[RE: จอม ไฟเย็นกับน้องเมนู พูดถึงหยก, แม่หยก, บุ๊ง, และกลุ่มทะลุวัง เริ่มกระจ่างละ]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
Toruk Mukto พิมพ์ว่า:
Spoil
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
Toruk Mukto พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
Toruk Mukto พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
คำถามตอนนี้คือ ใครจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้น้องได้
จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ได้สลับซับซ้อนหรือลึกลับอะไรเลยนะ ผมไม่ได้รู้รายละเอียดเท่านี้ แต่พอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้ปัญหาเรื่องหยกที่ใหญ่ที่สุดคือ ไม่มีใครอยู่ในสถานะที่เหมาะสมในการจะแก้ปัญหา
สังคมถีบหัวส่งแต่แรก, รัฐคุกคาม, แม่อยู่ในสภาวะไม่พร้อม, องค์กรสิทธิไม่ functional
เชื่อไหม ก่อนหน้านี้ที่ผมปะทะคารมกับเพื่อนสมาชิก ถ้ามีใครถามว่าเรื่องทั้งหมดมันมีที่มาที่ไปยังไง ผมก็จะเล่าให้ฟังเท่าที่ผมรู้ โดยพยายามไม่ไปใส่ร้ายใครโดยที่ยืนยันไม่ได้ แต่ 80-90% คือด่าไว้ก่อน ไม่ได้สนใจอยากรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
แล้ววันนี้จะมาสวมบทเป็นคนดี สงสารเด็ก ต้องหาใครไปช่วยนะ สำหรับผมมันตลกนะ น่าจะฉุกคิดกันได้ก่อนหน้านี้ไหมว่าไม่ควรรีบไปโถมด่า ทำให้สังคมมันไม่มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก จนเด็กมันรู้สึกว่ากลุ่มทะลุวังคือพื้นที่ปลอดภัยเดียวของตัวเอง อันนี้ผมไม่ได้พูดถึงเฉพาะในนี้นะ แต่พูดถึงสังคมโดยรวมเลย ไปจนถึงสมาคมผู้ปกครอง ครู โรงเรียน พม. สธ. ที่เชื่อว่าเดี๋ยวจะต้องรีบออกมางับ รับลูกกันใหญ่
คุณแยกหยกออกจากทะลุวังได้แล้ว แล้วคดี 112 เอายังไงต่อ? การปฏิบัติของรัฐเอายังไงต่อ? จนท.ความมั่นคงเอายังไงต่อ? ศาลเอายังไงต่อ? กับตัวตนและจุดยืนทางการเมืองของหยก เรื่องไม่ได้จบง่าย ๆ แค่เอาหยกออกจากทะลุวังแล้วปัญหาทุกอย่างมันจะคลี่คลาย จบปิ๊ง
แล้วถ้าใครอ่านแล้วคิดว่านี้คือกรณีเลวร้ายของคนที่โดน 112 และผลกระทบต่อครอบครัวแล้วนะ ผมบอกได้เลยว่านี้คือ กรณีอย่างเบามาก
ถ้าข้อมูลนี้ จาก คุณ จอมไฟเย็น เป็นเรื่องจริง
เชื่อไหม ก่อนหน้านี้ที่ผมปะทะคารมกับเพื่อนสมาชิก ถ้ามีใครถามว่าเรื่องทั้งหมดมันมีที่มาที่ไปยังไง ผมก็จะเล่าให้ฟังเท่าที่ผมรู้ โดยพยายามไม่ไปใส่ร้ายใครโดยที่ยืนยันไม่ได้ แต่ 80-90% คือด่าไว้ก่อน ไม่ได้สนใจอยากรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ในเรื่องคุณแม่น้องหยกนี่ ท่านทราบข้อมูลด้วยตัวเองหรือจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ใช่ไหมครับ
เพราะสิ่งที่ท่านเคยคอมเมนต์ไว้
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2309341
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2316854
ข้อมูลที่ท่านเมนต์ กับ ข้อมูลของคุณจอมไฟเย็นไม่ตรงกัน ไม่แน่ใจว่าอันไหนถูกต้อง
ซึ่งถ้าคุณแม่น้องหยกไม่ได้ทิ้งน้อง อย่างตามที่ท่านว่าจริง แบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคุณแม่เลยนะครับ
อ่านที่ผมพิมพ์ดี ๆ นะครับ ผมไม่ได้บอกว่าแม่น้องทิ้งน้อง
ผมบอกว่าแม่ปฏิเสธการเป็นผู้ปกครอง ซึ่งอ้างอิงจากการที่โรงเรียนไปหาถึงบ้านเพื่อให้มาเป็นผู้ปกครองมอบตัว แต่ไม่ยอมออกมาคุย และอีกอันที่ผมบอกว่าเด็กคนหนึ่งถูกพ่อแม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ผมยกตัวอย่าง(เด็กคนหนึ่ง) ว่าต่อให้เกิดกรณีแบบนั้น โรงเรียนก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสิทธิ์การเรียน อันนี้ประเด็นแรก
อันที่ไม่แน่ใจว่าข้อมูลตรงกันไหมคือ แม่น้องไม่ได้ขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิง ยังติดต่อได้ แต่ส่วนบุ้งจะติดต่อไปแล้วแม่ไม่รับ หรือบุ้งไม่ได้ติดต่อเอง อันนี้ผมไม่ยืนยัน
ส่วนที่น่าจะตรงกันคือ พ่อตัดขาดกันไปนานแล้ว
จริง ๆ น่าถามเหมือนกันว่ามีใครรู้คำตอบไหม ว่าทำไมแม่ถึงไม่ออกมาพบครูที่ไปหาเรื่องการมอบตัว หรือจริง ๆ แล้วครูไม่เคยไปหา?
เห็นท่านเรียกร้องต่างๆให้น้องหยก ด่าโรงเรียน ด่าผอ. ด่าผู้หลักผู้ใหญ่ แต่แหล่งข่าวที่ท่านใช้อ้างอิง คือ
จากการที่โรงเรียนไปหาถึงบ้านเพื่อให้มาเป็นผู้ปกครองมอบตัว แต่ไม่ยอมออกมาคุย ท่านใช้ข้อมูลจากฝั่งของโรงเรียน แสดงว่าท่านก็ต้องเชื่อในคำกล่าวอ้างของทาง รร. ที่บอกมาแบบนี้ใช่ไหมครับ
แล้วตอนต้นท่านบอก
ผมไม่ได้บอกว่าแม่น้องทิ้งน้อง ผมบอกว่าแม่ปฏิเสธการเป็นผู้ปกครอง
ปฏิเสธการเป็นผู้ปกครอง จนลูกไม่ได้มีชื่อที่จะเข้าเรียน ความหมายมันไม่น่าจะต่างกันกับคำว่าทิ้งนะครับ มันต่างกันตรงไหน ท่านก็ใช้เทคนิคเล่นการเล่นคำจนผมนึกว่าท่านเป็นนักการเมืองไปได้
น้องไปมอบตัวพร้อมผู้ปกครองโดยพฤตินัย คนที่ไม่ไปมอบตัวคือแม่
คำถาม แค่เพราะเด็กคนหนึ่งที่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดไม่มีความรับผิดชอบ เป็นเหตุให้ต้องตัดสิทธิ์การศึกษาจากโรงเรียนรัฐที่น้องสามารถสอบเข้าได้ด้วยความสามารถของตัวเองเลยหรือ?
การยกตัวอย่างของท่าน ไม่ได้ เอาคำว่า คนที่ไม่ไปมอบตัวคือแม่ รวมทั้ง สิ่งที่ท่านเข้าใจก่อนหน้า แม่ปฏิเสธการเป็นผู้ปกครอง มาเกี่ยวข้องเลยเหรอ ยกตัวอย่างลอยๆแค่นั้นเหรอครับ
ผมเรียกร้องให้หยกด่าผู้ใหญ่ ด่าโรงเรียน? ผมคิดว่าท่านมีปํญหาในการตีความนะ
อีกอย่างการใช้ข้อมูลมันวัดกันที่ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ไม่ใช่ว่ามาจากฝั่งไหนนะครับ ไม่ใช่แบ่งแยกฝั่งแล้วตีความว่าทุกอย่างที่ฝั่งเราพูดคือถูกต้องหมด ทุกอย่างที่ฝั่งตรงข้ามพูดคือโกหกหมด ไม่ใช่วิธีพิจารณาข้อมูลที่ดี ผมเชื่อว่าครูประจำชั้นของหนกไปพบผู้ปกครองจริง เพราะเป็นระเบียบปฏิบัติปกติอยู่แล้ว และแม่และครูไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกัน และก่อนหน้านี้แม่ก็เคยพูดคุยกับทั้ง ผอ. และครูประจำชั้นเรื่องสิทธิการเรียน ซึ่งตรงนี้ข้อมูลตรงกันทุกฝ่าย
เรื่องปฏิเสธความรับผิดชอบ กับทอดทิ้ง อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเพราะท่านไม่รู้เรื่องอย่างละเอียดตาม timeline หรือไม่ หรือไม่ได้อ่านจับใจความ เพราะมันมี 2 ช่วงคือช่วงที่หยกอยู่ในสถานพินิจและช่วงที่มีปัญหาเรื่องสิทธิการเรียน
ที่จอมพูดถึงหลัก ๆ คือแม่ไม่ได้ทิ้งคือช่วงที่อยู่ในสถานพินิจ ส่วนที่ท่านยกมาที่ผมบอกว่าปฏิเสธความรับผิดชอบคือเรื่องการมอบตัวกับโรงเรียน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครติดต่อหรือทราบความเห็นของแม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องมอบตัว ถ้าแม่มาคุยกับ ผอ. เองก็จบ ซึ่งจอมก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้
ส่วนเหตุผลเพราะอะไรผมไม่คาดเดา เพียงแต่ตั้งข้อสังเกต ดังนั้นถ้าจะบอกว่าการที่ผมบอกว่าแม่ปฏิเสธความรับผิดชอบก็คือทอดทิ้งใช่หรือไม่ สำหรับผมมันคือ scope ในช่วงเรื่องการมอบตัว มันไม่ใช่ช่วงเดียวกับช่วงที่จอมอ้าง เพราะจอมพูดถึงแต่ช่วงที่อยู่ในสถานพินิจและหลังออกจากสถานพินิจใหม่ ๆ ผมจึงปฏิเสธว่าไม่เหมือนกัน ผมบอกว่าปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่องมามอบตัว แต่ไม่ได้กล่าวหาไปถึงว่าทอดทิ้งในช่วงที่ติดอยู่ในสถานพินิจ
การยกตัวอย่างของผมก็พูดถึงการพูดถึงกรณีอย่างกว้าง ซึ่งก็ย่อยม adapt กับกรณีของหยกเช่นกันครับ ถ้ากรณีของยกเหมือนกับกรณีที่ยกตัวอย่าง ซึ่งมันอ้างอิงถึงกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ไปอ้างอิงถึงช่วงเดียวกับที่จอมพูดถึง
นี้ผมอธิบายมายาว ๆ ผมสงสัยว่าประเด็นของท่านคืออะไรนะ ผมวิจารณ์แม่หยกอย่างไม่เป็นธรรมใช่ไหม หรือข้อมูลของผมไม่ถูกต้อง?
เนื้อความอย่างละเอียดของสิ่งที่ท่านยกคำพูดของผมมาคือ แม่ของหยกปฏิเสธความรับผิดชอบในการมามอบตัวนักเรียน แม้ครูประจำชั้นจะไปหาถึงบ้าน โดยอ้างอิงจากคำบอกเล่าของครูประจำชั้น และข้อมูลทางสื่อสาธารณะที่นำเสนอ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับแม่ได้ (ซึ่งไม่ใช่ว่าหาช่องทางติดต่อไม่ได้ แต่ติดต่อไม่ได้)
ด้วย statement นี้มีอะไรที่เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือขัดแย้งกับคุณจอมไหมครับ? ผมชอบนะ มีคนมา challenge
ผมไม่ได้ว่าท่าน เรียกร้องให้หยกด่าผู้ใหญ่ ด่าโรงเรียนเลย ผมว่าท่านเข้าใจที่ผมพิมพ์เว้นวรรค ผิดไปนะครับ
การใช้ข้อมูลมันวัดกันที่ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ไม่ใช่ว่ามาจากฝั่งไหน ถูกต้องครับ เรื่องนี้เป็นพื้นฐานใช้กันอยู่แล้ว แต่ ณ ปัจจุบัน ที่ท่านใช้ก็มีแค่ข้อมูลของฝั่งทางครู โรงเรียน ด้านเดียว ไม่มีของทางฝั่งคุณแม่น้องหยกเลย การใช้ข้อมูลที่ดี ต้องได้ข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย ทุกด้าน ทุกส่วน แล้วมาคิดวิเคราะห์ หาความจริงอีกด้วยนะครับ
เห็นท่านพิมพ์ยืดยาว ผมว่าท่านก็เข้าใจที่ผมจะสื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ผมวิจารณ์แม่หยกอย่างไม่เป็นธรรมใช่ไหม หรือข้อมูลของผมไม่ถูกต้อง?
เนื้อความอย่างละเอียดของสิ่งที่ท่านยกคำพูดของผมมาคือ แม่ของหยกปฏิเสธความรับผิดชอบในการมามอบตัวนักเรียน แม้ครูประจำชั้นจะไปหาถึงบ้าน โดยอ้างอิงจากคำบอกเล่าของครูประจำชั้น และข้อมูลทางสื่อสาธารณะที่นำเสนอ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับแม่ได้ (ซึ่งไม่ใช่ว่าหาช่องทางติดต่อไม่ได้ แต่ติดต่อไม่ได้)
เท่าที่ผมจำได้ เคยเห็นคลิปในเฟสบุ๊ค แต่นานแล้ว การที่ครูไปหาที่บ้าน พ่อ แม่ของหยก พอมาหาตอนนี้ เจอแต่คลิปนี้ ซึ่งไม่มีรายละเอียดมากนักตอนไปบ้านแม่น้องหยก ท่านพอจะมีแหล่งข้อมูลอื่นไหมครับ จากของครูที่ไปโดยตรงเลย ผมอาจจะดูไม่ทั่วถึง พลาดไป
ด้วย statement นี้มีอะไรที่เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือขัดแย้งกับคุณจอมไหมครับ?
ก็คุณจอม เขาอธิบายถึง
เช้าวันแรกที่บุ้งพาน้องไปโรงเรียนเองโดยไม่ยอมพาน้องกลับบ้านไปส่งแม่น้องก่อน โรงเรียนซึ่ง"ทำMOU"ผ่อนผันการมอบตัวล่าช้าเอาไว้ให้กับแม่และน้าของน้องจึงไม่สามารถให้บุ้งมาฉีกMOUเก่าแล้วมอบตัวแทนแม่น้องที่มาขอโอกาสไว้ได้
ซึ่งรร.ก็ได้รับเข้าเรียนไว้ก่อน แต่ผ่อนผันให้น้องมามอบตัวพร้อมผปค.ตัวจริงตามMOUให้ถูกต้องโดยแจ้งกำหนดระยะวันเวลาหมดเขตกับน้อง แต่จนท้ายที่สุดบุ้งก็ไม่ยอมพาน้องกลับไปส่งแม่เพื่อให้ได้เซ็นมอบตัวตามMOUเดิม ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายความมั่นคงสบช่องทำลายโอกาสทางการศึกษาของน้องโดยที่ไม่ควรจะต้องเสีย
ในส่วนนี้ถ้าตามที่คุณจอมบอก
รร.ก็ได้รับเข้าเรียนไว้ก่อน แต่ผ่อนผันให้น้องมามอบตัวพร้อมผปค.ตัวจริงตามMOUให้ถูกต้องโดยแจ้งกำหนดระยะวันเวลาหมดเขตกับน้อง อันนี้คุณแม่น่าจะไม่รู้เรื่องนี้โดยตรง แต่ถ้าตามที่ครูกล่าวอ้างว่าไปหา 5 รอบ ก็ต้องมาดูกันว่าครูไปจริงไหมไปทำอะไรยังไงบ้าง หรือว่าจริงๆ แม่ไม่สนใจแล้ว
ส่วนตัวท่านพูดสรุปไปเลยว่า
แม่ปฏิเสธการเป็นผู้ปกครอง และ แม่ผู้ให้กำเนิดไม่มีความรับผิดชอบ ไงครับ
โดยที่
ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับแม่ได้ (ซึ่งไม่ใช่ว่าหาช่องทางติดต่อไม่ได้ แต่ติดต่อไม่ได้)
https://www.youtube.com/live/f7wTKHnv_5s?feature=share
ประมาณนาทีที่ 20 ครับ บ้านน้องอยู่ใกล้โรงเรียน ครูไปหาหลายครั้ง มีคนอยู่บ้าน แต่ไม่ออกมา
ส่วนเรื่องที่ผมสรุปเนี่ย ถ้าท่านคิดว่าผมสรุปโดยไม่ฟังความเห็นจากทางแม่ คำถามคือ แล้วทำไมไม่มีข้อมูลจากทางแม่ออกมาเลยครับ? ตอนนี้คุณจอมเองก็ติดต่อไม่ได้แล้ว และสิ่งที่คุณจอมอธิบายได้มีแค่ถึงช่วงที่แม่ไปคุยกับอาจารย์เพื่อขอผ่อนผันเรื่องมอบตัว แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้
ที่บอกว่าอาจจะไม่รู้ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ครับ คือต่อให้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ต้องรู้ว่าหยกถูกปล่อยตัว เมื่อถูกปล่อยตัวแล้วก็ต้องไปมอบตัวที่โรงเรียน ต่อให้หยกไม่กลับไปหาแม่ โดยสามัญสำนึกก็ต้องติดต่อโรงเรียนเพื่อติดตามสถานะ อันนี้คือปกติสามัญสำนึกเลย
แต่ไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร ผมถึงบอกว่าแม่ปฏิเสธความรับผิดชอบในส่วนนี้ (ถึงไม่ใช้คำว่าทอดทิ้ง เดี๋ยวก็จะเข้าใจผิดว่าทอดทิ้งแต่แรก) ส่วนเหตุผลที่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ถึงได้ยินมาบ้าง แต่ผมก็ไม่พิมพ์ออกมาเพราะไม่ได้รู้แน่
ผมสงสัยว่าทำไมท่านถึงคิดว่าแม่จะไม่รู้ครับ จนถึงป่านนี้แล้ว หรือรู้แล้วทำไมถึงไม่ได้ดำเนินการหรือติดตามเรื่องสถานะการศึกษาของหยกต่อ? ข้อเท็จจริงที่ปรากฏคือแม่ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเรื่องสิทธิในการศึกษาของหยก แต่ข้อเท็จจริงที่ยังไม่ปรากฏคือเหตุผลที่ปฏิเสธความรับผิดชอบในส่วนนี้ครับ แยกประเด็นให้ออก
เรื่องที่บอกว่าไม่รู้ว่าต้องมาติดตามสถานะการศึกษาของหยก ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ครับ (ยกเว้นเสียชีวิต หรือป่วยหนัก ซึ่งผมคิดว่าถ้าเป็นเช่นนั้นคงมีข่าวออกมาบ้างแล้ว)
จากคลิปที่ท่านให้ดู ก็เป็น คำกล่าวอ้างของทางครู ผอ. ฝ่ายเดียวเช่นเดิม
ข้อมูลที่ท่านได้จากสื่อ เท่าที่ผมหาข้อมูลได้ น่าจะก็มีแค่ คลิป จาก Top news ใน youtube กับคลิปที่ทาง รร ไปยื่นหนังสือต่อ สว
ส่วนเรื่องที่ผมสรุปเนี่ย ถ้าท่านคิดว่าผมสรุปโดยไม่ฟังความเห็นจากทางแม่ คำถามคือ แล้วทำไมไม่มีข้อมูลจากทางแม่ออกมาเลยครับ? ตอนนี้คุณจอมเองก็ติดต่อไม่ได้แล้ว และสิ่งที่คุณจอมอธิบายได้มีแค่ถึงช่วงที่แม่ไปคุยกับอาจารย์เพื่อขอผ่อนผันเรื่องมอบตัว แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้
ไม่แน่ใจว่าคุณได้อ่านที่ คุณจอมไฟเย็น โพสไหม
น้องจึงประกาศขณะตำรวจอ่านแถลงบันทึกจับกุมว่าไม่ขอแต่งตั้งทนายเข้าร่วมกระบวนการและไม่ยื่นประกันตัวใดๆ น้องได้ขอร้องให้แม่เคารพการต่อสู้กับมาตรา112ด้วยตัวเองที่น้องเลือก ขอให้ไม่ออกแม่มาปรากฎตัวต่อหน้าสื่อใดๆเพราะเกรงจะถูกฝ่ายความมั่นคงคุกคามหนักขึ้นไปอีก
และสิ่งที่ท่านตั้งคำถามมา คือท่านจะหาเหตุผลมาสนับสนุนตัวเองว่า ในเมื่อแม่ไม่มีการออกมาให้ข้อมูล ตัวท่านเองก็สามารถตัดสินตัวแม่ ด้วยข้อมูลจากทาง ครู โรงเรียน และจากการที่แม่ไม่ได้ไปมอบตัวพร้อมกับหยก ว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ใช่ไหมครับ
คุณจอมได้อธิบายความอยู่นะครับว่าแม่มีการเตรียมการพาหยกไปมอบตัว
เช้านั้นบุ้งอ้างกับสื่อว่า"หาแม่น้องไม่เจอ-ติดต่อแม่น้องไม่ได้-น้องไม่มีผู้ปกครองมา"
- แม่น้องยังพำนักบ้านเดิม แค่มีคนพาน้องไปพักที่อื่นไม่พากลับบ้าน
- น้องกับแม่ยังติดต่อกันได้ตลอดตั้งแต่ออกมา แม่เขาแค่ไม่คุยกับบุ้งเพราะเป็นใครก็ไม่รู้อยู่ๆมาฉีกMOUที่ไปของทำไว้กับรร.ด้วยการพาลูกเขาไปมอบตัวทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง
- น้องไม่มีผู้ปกครองมา..เพราะบุ้งไม่ได้พาน้องไปส่งบ้านผู้ปกครองซึ่งแม่น้องเตรียมการพาน้องมอบตัวกับโรงเรียนตามที่ขอทำMOUไว้แล้ว แต่กลับพยายามให้น้องคัดทะเบียนบ้านออกแทน
ผมบอกว่า
รร.ก็ได้รับเข้าเรียนไว้ก่อน แต่ผ่อนผันให้น้องมามอบตัวพร้อมผปค.ตัวจริงตามMOUให้ถูกต้องโดยแจ้งกำหนดระยะวันเวลาหมดเขตกับน้อง อันนี้คุณแม่น่าจะไม่รู้เรื่องนี้โดยตรง
ผมหมายถึงเฉพาะคุณแม่น่าจะไม่รู้กำหนดระยะวันเวลาหมดเขต โดยตรงจากMOUครั้งแรก ซึ่งผมอาจจะผิดก็ได้ ต้องไปดู MOU ตัวจริง เพราะที่ผมอธิบายต่อ
แต่ถ้าตามที่ครูกล่าวอ้างว่าไปหา 5 รอบ ก็ต้องมาดูกันว่าครูไปจริงไหมไปทำอะไรยังไงบ้าง หรือว่าจริงๆ แม่ไม่สนใจแล้ว
สรุปเลยละกัน
แม่น้องหยก
คนที่ลูกสาวถูกพรากไปจากจากอก ด้วย ม112
ซึ่งคุณจอมก็ได้บอกว่าสภาวะด้านจิตใจจะย่ำแย่ อย่างมาก
จากการถูกสังคมบางส่วนตราหน้า ถูกล่าแม่มด ถูกคุกคามจากตำรวจ ถูกสื่อขุดคุ้ย ถูกตามล่าจากแก๊งค์คลั่งเจ้า ศชอ.
การที่มีคนมาตะโกนหน้าบ้าน แล้วบอกว่าเป็นครู จะให้เชื่อแล้วออกมาหาหน้าบ้านง่ายๆเหรอ
ถ้าเป็นผมก็ต้องระวังความปลอดภัยให้ตัวเอง ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะ ซึ่งเสี่ยงที่จะถูกคุกคามมากขึ้น
ข้อเท็จจริงคือ คุณแม่ไม่ได้ไปมอบตัวหยกกับทางโรงเรียนก่อนวันที่ 10 มิย ซึ่งขณะนั้นหยกก็ไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ได้อยู่ในความดูแลของคุณแม่
แต่ที่ท่านสรุปตัดสินโดยความคิดของตัวเอง คือ แม่หยก ปฏิเสธการเป็นผู้ปกครอง โดยอ้างอิงจากครูไปหาที่บ้านแล้วก็ไม่ออกมาคุย แม่หยกไม่มีความรับผิดชอบ แม่หยกไม่มีสามัญสำนึก กับเรื่องการศึกษาของลูก ไม่มาโรงเรียน ไม่ติดตามสถานะการเรียนของลูก ไม่ออกมาให้ข้อมูลต่างๆให้คนอื่นได้รู้
โดยที่ท่านไม่ได้ข้อมูลโดยตรงจากคุณแม่เลย ว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งคุณแม่ได้พูดคุยอะไรกับหยกบ้าง
คำถาม คือ คุณคิดว่ามันแฟร์สำหรับคนที่ชื่อว่าแม่ คนที่โดนถูกกระทำ ผู้สูญเสียคนนี้หรือไม่?
สำหรับท่าน ตัดสินแม่จาก ข้อมูลที่ได้จาก ครู ผอ. โรงเรียน และจากการกระทำของแม่ที่ไม่ได้พาหยกไปมอบตัว โดยไม่มีข้อมูลส่วนอื่นของแม่ประกอบด้วย เพราะแม่ไม่ออกมาให้ข่าว
ผมสรุปแบบนี้ถูกไหม ถ้าไม่ใช่ตรงไหน แย้งมาได้ครับ