ถูกต้องแล้วครับ ก็อย่างที่ผมเขียน ถ้ามีน้ำมูกจากภูมิแพ้ อันนี้ใช้ตัวไม่ง่วงได้

ก็ต้องดูก่อนว่าเป็นหวัดหรือภูมิแพ้

ถ้าหวัดการใช้ซูลิดีนไม่มีปัญหาครับ แต่ห้ามให้เกิน 5 วัน

เพราะจะมี rebound effect ทำให้แน่นจมูกกว่าเดิม

ในร้านยามันก็มีทั้งเคสที่เป็นหวัดกับแพ้ครับ ที่จ่ายๆกันก็เพราะประเมินแล้วว่าไม่ใช่หวัดมั้งครับ

ส่วน gen 2 gen 3 ไม่มีฤทธิ์ anticholinergic อันนี้เภสัชทุกคนก็รู้อยู่ละ

อาการของผมคือชอบเป็นตอนตื่นนอน

แล้วก็ลากยาวทั้งวัน (บางวัน)

จาม + คัดจมูก + น้ำมูกใสๆ ไหลไม่หยุด

ที่จ่ายๆ กันก็เป็นหวัดนี่แหละครับ

ผมเจอมากับตัว เวลาตัวเองจะซื้อยาลดน้ำมูกตอนเด็กๆ

คนไข้ผมเต็มคลินิกไปหมดจ่าย zertec, telfast

ถามมาจากไหน เขาบอกมาจากร้านขายยา

ไอไม่รู้น่ะไม่ได้ว่าครับ แต่จะบอกว่าไม่มีเลย ผมนี่แหมม

ซ้ำ

ซ้ำ

ซ้ำ

น่าจะรู้กันนะ แต่ใช้ตามประสบการณ์ พวก 2nd gen ก็ง่วงนิดนึงนะ และน่าจะมี anticholinergic effect และคนไข้ก็ไม่อยากกิน CPM เพราะง่วงไป

80-90% จ่าย cetirizine กันทั้งนั้น ไม่ว่าหมอเด็กหรือผู้ใหญ่ คงคิดว่าถึงได้ผลไม่ดีเท่า แต่ไม่อยากจ่ายตัวผลข้างเคียงเยอะ

---------------

มีอีกเรื่องอยากถามครับ ทำไมถึงจ่ายกันแต่ amoxy 2x2 5 วัน ในคนไข้เจ็บคอ

ปกติถ้าจ่าย antibiotic ก็คงคิดถึง Strep gr A ซึ่ง guideline คือ 500mg 1x2 10 วัน

คือจ่ายแบบนั้นกัน เพราะเหตุผลอะไรครับ

มันเป็น practice เก่ามั้งครับ เพราะผมก็ให้ 1x2

บางทีไม่ใช่ไม่รู้หรอกแต่ลูกค้าจะเอาแบบนั้น

คุณหมอช่วยดูข้อมูลตรงนี้อีกทีครับ oral decongestant ไม่น่าทำให้เกิด rebound นะครับ
เกิด rebound เฉพาะยา local decongestant ยาพ่นจมูกหรือยาหยอดจมูก

ดีใจเจอคนเข้าใจสักทีว่า non sedate antihistamine มันไม่ได้ลดน้ำมูกในหวัดเพราะไม่มีฤทธิ์ anticholinergic ผมพูดจนท้อในการอธิบายคนไข้

แล้วยาแก้แพ้แบบไม่ง่วง มันไม่มีอยู่จริง มีแต่อัตราเกิด ผลข้างเคียง [อาการง่วง] น้อยกว่าหรือต่ำกว่า เพราะคนเราทุกคนไม่เหมือนกัน

เวปบอร์ดที่ไม่ได้มีแค่ฟุตบอล

ผมใช้แบบพ่นจมูกเอา แต่แพงอยู่