อย่ามาคุยในSSเลยครับ ส้มแท้หัวรุนแรง  

อย่ามาคุยในSSเลยครับ ส้มแท้หัวรุนแรง  

อย่ามาคุยในSSเลยครับ ส้มแท้หัวรุนแรง  

ไม่รู้จขม จะกลับมาอ่านไหม ผมก็จะเขียนไว้ให้เป็นความรู้แก่ท่าน เท่าที่ชาวบ้านตาดำๆอย่างผมพอจะทราบแล้วเรียบเรียงให้ท่านเข้าใจได้อย่างง่าย


การที่พิธาถือหุ้นสื่อ
พิธาถือหุ้นสื่อตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ มีการตรวจสอบแล้ว และยืนยันแล้วว่าถือหุ้นสื่อในฐานะผู้จัดการมรดก
เมื่อเป็นผู้จัดการมรดก ความได้เสียเดียวที่มีคือการเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหุ้น คือหมายถึงยังมีโอกาสรับมรดกอยู่
แล้วเมื่อจัดการมรดกไปแล้ว ในเคสของพิธาจะย้อนเวลากลับไปว่าตัวคุณพิธาไม่เคยถือหุ้นตัวนี้เลยเพราะถือว่าที่ผ่านในช่วงถือหุ้นมาเป็นผู้จัดการมรดกเฉยๆ

ต่อข้อถัดมา
กำหนดเอาไว้ทำไม
เจตนารมณ์กฏหมายข้อนี้ เพื่อไม่ให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบกันในช่วงเวลาหาเสียง เนื่องจากสมัยนั้นสื่อสารช่องทางหลักเป็นหนังสือพิมพ์กับทีวี อินเตอร์เนตเข้ามาแล้วแต่ยังไม่มีระบบสตรีมมิ่งที่ดีพอกับสมัยนี้ สื่อโซเชียลก็ยังไม่บูม
จึงไม่ให้มีการถือหุ้นเพื่อได้เปรียบเสียเปรียบกัน

ก็แล้วถามท่านกลับไปว่า เอาแค่ในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา นับเริ่มจากมกราคมปีนี้ก็ได้ ท่านเห็นช่องไอทีวีออกข่าวไหม หรือมีช่องไอทีวีในจานดาวเทียมช่องไหนหรือไม่?

คำตอบของท่านผมตอบแทนได้เลยว่าไม่

ก็ในเมื่อมันไม่มีสื่อชื่อไอทีวี ตัวบริษัทเองก้ตอบแล้วว่าไม่ได้ดำเนินกิจการใดๆ ที่ยังคงความเป็นบริษัทอยู่เพราะมีการดำเนินการเรื่องคดีความรอข้อพิพาทยุติอยู่ จึงจำเป็นต้องคงรูปบริษัทไว้จนกว่าศาลจะตัดสินคดี

ท่านไม่ได้ศึกษาข้อกฏหมายก่อนพ่นข้อความทั้งหมดออกมาหรอ?

รอบก่อนวีลัคนิตยสารปิดตัว โอนหุ้นออกแล้วแต่ศาลไม่เชื่อว่าโอนหุ้นในช่วงเวลาก่อนเลือกตั้ง

แล้วไอสี่ปีที่ผ่านมา ก็ถือหุ้นตัวนี้ ปปชก็ไม่ตรวจสอบเลยหรือไง? ถ้าไม่ตรวจสอบหรือข้ามขั้น ปปชก็มีความผิด157 แม้แต่ตัวกกตเองก็ผิดที่ไม่ตัดสิทธิ์กลับปล่อยให้มีสิทธิ์ลงสมัครเป็นสส.

ก็แล้วไม่ศึกษาอะไรเลยก่อนจะพ่นเรื่องโง่ๆแบบนี้ออกมา แถมโทษเหยื่อด้วย ก็สมควรแล้วครับรับเรื้อนไปพักร้อน15วัน