ผมรู้สึกว่าช่วงนี้พออายุแตะเลข3ผมรู้สึกว่า สมองผมเวลาที่อะไรที่ซับซ้อนที่ต้องคิดเยอะๆ ผมรู้สึกว่าใช้เวลาในการคิดนานมากๆกว่าจะคิดออก ไม่เหมือนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่บางคนใช้เวลาคิดแปปเดียวก็เข้าใจแล้วหรือคิดออกแล้ว

ผมเลยมานั่งคิดว่า บางที่ผมอาจจะเป็นคนที่ขาดการคิดแบบ Logic ไป ก็เลยอยากจะถามเพื่อนๆสมาชิกว่ามีวิธีไหนไหมที่ช่วยฝึกให้เราเป็นคนที่คิดเป็น Logic ได้ แล้วในวัยเลข3เนี้ย ยังทันอยู่ไหมที่จะฝึกแล้วนำไปทำงานได้

คิดแบบมี logic หรือ critical thinking ครับ

แบบแรก ให้คิดให้ช้าลง พยายามคิดเป็น 1 2 3 4 ครับ มองทุกอย่างให้เป็นเหตเป็นผล และอย่าเอาอารมณ์มาใช้ในการคิดครับ

แบบที่สอง ให้เสพย์สื่อ social media ให้น้อยลงครับ เพราะมีงานวิจัยออกมาแล้วว่าสื่อสมัยนี้มันสั้น เร็ว จึงทำให้เราคิดเร็วขึ้น (ซึ่งดี) แต่คิดไม่ลึกเท่าเดิมครับ

topic นี้น่าสนใจมากจนผมต้องเปิดคอมมาตอบ 555

ก่อนอื่น อยากแนะนำให้หาหนังสือเรื่อง Thinking, Fast & Slow มาอ่านครับ สรุปย่อๆก่อนคือ มนุษย์เรามีสองระบบในการคิด คือ system 1 - การใช้อารมณ์และสัญชาติญาณ และ system 2 หรือการคิดเชิงตรรกะศาสตร์ ซึ่งเอาจริงๆไม่มีอะไรผิดหรือถูก เพราะมนุษย์ใช้ทั้งสองอย่างอยู่เสมอๆ

ซึ่ง system 1 นั้นคือการ"หาคำตอบ"ให้กับคำถาม (คือมีคำถามในหัวก่อน และคำตอบอาจจะมีได้มากกว่า 1 หรือทางออกอาจจะไม่ตายตัว) ในแบบที่คุณเป็นอยู่และอาจจะถนัดมากด้วย ขณะที่ system 2 นั้นคือการหา"fact"มารวมๆกันก่อน แล้วค่อยตอบว่า เห้ย เพราะมันมี A B C คำตอบมันเลยควรจะเป็น X (เป็น funneling หรือความน่าจะเป็น)

ซึ่งศัพท์ทางเทคนิคมันคือ divergent/creative thinking vs. convergent/analytical thinking ครับ ซึ่งทุกคนมีทั้งสองอย่าง แค่ถนัดอะไรมากกว่าเท่านั้น และรู้จักนำมาใช้ตอนไหนมากกว่า ซึ่งสามารถฝึกได้ว่า จะให้ใช้อะไรเมื่อไหร่ยังไงครับ

ส่วนการฝึกนั้น ก่อนอื่นก็เหมือนที่คุณ Brunswick พูดไว้ครับ คือรู้จักตัวเองก่อน แบบที่ผมพยายามถามคุณอยู่ แล้วก็ให้พยายามเรียนรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นจาก S1 และอะไรเกิดขึ้นจาก S2... อย่างในหนังสือจะเรียกว่า Experiencing Self กับ Remembering Self ซึ่งผมจำละเอียดๆไม่ได้แล้ว แต่เค้าจะสอนว่าอะไรมันคือตัวตนของเราที่คิดจากประสบการณ์ หรืออะไรคิดจากความจำหรือแพทเทินในหัว ฯลฯ

หลายคนแนะนำไปแล้วว่าให้เล่นเกม ฯลฯ ซึ่งก็ช่วยได้ แต่ผมจะแนะนำให้คิดครับ ไม่ต้องเยอะมาก ตื่นนอนมา ให้พยายามนึกว่า เออ วันนี้เราต้องทำอะไรบ้าง (ซัก 3 อย่าง) อยากจะ achieve อะไรบ้าง และก่อนนอน ให้มาคิดว่าเออ ที่เราคิดไว้เมื่อเช้ามีอะไร แล้วเราทำได้มั้ย แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ มันจะปรับให้เราคิด วางแผนการใช้ชีวิตของเราก่อนเลย แล้วพอเราทำเป็นนิสัย เดี๋ยวสมองเราจะ pick up ไป apply กับอย่างอื่นต่อได้เองครับ

คิดแบบมี logic หรือ critical thinking ครับ

แบบแรก ให้คิดให้ช้าลง พยายามคิดเป็น 1 2 3 4 ครับ มองทุกอย่างให้เป็นเหตเป็นผล และอย่าเอาอารมณ์มาใช้ในการคิดครับ

แบบที่สอง ให้เสพย์สื่อ social media ให้น้อยลงครับ เพราะมีงานวิจัยออกมาแล้วว่าสื่อสมัยนี้มันสั้น เร็ว จึงทำให้เราคิดเร็วขึ้น (ซึ่งดี) แต่คิดไม่ลึกเท่าเดิมครับ

ตามที่ท่านว่ามา น่าจะขาดจินตนาการมากกว่า

Logic จะมีผลทำให้คิดถูกหรือผิดมากกว่าคิดช้าหรือเร็วนะ

ฝึก Logic ต้องหัด Programming ฝึกใช้สูตร excel ที่ล้ำๆ ก็ได้ กับฝึกทำโจทย์คณิตศาสตร์

ฝึกฝนผ่านงานอดิเรกดูไหมครับ ถ้าเล่นเกมก็ sudoku, หมากรุก, หมากฮอส, หมากล้อม

หรือพวกต่อจิ๊กซอว์ ต่อเลโก้แบบของผู้ใหญ่ก็ซับซ้อนอยู่ หรือไม่ก็ต่อกันดั้ม

และผมเคยได้ยินว่าการอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอก็ช่วยเรื่องนี้ด้วยครับ

ถ้าแบบนี้ผมคิดว่าเป็นแบบที่ logic เพราะผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเล่น social media เท่าไหร่
แล้วที่สำคัญแบบที่ท่านบอกเลยครับ ผมเป็นคนใจร้อน แบบชอบคิดอะไรแบบอยากให้มันเสร็จเร็วๆ แบบปุ๊ปปั๊ป แล้วน่าจะสมาธิสั้นด้วย เวลาคิดเป็นขั้น 1234 จะรู้สึกอีดอัด จะชอบคิดแบบรัดสเต๊ปเลยไรแบบนี้ครับ แบบนี้มีวิธีแก้หรือวิธีฝึกแนะนำไหมครับ

ถ้านอกจาก Programming หรือ excel มีอะไรอย่างที่น่าฝึกอีกไหมครับ ผมไม่ถนัด DEV เท่าไหร่

ทำความเข้าใจตัวเองว่าการตัดสินใจแต่ละอย่างของเราทำโดยใช้หลักการหรือมีอารมณ์,อคติ,ความชอบมาปนด้วย

แค่นี้ก็คิดและตัดสินใจอะไรได้ดีขึ้นมากแล้ว

อ่านหนังสือน่าสนเลยครับ ผมจำได้เลยแต่ก่อนตอนอ่านหนังสือเยอะๆ ผมรู้สึกว่าเป็นคนพูดรู้เรื่องกว่านี้ ตอนนี้ไม่ได้อ่านหนังสือเลย รู้สึกว่าพูดกระตุกตะกะมากเลย คำในหัวน้อยมาก ขอบคุณมากๆครับ

เล่นเกมพวก puzzle โจทย์ปัญหาให้คิดสนุกๆ ประมาณที่ผมเคยตั้งมู้ https://www.soccersuck.com/boards/topic/2358367

แล้วก็เถียงกับคนใน SS ครับ จับประเด็นให้ได้ และสวนให้ตรงประเด็น น่าจะช่วยได้นะ

โลจิกมันเป็น soft skill นะครับ มันไม่ได้ว่าอยู่ๆจะฝึกกันได้ หลักการแรกเลยต้องฝึกสังเกตและตั้งคำถาม แล้วหาคำตอบ มันเริ่มจาก mindset ด้วยครับ

เออ จริงๆผมก็คิดช้าทำช้ามากๆเลย ส่วนมากผมคิดไปตอนจบก่อนตลอดนะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม

พอคิดได้แบบนั้นแล้ว แทบไม่อยากทำอะไรเลยเพราะรู้ตอนจนอยู่แล้ว นอกจากจะเป็นสิ่งใหม่

ที่ไม่มีความรู้เลย ก็จะหาข้อมูลจนพอเข้าใจได้ว่าตอนจบจะเป็นไง แล้วก็หาเรื่องใหม่มาคิดอีกสนุกดี

ฝึกตั้งคำถามกับตัวเองเยอะได้พวก logic เยอะคือสงสัยมาเยอะจนสุดท้ายกลายเป็นคิดเป็หลักเป็นผล

แบบคณิตศาสตร์ เคสวิศวะก็พวกที่จบสายนี้ต้องมีทุกคนและ ทำไมมันต้องใช้สูตรนั้นสูตรนี้ ทำไมไม่ใช้วิธีนั้นวิธีนี้

เสริมอีกนิด เอา 5 Why ,8Dมาใข้ก็ได้ จะช่วยได้

topic นี้น่าสนใจมากจนผมต้องเปิดคอมมาตอบ 555

ก่อนอื่น อยากแนะนำให้หาหนังสือเรื่อง Thinking, Fast & Slow มาอ่านครับ สรุปย่อๆก่อนคือ มนุษย์เรามีสองระบบในการคิด คือ system 1 - การใช้อารมณ์และสัญชาติญาณ และ system 2 หรือการคิดเชิงตรรกะศาสตร์ ซึ่งเอาจริงๆไม่มีอะไรผิดหรือถูก เพราะมนุษย์ใช้ทั้งสองอย่างอยู่เสมอๆ

ซึ่ง system 1 นั้นคือการ"หาคำตอบ"ให้กับคำถาม (คือมีคำถามในหัวก่อน และคำตอบอาจจะมีได้มากกว่า 1 หรือทางออกอาจจะไม่ตายตัว) ในแบบที่คุณเป็นอยู่และอาจจะถนัดมากด้วย ขณะที่ system 2 นั้นคือการหา"fact"มารวมๆกันก่อน แล้วค่อยตอบว่า เห้ย เพราะมันมี A B C คำตอบมันเลยควรจะเป็น X (เป็น funneling หรือความน่าจะเป็น)

ซึ่งศัพท์ทางเทคนิคมันคือ divergent/creative thinking vs. convergent/analytical thinking ครับ ซึ่งทุกคนมีทั้งสองอย่าง แค่ถนัดอะไรมากกว่าเท่านั้น และรู้จักนำมาใช้ตอนไหนมากกว่า ซึ่งสามารถฝึกได้ว่า จะให้ใช้อะไรเมื่อไหร่ยังไงครับ

ส่วนการฝึกนั้น ก่อนอื่นก็เหมือนที่คุณ Brunswick พูดไว้ครับ คือรู้จักตัวเองก่อน แบบที่ผมพยายามถามคุณอยู่ แล้วก็ให้พยายามเรียนรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นจาก S1 และอะไรเกิดขึ้นจาก S2... อย่างในหนังสือจะเรียกว่า Experiencing Self กับ Remembering Self ซึ่งผมจำละเอียดๆไม่ได้แล้ว แต่เค้าจะสอนว่าอะไรมันคือตัวตนของเราที่คิดจากประสบการณ์ หรืออะไรคิดจากความจำหรือแพทเทินในหัว ฯลฯ

หลายคนแนะนำไปแล้วว่าให้เล่นเกม ฯลฯ ซึ่งก็ช่วยได้ แต่ผมจะแนะนำให้คิดครับ ไม่ต้องเยอะมาก ตื่นนอนมา ให้พยายามนึกว่า เออ วันนี้เราต้องทำอะไรบ้าง (ซัก 3 อย่าง) อยากจะ achieve อะไรบ้าง และก่อนนอน ให้มาคิดว่าเออ ที่เราคิดไว้เมื่อเช้ามีอะไร แล้วเราทำได้มั้ย แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ มันจะปรับให้เราคิด วางแผนการใช้ชีวิตของเราก่อนเลย แล้วพอเราทำเป็นนิสัย เดี๋ยวสมองเราจะ pick up ไป apply กับอย่างอื่นต่อได้เองครับ

อันนี้ถามก่อนว่า เคยมีโลจิคมาก่อนแต่ตอนนี้หายไป หรือไม่เคยมีมาตั้งแต่แรกฮะ

ถ้าเคยมีแล้วหายไปหรือลดลง แสดงว่าเริ่มใช้อารมณ์เข้าไปใส่เวลาคิดหรือตัดสินอะไรมากขึ้น อาจจะด้วยสภาวะแวดล้อม สังคมที่อยู่ บรรยากาศในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า คนใกล้ตัวอะไรงี้เลยทำให้หงุดหงิดง่าย แล้วพอเวลาหงุดหงิดทีการตัดสินใจมันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็อาจจะต้องหาทางเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษหรือหาทางผ่อนคลายตัวเองหน่อยอะครับ พอไม่มีอะไรมากระตุ้นให้หงุดหงิดก็น่าจะกลับไปเป็นแบบเดิมได้

แต่ถ้าไม่เคยมีมาก่อน อันนี้ลองหาเรื่อง mind map ดูครับ มันช่วยวิธีคิดแบบ 1234 ได้

ปัก