ยืนยันตาม จขกท คับ

เอาจริงๆ ก็ งง นะ สรุปยื่นไม่ยื่น 555 (แต่ไม่ถึงเกณฑ์ไม่เสียอันนี้ ผมไม่ งง นะ)

กฎหมายเขียนเรื่องยื่นกับเสียคนละเรื่องครับ

ถ้าเกิน 120,000 ต้องยื่นหมด จะเสียไม่เสียอีกเรื่อง
ถ้าต่ำกว่า 120,000 ไม่ต้องยื่น

เกี่ยวครับ เดี๋ยวค่ำๆกลับบ้านจะเอาข้อมูลมาให้ว่าตัวเลขตาม ประมวลฯ. 56 มาจากไหนทำให้เกิดวงเล็บข้อยกเว้น

ถ้าเอาตามประมวล 56 ตรงตัวก็เป็นตามที่เข้าใจ
แต่ผมกำลังจะอธิบายจากภาพใหญ่เรื่องหน้าที่ของบุคคล และ ข้อยกเว้น(ทำไมถึงต้องยกเว้น)

รบกวนด้วยนะครับ

ปักรออ่าน

ทุกคนต้องยื่นภาษีครับ แต่จะมีคนที่เกณฑ์ไม่ถึง ไม่ต้องเสียภาษี ตามที่ผมเข้าใจนะ

ผมลองไปเสิชมา เจอประโยคนี้ จากต้านทาง https://www.cimbthai.com/th/personal/blog/financial-guru/salary-and-tax.html

"สำหรับใครที่มีรายได้จากงานประจำเพียงทางเดียว คนที่มีฐานเงินเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องยื่นภาษี ส่วนผู้ที่มีเงินเดือนไม่เกิน 26,583 บาท ต้องยื่นภาษี แต่ไม่ต้องเสียภาษีเนื่องจากยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าหากเงินเดือนเกิน 26,583 บาทเป็นต้นไปนอกจากจะต้องยื่นภาษีแล้วต้องเสียภาษีด้วย ซึ่งอัตราภาษีจะแบ่งตามช่วงรายได้ดังนี้"

สรุปว่า ฐานเงินเดือนไม่เกิน 10,000 ไม่ต้องยื่น

ถ้าเป็นรายได้ในระบบต้องยื่นครับ ปีโควิทแค่ 25,000 ก็ยื่นมาแล้วครับ.
จากมุมมองฝั่งบริษัทนะครับ ถ้าต้องจ้างท่านเกิน 3,000 บ.ก็ต้องยื่นกับทางสรรพากรแล้ว(หัก ณ.ที่จ่าย).
ถ้าท่านไม่ได้ยื่นภาษี ทางสรรพากรก็จะไม่มีข้อมูลอ้างอิงไปตรวจสอบก้บทาง บ.ได้ว่าได้จ้างท่านจริงหรือไม่ หรือแค่เอาชื่อมาทำค่าใช้จ่าย.

ดังนั้นการยื่นภาษีถ้าถูกหักจึงจำเป็นเพื่อให้ระบบการตรวจสอบของสรรพากรถูกต้องแม่นยำขึ้นครับ.
จำ บ.ที่ขอคืนภาษีกับทางรัฐได้ปีละเป็นแสนๆได้ไหมครับ ที่โดนจับว่าหลอกเอาเงินจากสรรพากรได้เป็น 10 ปีก็มีที่ใช้ช่องโหว่จากตรงนี้เป็นจุดเล่นงานสรรพากรครับ.

ถ้าอยากให้พวก นายทุนทั้งหลายต้องระวังการ "ลดหย่อนภาษีทางเทคนิค" ก็ควรยื่นแบบให้มากที่สุดครับ.
ทางกฎหมายไม่ต้องก็ได้ แต่ทางปฎิบัติมันเป็นข้อดีกับประเทศครับ.

25000 มันต่อปีรึเปล่านะครับหรือต่อเดือน

ถ้า 25000 ต่อปี ตามประมวลรัษฎากร อย่างที่ผมอ้างอิง มาตรา 56 ไม่เกิน 120,000 ถ้าตามกฎหมายที่ผมเข้าใจ ยังไงมันก็ไม่ต้องยื่นครับ

ส่วนเรื่องหัก ณ ที่จ่ายนี่มันขึ้นกับบริษัทครับ เพราะรายได้หลักของผมก็วงเล็บ 6 หมด

ตัวอย่าง ผมเองได้รายได้จากงานครั้งละ 5000 หัก ณ ที่จ่าย 3%

ถ้าทั้งปีผมรับงานรวม 20 ครั้ง รายได้รวม 100,000 บาท ต่อให้เข้าระบบสรรพากรจากนายจ้าง

ถ้าผมไม่อยากได้ 3% คืน ผมก็ไม่ต้องยื่นครับ

เพราะในส่วนของลูกจ้างมันคนละกรณีกับนายจ้างรึเปล่านะครับ

ปีนั้นได้ 25,000 ครับ เพราะทำงานแค่ไม่กี่วันทั้งปี.

ตามกฎหมายไม่ต้องยื่นก็ได้ถูกต้องครับ ยื่นก็ได้คืนไม่กี่บาท.

แต่ที่ยื่นก็ตามที่พิมพ์ไว้ครับ ยื่นเพื่อเอาไว้เพื่อเป็น Ref ของสรรพากรครับ.
เป็นการต้านการโกงภาษีของพวก บ. ครับ.

ปีนั้นได้ 25,000 ครับ เพราะทำงานแค่ไม่กี่วันทั้งปี.

ตามกฎหมายไม่ต้องยื่นก็ได้ถูกต้องครับ ยื่นก็ได้คืนไม่กี่บาท.

แต่ที่ยื่นก็ตามที่พิมพ์ไว้ครับ ยื่นเพื่อเอาไว้เพื่อเป็น Ref ของสรรพากรครับ.
เป็นการต้านการโกงภาษีของพวก บ. ครับ.

ว่าด้วยเรื่อง () ในมาตรา 56 ประมวลฯ 2560 ทำไมถึงต้องมี
ทาง RD (สรรพากร) เค้ามีการระบุค่าลดหย่อน/ค่าใช้จ่ายบุคคลธรรมดาดังนี้
1. โสดลดหย่อน 60,000
2. คู่ลดหย่อน 120,000 (60,000 + 60,000 หรือ โสด*2)
3. ค่าใช้จ่าย, โสดรายได้ 40(1) คิด 50% ของรายได้แต่ไม่เกิน 100,000 (ตัวเลขสำคัญคือ 120,000 หรือคิดค่าใช้จ่าย 60,000)
4. ค่าใช้จ่าย, คู่ = โสด*2



ดังนั้นรายได้คนโสดไม่เกิน 60,000 บาทเวลายื่นรายได้สุทธิจะติดลบทันที และถ้ามีรายได้แบบเงินเดือนต่อปีไม่เกิน 120,000 เวลายื่นก็ติดลบอีกเหมือนกัน จึงเป็นฯที่มาว่าทำไมจึงมี () เพื่อให้ทาง จนท. ไม่ต้องพิจารณาพวกรายได้สุทธิติดลบ


ปล. ประมวลฯ มาตรา 56 กับอัตราค่าลดหย่อนปรับคู่กัน ครั้งล่าสุดคือปี 2560

ตอนผมไม่ถึงผมก็ยื่น ทำให้มันเคยชินไว้ก่อนหน่ะกันลืม