คือว่าสองอาชีพนี้จะโดน AI กลืนไหมครับในอนาคต

แล้วถ้าจะย้ายสายมา ระหว่าง สองอาชีพนี้ data analyst กับ software tester อันไหนน่าย้ายมามากกว่ากันครับ แล้วในอนาคตอันไหนดีกว่ากันครับ แล้วอันไหนต่อยอดได้ยาวกว่ากันครับ

ผมตอบให้ฝั่ง data analyst

ถ้าอีกซัก 10 ปี คห. ผมน่าจะออกแนว data analyst ต้องใช้ tools จำพวก ai เป็น ไม่ถึงขั้นโดน ai แย่งงาน แต่จะมาใน requirement ว่าต้องใช้ ai จัดการงานได้นะ

data analyst ที่ใช้ tools จำพวก ai ไม่เป็นจะโดนกลืนก่อนเลย

ย้ายสายไป tester ดีกว่าครับ data มันอาชีพขายฝัน งานน้อยในไทย หางานยากมาก

software tester ก็ต้อง test AI อีกทีอยู่ดี

Tester ไม่โดน AI กลืน แต่โดน software engineer / DevOps กลืน พวก engineer เก่งๆเขียน automate ใน pipeline ได้หมดไม่ต้องการ QA อีกแล้ว อาชีพ QA จะเปลี่ยนเป็น Software Engineer in Test แทน

ผมว่าหาง่ายมากๆๆๆ นะครับ แต่คนเก่งจริงๆ ที่พร้อมจะทำงานได้น่ะ มีน้อยมากกว่า บริษัทผมนี่รับมาแต่ละคน คนเก่งก็อยู่ไม่ถึงปีก็ไป คนไม่เก่งไม่ผ่านโปรก็มีพอกัน

ทุกบริษัทที่ทำ B2C ยังไงก็ต้องมี DA/DE กระทั่ง Platform Provider ก็มี กระทั่ง supply chain หรือ B2B ก็ต้องการเพียบเลยครับ ส่วนตัวผมว่างานหาง่ายกว่า Software Tester อีกครับ เพราะอย่างบริษัทผมเป็น FMCG นี่ไม่ต้องมี software tester แต่ทีม Data นี่มีเกือบ 10 คนนะครับ และเทียบกับ FMCG คู่แข่ง ที่นั่นทีมใหญ่มากเกือบ 20 คนครับ

Data analyst จริงๆผมมองเป็นสกิลมากกว่าอาชีพอ่า ในอนาคตน่าจะมีอยู่ดีแต่เป็นผู้ใช้ AI มอบโจทย์ให้ AI

ถ้าจะเอาเก่งแบบผ่านโปรนี้ ต้องได้สกิลยังไงบ้างหรอครับ พอจะแนะนำได้ไหมครับ จะได้ไปศึกษาเพิ่มเติมต่อครับ

มันเปิดรับน้อยมากเลยใช่ไหมครับ หรือว่าเพราะเหตุผลอะไรบ้างครับ ผมจะได้ลองชั่งใจดู

เหมือนที่บนเค้าบอกครับ ส่วนใหญ่ในไทยไม่รับจูเนียร์ด้วย แล้ว บ ที่ใช้พวกนี้มันมีน้อย หางานยาก นอกจากเก่งมากๆ แต่พอเก่งแล้วคนจ้างเป็นคนไทยก็โดนกดค่าแรง เลยอยู่ไม่นานเหมือนท่านบนบอกครับมาแปปก็ไป

ถ้าจากคำถามผมเชียร์ให้ไปสาย Tester เพราะจะได้คิดพวกเคสคิดอะไรด้วยแต่ปัญหาระยะยาวคือมันจะติดที่การเป็น QA/Tester ตลอด ต้องพยายามขยับสโคปงานเช่นไปเอา Requirement เองบ้าง เพื่อเอาตัวเองออกจากแค่การเทสระบบ

สาย Data ในไทยผมคิดว่ามันค่อนข้างกว้างมากๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด จากคหบนๆ ผมเห็นด้วยว่าเก่งจริงๆ มีน้อยมากๆ แบบมากๆๆๆๆๆ

บางที่ผมเห็นไม่ต่างอะไรจาก SQL-er คือแค่ Query หาข้อมูลจาก Table แล้วมา Pivot + Dashboard แล้วก็เคลมตัวเองว่าเป็น Data Analyst, Data Engineer แล้ว

โดยส่วนตัวผมยังไม่เคยเจอคนที่ทำสาย Data แล้วทำงานแนวคิดหรือปั้นสูตร Model Data เอง มีการริเริ่มสูตรแปลกๆ ในการ Funnel ข้อมูล

ส่วนใหญ่ที่เจอคือ แค่เอาโมเดลอื่นมาเขียนต่อ Optimize Runtime หรือเอาโมเดลที่เคยมีอยู่แล้วในบริษัทมาใช้งานต่อ แค่นั้นเลยครับ

แต่คนเก่งจริงๆ ก็คงมีแหละ แค่ยังไม่เคยเจอ

อันนี้ไม่ได้กดค่าแรงครับ ผมจ้างพวกประสบการณ์ 3-5 ปีระดับ 80k นะครับ (อายุซัก 26-28) ถ้าคุณยังมองว่ากดค่าแรง ผมว่าการให้ valuation ของงานและตำแหน่งก็น่าจะผิดแล้วล่ะครับ เพราะ junior แบบไม่มีประสบการณ์มาเลย ผมยังเริ่มจ่ายที่ 35-40k แล้วนะ

ส่วนที่ถามว่าสกิลอะไรเป็นสิ่งจำเป็น ผมว่า logic เป็นสกิลแรก ส่วนสกิลที่สองที่ผมเห็นว่าขาดค่อนข้างเยอะคือขาดความเข้าใจในด้านธุรกิจครับ คือน้องๆไม่สามารถแมปความรู้ในหัวกับ use case จริงๆได้ คือเหมือนไม่ตีโจทย์ไม่แตกว่าจริงๆแล้ว business users อยากได้อะไร หรือต่อให้ตีโจทย์ได้ ก็ไม่สามารถ apply ความรู้ที่มีเพื่อเปลี่ยน data -> insights/information ที่ต้องนำไปใช้ได้น่ะครับ

AI มันก็กลืนทุกอาชีพแหละครับ ถ้าคิดว่าจะกลืน

อย่าคิดว่าจะหาอาชีพที่จะไม่โดนกลืน แต่ใช้ AI เป็น tool ในการพัฒนาความาสามารถดีกว่านะครับ

ผมอยู่สาย DATA นะ ชอบมากที่ AI มันเก่ง เพราะมันช่วยให้ทำงานง่ายๆได้ไวขึ้น POC ไวขึ้น

AI เอามาเทส คำถามคือ มันแม่นแค่ไหนกับการเทสละครับ

ึืคือเอามันมา Genarate Test case ผมว่ามันก็ยังไม่ Coverage ขนาดนั้นนะครับ

เอามาเขียน Function testing ได้อยู่ แต่เท่าที่ลอง ก็ยังไม่ Coverage ด้วย

มองว่า เอามาช่วยทำงานในบางอย่างดีกว่าไหมครับ

บอกเลย ทุกวันนี้ยังใช้ excel อยากถามมั้ง
ใช้excel จะถูก aiแย่งงานมั้ย
แย่งเลยกูปวดตา ฉห