นับถือเรื่องความมพยายามนะ เรื่องการวิ่ง สร้าง impact ได้ดี สังคมตื่นตัว และก็หลับอีกเหมือนเคยๆ เท่ด้วย ได้ยศอีก มีแต่ได้กับได้ ตามสไตร์ ทำบุญแบบไทยๆ มักง่ายและหล่อ ไม่เน้นแก้ปัญหา เน้นทำพอแล้วๆ

มันช่วยได้นะสำหรับ รพ ที่ขาดเครื่องมือแพทย์ อันนี้ต้องยอมรับเขาด้วย

แต่เรื่องกระบอกเสียง เขาเงียบมาก เงียบแบบรักตัวกลัวตาย จริงๆ ก็เข้าใจนะ อาจจะมี ผญ ในค่ายห้ามไว้(หรือไม่) เพราะช่วงนั้น ใครได้ออกมาพูดจะกลายเป็นศัตรูอีกฝั่ง แล้วพอซวยก็ไม่มีใครช่วยได้ งานหด เหมือนดาราออกมา call out หลายคนที่โดน

แต่เขาเลือกที่พูดได้นะ ไม่ใช่ด่า แต่เรียกร้องในสิ่งที่รัฐบาลมันห่วยได้หนิ

“แต่เขาเฉย”

เพราะเขาไม่ได้รับผลกระทบไง เหมือนคนรวยหรือคนมี connection หลายๆ คน

โอม cocktail ยังเท่กว่าหลายขุม ออกมาเรียกร้อง แต่ก็ยังมีคนสนับสนุนผลงานนะ

สรุป ไม่ได้เกลียดนะ แต่เฉยๆ ไม่อิน เหมือนกับที่เขาทำนั่นแหล่ะ

นักบุญทุนคนอื่น

รักมากเลยผิดหวังมาก​ ผมว่าเปิดโหวตตอนนี้​ พรี่ตูนกับพรี่โตโย่ ไม่ชอบใครมากกว่ากัน​ พรี่ตูนน่าจะชนะขาดอยู่

น่าสนใจแนวคิด top commentจริงๆ
มีคนบอกว่า เราไม่ควรช่วยเหลือใครเกิน3ครั้ง
ถ้าช่วยครั้งแรก เขาจะขอบคุณและซึ้งใจ
ถ้าช่วยครั้งที่2 เราจะรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องช่วยเหลือ
ถ้าเรายังช่วยครั้งที่3อีก เขาจะคิดว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องช่วย ถ้าไม่ทำคือผิด

แล้วคนส่วนมากยังคิดว่าการด่า คือการแก้ปัญหาที่ดีกว่าการลงมือทำ
ดูได้จากสถาบันครอบครัว เวลาพ่อแม่จะสั่งสอนลูก จะเริ่มต้นจากการด่ามากกว่าการพูดกันดีๆ
ไม่แปลกที่พี่ตูนจะโดนเกลียด สิ่งที่พี่ตูนเขาใน2เคสนี้เลย

ผมมองว่าประเทศเป็นยังไงมันก็จะสะท้อนกับคนในประเทศเป็นแบบนั้น
การศึกษา ทัศคติ วัฒนธรรมของไทยโดยรวมเลยแย่ไม่น่าแปลกใจ

ดุจดั่งสายฟ้า

เอาจริงๆตอนโควิด เค้าก็ทำตลาดใจกับพวกคุณโน็ต-อุดม นะครับ
ทำเรื่องช่วยโรงพยาบาล, โรงเรียน ทำบริจาค
เค้าถนัดช่วยด้านไหนเค้าก็ทำด้านนั้น ผมโอเคกับคนแบบนี้นะครับ

สลิ่มออกมาเยอะพอสมควร

สลิ่มหน้าโง่นี่แม่งเยอะจริงๆโดยเฉพาะไอ้ความคิดที่ว่าเกลียดเพราะอยู่คนละฝ่าย เกลียดเพราะคิดไม่เหมือนกัน ฟาย

ก็แค่คนปลอมคนนึง เลิกตามผลงาน

ทำไมมู้นี้เจอนักบอลเยอะจัง โดยเฉพาะมิดฟิลด์

เข้ามาจดชื่อสลิ่มเนียนแอ๊บ

เหมือนจะอยู่ข้างคนรุ่นใหม่ ให้กำลังใจคนรุ่นใหม่ ๆ

สุดท้ายก็เป็น elite ที่ทำเพื่อตัวเองผ่านการแสดงออกในสังคม

เขาเป็นสลิ่ม

ส่วนตัว ผมมองว่าไม่จริงเสมอไปนะครับ ดูอย่างได๋ก็ได้ คนนั้นก็ช่วยในช่วงโควิดเกินสามครั้ง อันนั้นช่วยทั้งเป็นกระบอกเสียงและลงมือเองจริงๆ โอม Cocktail ที่ช่วยมาอย่างต่อเนื่อง หรือ Tattoo Colour เองก็เช่นกัน คนพวกนี้ผมว่าเกินสามครั้งแน่ๆ

ส่วนใครจะ take it for granted มั้ย มันก็คงมี แต่มันปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเค้า vocal กว่าเราแน่ๆ และมี impact มากกว่าการส่งเสียงจากคนธรรมดาแบบพวกเราแน่ๆ ฉะนั้นในฐานะบุคคลสาธารณะ มันย่อมมีความคาดหวังมากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้วครับ

และหลายคนไม่ได้ด่าตูนนะครับ หลายคน"ตั้งคำถาม"กับจุดยืนของเค้ามากกว่า หรือการกระทำของเค้ามากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งการด่ามันมาหลังจากที่เค้าเลือกการแสดงออกของตัวเองอยู่แล้ว (ตามหลัก action = reaction และ cause-effect เค้า เค้าเลือกนิ่ง รีแอคชั่นมันก็ตามตามมาหลังจากนั้นแหล่ะครับ)

ผมเทียบกับได๋ กับโอมน่าจะใกล้เคียงสุดแล้วเนอะ เพราะนั่นทั้งด่า ทั้งลงมือทำ ซึ่งผมว่าตูนก็ทำได้ทั้งสองอย่างเช่นกัน แต่เค้าเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลยนิครับ

ไม่ได้ชอบตั้งแต่ก่อนจะออกลายสลิ่มแล้ว

ดูแอ็คดูปลอมทำทรงเป็นเจ้าพ่อปรัชญาชีวิตห่าอะไรก็ไม่รู้

ตอนแม่งวิ่งก็ไม่เคยโอนให้มันซักบาท