมาแย้งว่าตรงนั้นไม่จริง ตรงนี้ไม่ใช่

สำหรับผมมันคือหนัง Sci-Fi อ่ะ มันไม่เป๊ะอยู่แล้วล่ะ ต้องสร้างเพื่อความเอนจอยของคนดู ซึ่งผมดูแล้วไม่งงเลยเข้าใจได้ในรอบแรก




ผมอธิบายฉากในห้องสมุดที่ท่านสงสัย

คือภารกิจมันเริ่มจากการพบรูหนอนที่มีคนมาวางไว้ใกล้ดาวเสาร์ ซึ่งในหนังก็ไม่รู้ใคร เพียงแต่ใช้คำว่า "They" เอามาวางไว้แบบตั้งใจ ถ้าตีความในฉบับผมเองก็คือ คือมนุษย์ในอนาคตนั่นแหละ ทำเพื่อให้มนุษย์อยู่รอด

ส่วนฉากในห้องสมุดคือคูเปอร์ถูกดูดเข้าไปในหลุมดำแล้ว ซึ่งมันพ้น event horizon ไป (ตรงนี้มันยังไม่มีใครเข้าใจได้ว่าจะเป็นอย่างไร มีเพียงทฤษฏีคาดการณ์)

ในหนังเรื่องนี้ก็เอามาเล่นว่าจุดที่คูเปอร์เข้าไปห้องสมุดนั้นมันเป็นมิติที่ 4 ซึ่งก็คือเวลา ทำให้คูเปอร์สามารถย้อนไปดูช่วงต่างๆของเวลาได้

เพียงแต่สื่อสารกลับไปไม่ได้เต็มที่ ทำได้เพียงส่งสัญญาณบางอย่าง ตอนแรกเราเห็นฝุ่นที่ตกในบ้านที่เมิฟเจอแบบมีลักษณะแปลกๆ จริงๆมันก็คือสัญญาณที่คูเปอร์ส่งมาให้ตัวเอง

แล้วถ้าเราคิดตามตอนนั้นคูเปอร์รู้ตัวแล้วว่าตัวเองคือคนส่ง ก็เลยส่งเป็น location ของนาซ่าให้ตัวเองในอดีต จะได้ไปเริ่มภารกิจในตอนแรก

อันนี้ผมเดาว่าหนังพยายามใช้การอธิบายแบบ double slit experiment ให้คูเปอร์ส่งสัญญาณได้สองแบบ ตัวละครเลยสื่อสารแบบ Binary ได้เท่านั้น




ผมอธิบายงงมั้ยเนี่ย  

1.เป็นเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพครับ
ยิ่งดาวมวลมากยิ่งบิด สเปส-ไทม์ มาก เอาให้เข้าใจง่ายๆ คือ
ยิ่งดาวมวลมาก ระยะทางแสงที่ต้องเดินทางผ่านดาวนั้นยิ่งมาก
จาก ระยะทางของแสง = ความเร็วแสง x เวลา(ในการรับรู้)
แต่พอดีความเร็วแสงคงที่
เพราะฉะนั้น ระยะทางแสงที่ต้องเดินทางมากขึ้น = ใช้เวลาในการรับรู้มากขึ้น
เวลา(ในการรับรู้)บนดาวที่มีมวลมาก เลยมากกว่า เวลาบนโลก


2.ท่านเคยตัดวีดีโอปะครับ เวลาเลือกไทม์ไลน์อะ เลื่อนไปเลื่อนมา
อันนั้นคือ 2 มิติ ครับ แกนภาพ กับ แกนเวลา
โดยเราอยู่มิติที่เหนือกว่าเราเลย สามารถควบคุมและมองเห็นมันได้
(เราเป็นสิ่งมีชีวิต 4 มิติ แกนx แกนy แกนz แกนเวลา)

ส่วนในห้องนั้น คือ 4 มิติ แกนx แกนy แกนz แกนเวลา
สิ่งมีชีวิตมิติที่ 5 (มิติที่เหนือว่า 4 มิติ)ส่งเราเข้าไป
ทำไมถึงย้อนไปได้ก็เพราะเราอยู่มิติที่เหนือกว่าแล้วเราเลยเลือกจุดใดในแกนเวลาได้
ส่วนอะไรที่สื่อสารหรือผ่านเวลาไปได้นั้น
คือ ความรัก และ แรงโน้มถ่วง (โคตรซึ้งแบบเด็กเนิร์ด)

ประมาณนี้ไม่รู้เข้าใจมั้ยอะ แต่มี YT อธิบายเยอะแยะเลยครับลองหาดูครับ  

มาอธิบายตอนจบ แบบที่ผมเข้าใจไว้ละกันครับ
 

สิ่งมีชีวิตมิติที่ 5 (มิติที่เหนือว่า 4 มิติ)ส่งเราเข้าไป ฉากนี้แหละที่ผมยังไม่เข้าใจ คึอตัวอะไร คือใคร จะเป็น god เหรอ เอาจริงทุกคนไม่รู้ 55555 แต่หนัง nolan เกือบทุกเรื่องจบแล้ว แต่มันไม่จบผมต้องมาหา spoil หนังเพิ่มใน pantip 555555555555