[RE: ชอบตัวไหนใน โอปปาติกะ กันครับ]
เป็นหนังไทยอีกเรื่องนึงที่ผมชอบมากนะครับ
ดึงเอาแก่นของพุทธศาสนา การมีอยู่ของโอปปาติก ออกมา ไปในทาง มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์
การกำเนิดทางหลักชีววิทยาทางพุทธศาสนามี 4 รูปแบบ
ชลาพุชะ คือ เกิดในครรภ์ คลอดออกมาเป็นตัว เช่น คน, หมา, แมว, ช้าง เป็นต้น
อัณฑชะ คือ เกิดในไข่ ออกมาเป็นฟองและฟักเป็นตัว เช่น ไก่, นก, เป็ด, จิ้งจก เป็นต้น
สังเสทชะ คือ เกิดในไคล เกิดในสภาพชื้นแฉะหมักหมมเน่าเปื่อย เช่น หนอน, จุลินทรีย์ เป็นต้น
โอปปาติก คือ เกิดผุดขึ้นเต็มตัวทันที เช่น เทวดา, อสูรกาย, ผี, มนุษย์บางจำพวก (พระอนาคามี)
“โอปปาติก” หมายถึง เกิดผุดขึ้น คือ เกิดขึ้นมาโตเต็มที่ในทันทีทันใด โดยอำนาจของพลังกรรมเป็นตัวสนับสนุน โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการวิวัฒน์เหมือนสัตว์ทั่วไป เช่น เทวดา, เปรต, อสูรกาย, ผี, มนุษย์บางจำพวก (พระอนาคามี) โอปปาติก-สัตว์นี้เกิดหรือตายจะไม่ทิ้งซากหรือเนื้อไว้ให้เห็น เรียกได้ว่าเป็น ทุกคติ
คือมีแต่ความเป็นทุกข์
Spoil
ตัวละครก็มีประมาณนี้ครับ
“ศดก” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) มีพลัง สร้างภาพมายาได้
“จิรัสย์” (สมชาย เข็มกลัด) มีพลัง อมตะ เมื่อตายแล้วก็จะเกิดใหม่ ได้ วนเวียน
“เตชิต” (ลีโอ พุฒ) มีพลัง อ่านใจคนอื่น เห็นอนาคตล่วงหน้า
“ไปศล” (ชาคริต แย้มนาม) มีพลัง รู้จุดตายสามารถสังหารคนอื่นได้ แต่จะเกิดบาดแผลที่ตัวทุกครั้งที่ฆ่าคนอื่น
“อรุษ” (เร แม็คโดแนลด์) มีพลัง ความว่องไว ความโหดร้ายเหมือนสัตว์ป่า พลังจะใช้ได้ต่อเมื่อตะวันตกดิน กลางวันจะอ่อนแอมาก
“รามิล” (อธิป นานา) มีพลัง เรียกภูต อีกตัวตนนึงออกมาต่อสู้แทน อารมณ์เหมือน แสตนใน โจโจ้
เมื่อใช้พลังเรียกภูตมาใช้งานมากเท่าไหร่ ตัวเองก็จะเริ่มกลายร่างเหมือนภูตของตัวเองมากขึ้น