ผมเป็นคนนึงที่ชื่นชอบหนังเรื่อง Inception เป็นอันมาก เอาเป็นว่าดูมาไม่ต่ำกว่า 10 รอบ ซึ่งอันที่จริงเรื่องราวฝันซ้อนฝันนั้นเกิดก่อนที่หนังจะปล่อยออกมาเสียอีก ซึ่งพอได้ดูหนังแล้วรู้สึกว่าตรงกับประสบการณ์ตรงที่ผมเจอมา แต่ไม่มีโอกาสได้คุยกับใครเลย ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ฝันของผมไม่ได้ซับซ้อนแบบในหนัง ซึ่งตอนนั้นเป็นข่วงที่ผมอกหักเลิกกับแฟนพอดี ซึ่งเรื่องราวในฝันผม ก็เป็นเรื่องความรักของผมกับแฟนในตอนนั้น ซึงเป็นฝันที่ค่อนข้างสั้น เข้าเรื่องเลยดีกว่า

-เรื่องราวในฝันในตอนเริ่มต้น(ฝันชั้นที่ 2 ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ตัว) ผมจำได้ว่า ผมกับแฟนอยู่ที่ไหนสักแห่ง ได้
เกิดทะเลาะกัน จนเราทั้งสองคนบอกเลิกกัน จำได้ในฝันตอนนั้นผมร้องให้น้ำตาไหล (น้ำตา ในฝันผมเป็นจุดเชื่อม
โยง ระหว่าง เรื่องจริง ฝันชั้นที่ 1 ฝันชั้นที่ 2)แล้วผมตกใจตื่นขึ้นมาอยู่ในฝันชั้นที่ 1
-ในฝันชั้นที่ 1 ผมจำได้ว่าผมตื่นขึ้นมาในห้องพักที่ผมเช่าอยู่ตอนนั้น ในฝันนั้นผมนอนคิดอยู่สักพักว่า ผมกับแฟนได้เลิกกันจริงเหมือนในฝันชั้นที่ 2 หรือเปล่า พอคิดได้ว่าผมกับแฟนไม่ได้เลิกกันจริง ผมก็ดีใจมากจนน้ำตาไห้อีกทีนึง แล้วก็ตื่นมาในโลกความเป็นจริง
-ในโลกความเป็นจริงผมก็ตื่นมาในจุดเดียวกับฝันชั้นที่ 1 พอตื่นขึ้นมาผมก็นอนคิดแบบสับสนว่าตกลง ผมได้เลิกกับแฟนแล้วจริงหรือเปล่า พอคิดได้ว่าเลิกกันจริงๆแล้ว


ปล.ขออภัยถ้าบางคนไม่เข้าใจ ผมเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง แค่อยากแชร์ประสบการณ์คับ

ฝันว่า ฝัน ว่าฝัน ว่าฝัน

ผมเป็นบ่อยครับ

และมันก็แค่ฝัน

เคยฝันซ้อนฝัน
-ฝันว่าผีอำผีหลอก จนสะดุ้งตื่น กำลังลุกจากเตียงเท้าถึงพื้นปุ้ป
-สะดุ้งตื่นอีกรอบ นอนมองเพดานตกใจเล็กน้อยว่าฝันซ้อนฝัน แล้ว ลุกไปกำลังจะเปิดประตูห้อง
-สะดุ้งตื่นอีก เหงื่อแตกเลย อย่างแรกที่ทำหยิกตัวเองก่อนเลย โอเคเจ็บ เลยลุกไปดูทีวีไม่นอนแม่งละ

เท่าที่จำได้ผมไม่เคยฝันซ้อนฝันเลย มีแต่ตื่นแล้วกลับไปฝันต่อเรื่องเดิม

เคยฟังมาว่าถ้าอยากกลับไปฝันเรื่องเดิม ให้พลิกหมอนแล้วนอนต่อ เคยได้อยู่สองสามครั้งมั้ง

เคยฝันแบบ 3 ชั้นแบบในหนังมั๊ยคับ 555

ผมเคยครับ สมัยเด็กมากๆ ฝันว่าปวดฉี่ กำลังจะฉี่ในพงหญ้า แต่นึกขึ้นได้ ว่า กูอยู่ในฝันนี่หว่ากูไม่ได้ไปเล่นพงหญ้า อย่าหลอกกู กูสะดุ้งตืนมาเดินไปห้องน้ำถึงชักโครก สบายกูละหลอกกูไม่ได้หรอก ยืนฉี่แม่งเลย อีกซักแป๊บทำไมเอวกูอุ่นๆ วะ เสร็จกันกูฉี่รดที่นอน 555+

อันนี้ฮาคับ 555

เป็นเรื่องจริงครับ ผมยังจำได้จนถึงตอนโต มันเหมือนจริงมากๆ 555+

ที่ผมพิมพ์มันน่าจะ 4 ชั้นแล้วท่าน หรือผมนับผิด

--เคยฝันซ้อนฝัน แล้วสะดุ้งตื่นมาอีกทีหนึ่ง
อยู่ดีๆ วิ่งหนีตายโดนปีศาจตาม สุดท้ายโดนกินแล้วตาย ในฝันคือตัวได้ตายแล้วหายไปจนดำมืด แล้วมีเสียงในหัวว่าถ้าตูตายแล้วฝันจะดำเนินเรื่องยังไงต่อว่ะ จากนั้นสะดุ้งตื่นเฉย

--ส่วนเรื่องผีอำ เป็นปกติ จากการที่เคยโดนมาประมาณ 10-15 ครั้ง ส่วนมากจะเป็นตอนเหนื่อยหรือนอนในเวลาที่ไม่ปกติ หรือนอนมากเกิน ก่อนจะถูกผีอำ มันจะสีดำและมีช่วงวูบลง ใจจะหวิวๆ ถ้าต้านไม่อยู่แล้ววูบตามจะกลายเป็นผีอำ

ครั้งแรกๆ กลัวตื่นมาแล้วนอนไม่หลับอีกเลย เหมือนเห็นภาพดูเหมือนจริงแต่ขยับตัวไม่ได้ ควบคุมตัวไม่ได้ จะมีผีหรือปีศาจขยับได้เข้ามาไม่ก็ได้ เหงื่อแตก แต่ผีอำประมาณครั้งที่ 3-4 โดนผีอำเป็นวิญญาณสีดำๆ สภาพรอบห้องเหมือนของจริงทุกอย่าง แต่จู่ๆ เงาสีดำกลายหน้ามาเป็นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เฉย จากนั้นผมจึงหายกลัวอีกเลย

จากการโดนมาหลายครั้งจึง สรุปปรากฏการณ์ผีอำได้ว่า 1) ร่างกายอ่อนแออ่อนล้า ช่วงเวลาหลับไม่ดี หรือนอนมากไป 2) ผีอำเป็นอาการที่ขึ้นกับจิตจะจินตนาการความน่ากลัวได้ เช่น เคยมีการเปลี่ยนจากหน้าผีเป็นหน้าอภิสิทธิ์ เป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ 3) มีครั้งหนึ่งแม้นรอบๆ ตัวจะเป็นเหมือนความจริง แต่ไม่ใช่ ผมลองควบคุมสังเกตมองรอบ พบว่า ไม่ตรงความเป็นจริง 100% มีบางอย่างแปลกปลอมและการจัดวางผิดตำแหน่ง น่าจะมาจากการมโนของสมองที่คลาดเคลื่อนกับภาพสุดท้ายที่เราจำก่อนเข้านอน

การแก้ผีอำ ทุกวันนี้ ไม่เคยกลัวผีอำอีกเลย แต่ไม่อยากเป็นผีอำเพราะ ไม่อยากเซ็งตรงขยับตัวไม่ได้ซึ่งน่าเบื่อ ก่อนจะเข้าสู่ความมืดและวูบ ถ้าคิดเรื่องผีหรือร้ายจะถูกผีอำ 100% ให้ควบคุมโดยการคิดเรื่องอื่นๆ อะไรก็ได้ที่เป็นความบันเทิง ในช่วงที่วูบ จะไม่เข้าสู่อาการผีอำ ซึ่งล่าสุด ผมมีอาการเหมือนตื่นแต่ควบคุมไม่ได้ แล้ววูบดิ่วลงเข้าสู่สีดำๆ ตอนนั้นผมเปลี่ยนคิดถึงเรื่องการไปเที่ยวกลายเป็นเรื่องร้านกาแฟเฉย

ดังนั้นใคร โทรไปคุยเรื่องผี The Ghost หรือเรื่องอะไรเกี่ยวกับผีอำ เห็นเล่าเป็นตุเป็นตะว่าน่ากลัวอย่างนั้นนู้น อนุมานได้ว่า เป็นการจิตมโน คิดไปเองทั้งนั้น

--ตัดมาเรื่องความฝัน ทุกวันนี้ไม่ค่อยฝันร้าย เละเหมือนตัวผมจะเริ่มควบคุมความฝันให้เป็นไปอย่างเป็นพอได้บ้าง ทุกวันนี้เลยชอบการนอน ฝันแต่ละวันสนุกมากมีเนื้อเรื่องแปลกแล้วเราเขาไปดำเนินเรื่องด้วยซึ่งสนุก มีความจริงที่จิตเรามโนเข้ามา มันดูสมจริงเป็นเหตุเป็นผล แม้นจะเป็นความไม่จริงก็เถอะ แต่ดูเหมือนความจริง ซึ่งสนุกมาก ตอนตื่นมาบางวันผมมานั่งทบทวนความฝันและคิดต่อซึ่งมันน่าหลงใหล และเคยฝันแบบเดจาวู ซึ่งไม่ตรงกับความจริงแต่มีเค้าโครงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตแบบรู้ได้ไง เช่น ฝันถึงสนามบินและคูเมืองเชียงใหม่ ขับไปขับมาเจอคูเมืองไปโผล่ที่เยาวราชกรุงเทพเฉย ซึ่งมันไม่ใช่ภาพเป็นของจริงแป๊ะๆ มีบางอย่างไม่เหมือนสถานที่จริง แต่เหมือนประมาณ 30-40 มีกำแพง ต่อมาได้มาอยู่ที่เชียงใหม่เฉย ซึ่งบางที่ไม่เคยไปมาก่อน ต่อมาสนามบินในฝันเป็นภาพมืดๆ กว้างเป็นป่า เป็นแนวยาว คือหมู่บ้านบ้านกาญจน์กนกทาวน์ 5 แป๊ะๆ หรือในตอน ม.6 เคยฝันถึง ถนนตัดกันหมด ในถนนนั้นมีเจดีย์แบบแนวเหนือๆ หน้าปากซอยเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งคือ ถนนนิมมานแป๊ะๆ แต่ที่ไม่ใช่เจดีย์นั้นไม่มีในถนนอย่างเดียวน่าจะมาจากความไม่ตรง ต่อมาได้มาอยู่ที่เชียงใหม่

--สรุป เราสามารถใช้ประโยชน์จากความฝันได้ เพราะ มนุษย์น่าจะมีสัญญาณการเอาตัวรอดตามธรรมชาติ การมีเซ้นส์ฝันล่วงหน้า น่าจะมีสัญญาณการเอาชีวิตรอดความปลอดภัยเป็นการเตือน ซึ่งไม่ได้ตรง หรือเป็นจริง 100% แต่บางอย่างก็เชื่อถือได้ ส่วนที่สองหากเราควบลคุมความฝันได้จะทำให้การนอนและการฝันมีความสุข สนุก เป็นเรื่องเป็นราวได้เหมือนผม

ผมเคยนะ อารมณ์ถ้าเราจดจ่อกับอะไรมากๆจะเป็น

อย่างเช่น ต้องตื่นเช้าไปทำธุระ จะฝันว่ากำลังนอนอยู่แล้วตื่นมาดูนาฬิกาชิบหายสายแล้ว สะดุ้งตื่น อ้ออค่อยยังชั่วแค่ฝันไป

ปรากฏว่าไอ้ค่อยยังชั่วนั่นอ่ะ ก็ยังอยู่ในฝันอีกชั้นนึง วนลูปไปเรื่อยๆ สลับไปมาระหว่างสายกับไม่สาย จนเช้าเลย

หรือช่วงบ้าบอลหนักๆ แล้วบอลทีมที่เชียร์เตะดึกแต่เราดูไม่ได้อ่ะ..ก็มักจะฝันถึงผลบอลคู่นั้น แล้วก็ตื่นมาเพื่อรู้ว่าผลเมื่อกี๊แค่ฝันไป

ก็พยายามหาดูผลบอลใหม่ ซึ่งพอรู้ผลบอลซักพักก็ตื่นอีก สรุปคือผลบอลนี่ฝันทั้งหมด วนลูปแบบนี้ จนกว่าจะตื่นจริงเหมือนกันเลย

ผมเนี่ย เจดาวู ฝันจนหลอกอ่ะ

ตอนอ่านคอมเมนท์ในมู้นี้ท่านก็กำลังฝันอยู่ครับ

ท่านได้ลองหมุน totem ยังครับตอนนี้
มันอาจจะไม่หยุดหมุนก็ได้นะครับ

ผมว่าก็เคยกันหมดนะ แต่อาจจะลืมไปละว่าฝันอะไร

ที่ผมเคยทำได้ครั้งเดียวและค่อนข้างทึ่งคือสมัยเด็กฝันถึงผู้หญิงคนนึงตกหลุมรักเลย ตื่นมาเช้าแล้วอยากฝันถึงคนนั้นอีกก็นอนต่อแล้วฝันถึงอีกครั้ง ฟินสุดๆวัยนั้น ม.ต้นมั้ง ช่วงโหยหาความรัก