เข้าไปอ่านต้นทางแล้ว ช็อคที่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถึงพื้นฐานดอกเบี้ยบ้านจริงๆ เม้นเอามันว่าทำไมไม่เป็นแบบดอกเบี้ยรถ เข้าใจอะไรผิดรึป่าว ไม่แปลกใจที่โดนหนี้นอกระบบหลอกดอกต่ำกว่า 2 บาท (แต่โดนแบบรายวัน)

จริงๆหลักดอกเบี้ยทั่วไป กับ ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มันก็ชัดเจนอยู่นะครับ อยากผ่อนระยะยาวแล้วดอก Fix เหมือนรถ ไม่ต้องเอา 30 ปีหรอก แค่ 5 ปีเหมือนรถ จะซื้อบ้าน 13,000,000 ก็ต้องผ่อน 280,000 ต่อเดือนเลยนะ

ดอกเบี้ยรถต่อให้มีเงินก้อนมาจ่ายในอนาคตก็ไม่ทำให้ดอกหายไปนะ การออกดอกเบี้ยลดต้นลดดอกนี่สมเหตุผลกับการซื้อบ้านมาก เพียงแต่ระยะเวลาดอกเบี้ยต่ำมันอยู่แค่ 3-4 ปี ตามเงื่อนไข

ตาสีตาสา ไม่เข้าใจการรีไฟแนนซ์ก็โดนไป คนมารับภาระต่อไม่เข้าใจเงื่อนไขก็โดนไป คนเราอยากได้บ้านถูกปลูกฝังให้มีบ้าน เช่าแล้วมันไม่เทห์ มีแค่คอนโดมันไม่คูล มันก็ต้องรับกันไป

มีคอมเม้นนึงตอบว่า “ถ้าอยากผ่อนถูกก็ดาวน์ 50% ขึ้นไปไง” ก็จริงอะ อันนี้ธนาคารเคยหารือนำไปปรับเป็นเงื่อนไขการดาวน์ แต่ก็ล้มไป อย่าว่าแต่ 50% เลย แค่ 30% ก็ดิ้นกันแล้วว่าเยอะไป ฉันจะเอา 100% บางคนเอา 105-110 แล้วไปเสียส่วนเกินเป็นสินเชื่อบุคคลอีก

ถ้าจะแก้ ผมว่ามาหารือการขยายระยะเวลาดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำให้เพิ่มจำนวนปีน่าจะตรงจุดกว่าการ

* ทำยังไงคนไทยถึงจะซื้อบ้านแล้วผ่อนได้ในระยะเวลาเท่ากับผ่อนรถครับ


ในความเป็นจริงมันทำได้ไหม ผมสงสัยมากเลย ทำไมเราต้องมาผ่อนบ้าน ซึ่งเป็นปัจจัย 4 กันถึงขนาดลูกโตเป็นควาย


แก้โครงสร้างตรงนี้ได้ ผมว่าลืมตาอ้าปากได้หลายบ้านเลยนะ อย่างน้อยไม่เกิน 10 ปี ผ่อนหมด ผมว่าโอเคนะ หรือผมมีความรู้ด้านการเงินน้อยไปก็ไม่รู้นะ

คุณคิดว่าธนาคาร เอาเงินจากไหนมา จ่ายให้ ผู้บริหาร ปีล่ะ เป็น 1000 ล้านล่ะ

ก็ดอกเบี้ยจากการกดทับ ของสังคมแห่งความเหลื่อมล้ำนี่แหละ

เป็นอีกวงการที่ น่าจะโดนตรวจสอบนะ

ลดดอกเบี้ย บ้าน เป็นอะไรที่แบงค์ ไม่อยากให้รัฐบาลเข้าไปแตะเลย

เพราะเป็นรายได้ที่ แบงค์ชอบมาก

เอาแฟร์ๆคือดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีตามอายุสัญญาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไม่เกิน 4% อะนะ

เผลอๆจะได้ 2% ปลายๆด้วย ถ้าไม่รีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่น ก็มักจะขึ้นไประดับ 6-8% นั่นแหละ ไม่น่าจะมีใครโดน MRR แบบไม่มีลบหรอก นิดๆหน่อยๆก็ลบ 1 ลบ 1.5 ทำนองนี้อยู่แล้ว

ซึ่ง

เอาจริงๆคนที่มีปัญญาซื้อบ้านระดับ 10 ล้านขึ้นไป ผมเชื่อว่า 100% ยังไงก็รีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่น

ดอกเบี้ยอาจจะเสียเยอะจริง แต่ไม่ขนาดโพสต์นั้นหรอก ผมก็อยากรู้นะว่าใครจะยอมปล่อยให้ตัวเองเสียดอกเบี้ยไปขนาดนั้นโดยที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง(รีไฟแนนซ์/รีเทนชั่น)

ส่วนประเด็น Fixed Rate กับ Float Rate ผมว่าส่วนใหญ่จะ Fixed 2 ปีแรก Float ปีที่ 3 นะ ซึ่งพอดูเฉลี่ย 3 ปีมันก็จะกลับไปบรรทัดแรกสุดอะ ปัญหาคือตอนนี้กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมา 1.5% แล้วมั้งจากช่วงโควิด ทำให้ดอกเบี้ยแบบลอยตัวมันขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องรอให้ครบสัญญา 3 ปีแล้วหารีไฟแนนซ์เอา

ค่างวด 1 หมื่น
ต้น 3500 ดอกเบี้ย 6500

เข้าไปอ่านต้นทางแล้ว ช็อคที่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถึงพื้นฐานดอกเบี้ยบ้านจริงๆ เม้นเอามันว่าทำไมไม่เป็นแบบดอกเบี้ยรถ เข้าใจอะไรผิดรึป่าว ไม่แปลกใจที่โดนหนี้นอกระบบหลอกดอกต่ำกว่า 2 บาท (แต่โดนแบบรายวัน)

จริงๆหลักดอกเบี้ยทั่วไป กับ ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มันก็ชัดเจนอยู่นะครับ อยากผ่อนระยะยาวแล้วดอก Fix เหมือนรถ ไม่ต้องเอา 30 ปีหรอก แค่ 5 ปีเหมือนรถ จะซื้อบ้าน 13,000,000 ก็ต้องผ่อน 280,000 ต่อเดือนเลยนะ

ดอกเบี้ยรถต่อให้มีเงินก้อนมาจ่ายในอนาคตก็ไม่ทำให้ดอกหายไปนะ การออกดอกเบี้ยลดต้นลดดอกนี่สมเหตุผลกับการซื้อบ้านมาก เพียงแต่ระยะเวลาดอกเบี้ยต่ำมันอยู่แค่ 3-4 ปี ตามเงื่อนไข

ตาสีตาสา ไม่เข้าใจการรีไฟแนนซ์ก็โดนไป คนมารับภาระต่อไม่เข้าใจเงื่อนไขก็โดนไป คนเราอยากได้บ้านถูกปลูกฝังให้มีบ้าน เช่าแล้วมันไม่เทห์ มีแค่คอนโดมันไม่คูล มันก็ต้องรับกันไป

มีคอมเม้นนึงตอบว่า “ถ้าอยากผ่อนถูกก็ดาวน์ 50% ขึ้นไปไง” ก็จริงอะ อันนี้ธนาคารเคยหารือนำไปปรับเป็นเงื่อนไขการดาวน์ แต่ก็ล้มไป อย่าว่าแต่ 50% เลย แค่ 30% ก็ดิ้นกันแล้วว่าเยอะไป ฉันจะเอา 100% บางคนเอา 105-110 แล้วไปเสียส่วนเกินเป็นสินเชื่อบุคคลอีก

ถ้าจะแก้ ผมว่ามาหารือการขยายระยะเวลาดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำให้เพิ่มจำนวนปีน่าจะตรงจุดกว่าการ

ถ้าให้ดีซื้อบ้าน10บล้าน ควรมี asset 5 ล้าน อาจจะเปนเงินสด หุ้น ทอง อะไรก็ได้ที่สไาพคล่องสูงๆ
เชื่อผมเถอะผมใช้วิธีนี้มาตลอดไม่เคยแพ้

จ่ายต้น+ดอกเบี้ย 33 ล้าน

แต่ราคาที่ดิน+บ้าน ตอนผ่อนจบไป 50-60 ล้านแล้วนะพี่

จะผ่อนเกินยอดต่องวดก็ได้นะไปตัดต้นเพิ่มเหมือนกัน แต่ต้องไปคำนวณดูก่อนว่า
เทียบกับเก็บเงินแล้วรีไฟแนนซ์แบบไหนคุ้มกว่า

อันนี้ต้องโทษคนกู้ด้วยเปล่า สัญญามันระบุชัดเจนเลยนะ สงสัยว่าทำไมไม่ไป retention หรือ refinance ละคือซื้อบ้านระดับ 13 ล้านเนี่ย ต้องมีฐานะพอสมควรนะ ทำไมไม่โปะหว่า หรือ ซื้อแบบตึงเลย นี่ยิ่งหนักเลยนะ

ได้สิครับ คิดง่ายๆ กรณีดาวน์ 0 บาท รถกับบ้านราคา 3 ล้านเท่ากัน ดอกที่ 2 เปอร์เซ็น บ้านผ่อนเดือนละ 15000-20000 แต่รถผ่อนเดือนละ 55000

ปล. ดอกบ้านกับรถคนละแบบกันนะครับ อันนี้คิดเอาแบบง่ายๆ

รัฐบาลจะไปช่วยอะไรได้อะครับ ........ กนง ไม่ได้ขึ้นตรงกับรัฐบาลนะ (Edit นิดนึง .... ในประเทศที่เจริญๆแล้วนะ)

Monetary policy ไม่ใช่เครื่องมือของรัฐบาลสักหน่อย

สุดท้าย พี่คิดว่า 33 ล้านนั้น ณ วันสุดท้ายที่ผ่อนหมด ราคามัน 12m เท่าเดิมหรือเปล่า และ ตลอดระยะเวลาที่ไม่ต้องซื้อบ้านนี่ เสียค่าเช่าไปเท่าไร (สุดท้าย อาจจะคุ้ม/ไม่คุ้มก็ได้)

กลับมาที่การปรับอัตราดอกเบี้ย มันก็ปรับขึ้นทั้ง 2 ฝั่งอะ เอาแบบแฟร์ๆ เงินฝาก 1 ก้อน Bank อาจจะ ปล่อยได้มากกว่านั้น ซึ่ง Bank ต้องไปคุมความเสี่ยงเอาเอง ทำไม่ดีก็เจอ Bank run

แต่ถามว่าเหมาะสมไหม ผมก็ไม่รู้หรอกว่าตรงไหนที่เหมาะสม ผมว่าถ้ามันเป็นตลาดเสรีจริงๆ(ซึ่งจริงๆมันก็มีกฏแหละมั่งผมว่า) คนไปยื่นก็ต้องทำการบ้านเอาที่มันถูกสุดไหมอะ แต่ถ้าทั้งตลาดดอกมันประมาณนี้กันหมด......อาจจะต้องมาดูศักยภาพตัวเองละมั่งว่าไหวหรือเปล่า

อันนี้ถามจริงๆ มันขึ้นขนาดนั้นเลยหรอ บ้าน10ล้านผ่านไป30ปี มันขึ้นไป50-60ล้านเลยหรอ

รู้หรือเปล่า มีหน่วงงานหนึ่ง ที่ไม่มีใครกล้าแตะคือ แบงค์ชาติ คนทำงานแบงค์ใครก็รู้

ไม่มีผลประโยชน์ให้ใครทั้งนั้น มีแต่ของตัวเอง แต่ดอกเบี้ยบ้านนี่เอาเรื่องจริง

ของผมเหลือผ่อนยอด 3 ล้าน 30% จากราคาบ้าน ตอนนี้จ่าย 14000 ดอก 11900

เงินต้น 2100