อันนีีคือ4ปีเงืนมันก็น่าจะเพิ่มขึ้นไหมคับ

ถ้าต่างจังหวัดอย่าได้หวังเลยครับขึ้นเป็นเหมือนบริษัทใหญ่ในกรุงเทพอะ
ขึ้นมากสุดก็ปีละ 300-1,000 เท่านั้นแหละครับ

ผมผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาเมื่อ 2 ปีก่อนครับ เมื่อตอนนั้นผมกับแฟนคบกันมาประมาณ 12 ปี พ่อแม่ฝั่งผมกับฝั่งเค้าก็รู้ว่าผมกับแฟนคบกันมานาน
ทีนี้ฝั่งพ่อแม่เค้าก็ถามประมาณว่าแต่งงานกันมั้ยเพราะว่าคบกันมานานแล้ว

ที่จริงแล้วผมกับแฟนก็เข้ามาทำงานกรุงเทพแล้วก็ซื้อคอนโดอยู่ด้วยกัน มันก็น่าเกรงใจพ่อแม่ฝั่งแฟนอยู่เหมือนกัน จากนั้นผมก็ลองให้แฟนไปถามพ่อแม่มาว่าอยากได้สินสอดเท่าไหร่ หลังจากได้ยินค่าสินสอดมา ทำเอาช็อคเลย
คือเค้าเรียก 1 ล้านกับทองอีก 10 บาท ซึ่งผมก็บอกกับแฟนตรงๆไปเลยว่าไม่มีหรอก เพราะว่าพึ่งย้ายงานจากวิศวกร บ.เอกชน มารับราชการ เงินเดือนลดลงไป 1 ใน 3 แบบนี้ ชาติไหนจะได้แต่ง

จนสุดท้าย ผมก็ยื้อมาได้ 2 ปี แฟนบอกว่าสินสอดลดลงเหลือ 5 แสน
ทอง 5 บาท แล้วพ่อแม่ฝั่งผมกับเค้าช่วยกันออกค่าจัดงาน

ปล.1 มันไม่ได้มีแค่ค่าสินสอดนะครับ เพราะว่าไหนจะค่า pre wedding
ค่าของชำร่วย ค่าของรับไหว้ผู้ใหญ่ ค่าการ์ดเชิญ ค่าเช่าชุดงานแต่งงานหรือของเพื่อนๆบ่าวสาว ค่าช่างภาพ ค่าช่างถ่ายวิดีโอ ค่าPhotoBooth
ค่าช่างแต่งหน้า ซึ่งเดี๋ยวนี้ราคาแพงมากๆ

ปล.2 เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะครับ เรื่องแบบนี้ต้องคุยกับแฟนก่อนครับ แล้วก็ให้แฟนไปคุยกับพ่อแม่เค้าต่ออีกที ถ้าสองคนเข้าใจตรงกัน ยังไงก็ไปกันรอดครับ

พึ่งผ่านมาเหมือนกันครับ ปีกว่าๆที่เริ่มวางแผน จนถึงวันแต่งงานที่กำลังจะถึง


สำคัญที่สุดคือ ลองปรึกษาพ่อแม่เราดูครับ ตอนแรกผมก็ไม่กล้าบอกพ่อแม่ตรงๆ เครียดแบบเครียดชิบหาย กินข้าวไม่ลง ก่อนนอนก็ร้องให้ สงสารพ่อแม่

แต่พอถึงเวลาจริงๆ พ่อแม่ก็สังเกตได้ แล้ว ท่านก็ช่วยเราได้ครับ หนักหนาสาหัสแค่ไหน ถึงเวลาจริงๆมันก็ทำได้ครับ เชื่อผมนะ สู้ๆครับ

ผมเองก็เครียดอยู่พักใหญ่ๆ เงินเดือนตัวเอง 50k

เงินเดือนออกปุ๊บผมหักเข้า3 บัญชี + ใช้หนี้แค่ค่าน้ำมันรถ ทีเดียวเหลือ 4พันกว่าบาท ยังไม่สิ้นเดือนเลย เป็นแบบนี้มาจะสองปีแล้วครับ ถ้ายังสู้มันมีหนทางเองครับ เอาใจช่วยนะ

ห้ามเป็นหนี้เด็ดขาดครับ เราเป็นผู้ชาย เวลาอยู่ข้างเราเสมอครับ

คุยไปตรงๆละครับ ว่าเราไม่มี หรือ มีไม่พอ ไหวแค่ไหนก็บอกไปครับ

มันอาจจะดูแย่นะครับ แต่มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด และ มันจบด้วย

ถ้า พ่อ แม่ ผู้หญิง ดีจริง เขาจะคืนเราครับ

ของผม 2 แสน 5 บาท
คืน 100,000 นึง
อีก 100,000 เอาไว้จัดงานครับ

สุดท้ายก็คืนจนหมด เงินก็เป็นผมกับแฟนที่เก็บช่วยกัน มีการไปกู้มา เผื่อเหลือเผื่อขาด จบงานก็คืนครับ

ถ้าเงินไม่มีสักบาทจะแต่งกันไหม

โหอันนี้ครอบครัวฝ่ายหญิงเหี้ยมมากครับ

เห็นใจครับ ผมก็ผ่านช่วงนั้นมาแล้วเหมือนกัน 555

ผมเก็บเงิน3ปีครับ ทำรายรับรายจ่าย ประหยัดอดออม หารายได้พิเศษเพิ่ม กว่าจะได้เกือบครบ ขาดอีกนิดหน่อย เลยปรึกษาแฟนว่าเอาโฉนดที่ดินไปวางเพิ่มในงานแต่งเหมือนเป็นadd-onได้ไหม เพราะมันหาไม่ทันจริงๆ ก็โอเคหยวนๆกันไปได้ หลังจากงานแต่ง พ่อตาแม่ยายก็คืนให้ทั้งหมดเอาไปสร้างครอบครัวครับ

ท่านก็อย่าเครียด ลองปรึกษาแฟนหาทางออกดู การแต่งงานที่ดีคือเราควรจะมีคู่คิดเพิ่มนะครับ ไม่น่าจะมาเครียดคนเดียว ไม่งั้นจะแต่งไปทำไม

เช่าไปวางโชแค่นั้น แล้วก็แต่งๆไป ถ้าเค้าไม่โอก็คบต่อแต่ไม่แต่ง

เจอแบบนี้ผมไม่เคารพเลยนะ

แยกมาอยู่กับแฟนก็พอ ลาขาดเลย

เป็นกำลังใจให้นะครับท่านพี่ ขอให้ได้แต่งงานกันจบแบบสวยๆนะครับ

สุดๆครับ แฟนที่คบกันไว้ใจกัน แต่มาบอกเลยอาทิตย์นึ่งมั้ง บล็อคเฟส บล็อคเบอร์ ไลน์ จนผมต้องไปหาอยู่บ้านตอนตี 2 จนไปเจอมันนอนกับแฟนใหม่ ก็ได้มีเรื่องกันแล้วมันไปแจ้งความ สุดๆเลยๆ

15 ปีที่แล้วแม่ยายเรียก 8 แสน ทอง 28 บาท ผมเงินเดือน 14000 เงินเก็บไม่มีซักบาท แต่อยากได้ลูกสาวเขาจะให้ทำไง โชคยังดีขอแค่มาวางแล้วจะคืนให้ อันนั้นไม่มีปัญหา หยิบยืมครอบครัวมาก่อนได้ แต่เงินค่าจัดงานยังไงก็ต้องหาเองอยู่ดี ผมลาออกจากงานครับ ไปขายแรงงานเมืองนอกปีกว่าๆ ทำงาน 2 จ๊อบเช้ามืดยันดึกได้มา 7 แสน ละลายหมดไปกับค่าจัดงาน คิดซะว่าเป็นเกียรติให้กับครอบครัวเขา

แต่งเสร็จผมต้องย้ายมาอยู่ ตจว ตามแฟนเพราะเขาทำงานมั่นคงที่นั่น เราก็เริ่มต้นใหม่จาก 0 เลย ทำฟรีแลนซ์ล้มลุกคลุกคลานกันไป แต่ในวิกฤติก็มีโอกาส เพราะถ้าไม่ได้ออกจากคอมฟอร์ตโซน ป่านนี้ผมคงเงินเดิือนแค่ 3-4 หมื่นกับบริษัทเดิม ทุกวันนี้ลูก 2 เมีย 1 งานฟรีแลนซ์แน่นปั้ก เงินเก็บ 8 หลักแล้ว

อยากเป็นกำลังใจให้ครับ เอาความรักเป็นแรงผลักดัน Love will find the way ครับผม

มันซับซ้อนกว่านั้นครับ พอแต่งได้ 3 ปีตอนแฟนผมท้องบังคับให้ซื้อบ้าน ทั้ง ๆ ที่อยู่คอนโดที่ซื้อกันแล้วและผ่อนหมดแล้ว ซึ่งผมกะว่าจะซื้อบ้านตอนลูกเข้าเรียน โทรมาด่าทุกวันแฟนผมร้องไห้อยู่ 3 อาทิตย์จนผมไปซื้อ แล้วมีอุบัติเหตุให้แม่เค้ามาอยู่ด้วยทีนี้แหละความบันเทิงเกิดเลยครับ เอาค่าเช่าคอนโดไปทั้งๆที่ปกติเอามาโปะบ้าน ซึ่งผมผมแบ่งให้เค้า 7000 อยู่แล้วอีก 7500 โปะบ้าน แถมอิจจฉาลูกผมที่แย่งความรักจากลูกตัวเองไป ปกติเจอแต่ตายายรักหลานกว่าลูก นี่มาฟ้องว่าหลานอายุ 1.6 ขวบแกล้ง แล้วแฟนผมไม่ปกป้องเค้า ผมนี่งงเลย ลูกผม 1 ขวบ 6 เดือนกระโดดเล่นบนโซฟาห้องนั่งเล่น มันคือการแกล้งเค้าตรงไหน แล้วชอบขู่จะกลับไปอยู่บ้านที่ ตจว เวลาขัดใจอะไร สุดท้ายแฟนผมเลือกลูกเลยต้องกลับไปอยู่บ้านตามที่ขู่ แถมเอาไปบอกญาติๆ กับคนแถวบ้านว่าลูกให้กลับมาอยู่ทั้ง ๆ ที่ตัวเองบอกจะกลับเอง

ทุกวันนี้ชีวิตดีมากอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก