เหตุผลหนึ่งที่ทำไมมีคนญี่ปุ่นในบราซิลและความเชื่อมโยงกับฟุตบอล
#ญี่ปุ่นในบราซิล หรือ #บราซิลในญี่ปุ่น
ถ้าเรานึกถึงนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก หรือ คนชาติใดที่มีอาชีพ แลกฝีเท้ากับค่าตอบแทน โดยการค้าแข้งอยู่ทั่วทุกมุมโลก หลายๆคนคงนึกออกว่าเป็น ประเทศนั้น คือ บราซิล
.
เช่นกันนักฟุตบอลชาวบราซิลก็เดินทางมาค้าแข้งในปรเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกันตามปกติ แต่มันอาจมีแง่มุมให้เราเจาะลึกลงมากกว้าที่คิด สิ่งนั้น คือ ความเกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์ในเรื่องของการอนุญาตให้ย้ายถิ่นฐานสำหรับชาวญี่ปุ่น ให้สามารถอพยพและตั้งรกรากได้ในประเทศบราซิล
.
แต่ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 19 ต้นศตวรรษที่ 20 แต่ไหนแต่ไร สินค้าอย่างกาแฟเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศบราซิลมาเนิ่นนาน โดยมีชาวแอฟริกันเป็นแรงงานหลักใน "ฐานะทาสสำหรับการเพาะปลูกกาแฟ"
.
แต่ช่วงปี 1850 ได้มีคำสั่งในการยุติการค้าทาสในบราซิล ทำให้แรงงานทาสสำหรับเกษตรกรรมเกิดการขาดแคลน ส่งผลให้ชาวบราซิลต้องแก้ปัญหาโดยการดึงดูดชาวยุโรปเข้ามาเป็นผู้เพาะปลูกกาแฟแทน
.
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลบราซิลที่ต้องการกำจัดคนผิวสี ชนพื้นเมืองบางส่วน หรือ ชาวแอฟริกันออกไป
.
ต่อมาเกิดสภาวะขาดแคลนแรงงานทาสในงานเกษตรกรรมและโดยเฉพาะหลักอย่างไร่กาแฟ รัฐบาลและเกษตรกรจึงเสนอ "การจ่ายค่าผ่านแดนให้กับผู้อพยพชาวยุโรป" แผนดังกล่าวลุล่วงโดยเกิดการอพยพของชาวยุโรปหลายล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาลี
.
อย่างไรก็ตาม ผู้อพยพจากยุโรปที่มารับจ้างทำงานเกษตรกรรมนั้น ไม่ได้รับผลตอบแทนไปตามที่คาด ได้รายได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นและมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ย่ำแย่ รวมถึงมีชั่วโมงการทำงานที่ค่อนข้างยาวนาน ส่งผลให้ในปี 1902 ประเทศอิตาลีจึงออกกฎหมายในการห้ามชาวอิตาเลี่ยนอพยพย้ายถิ่นมาที่ประเทศบราซิลอีกต่อไป
.
#โอกาสของชาวตะวันออกไกลในดินแดนกาแฟ
ในอีกด้านนึง ประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้นได้ถึงจุดสิ้นจุดระบบศักดินา ก่อให้เกิดภาวะยากจนอย่างมากสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่านชนบท แต่กลับกันใน ในช่วงระหว่างปี 1920 - 1930 จำนวนประชากรชาวญี่ปุ่นกลับมีจำนวนเพิ่มเป็นอย่างมาก
.
ผู้คนบางส่วนจึงเริ่มคิดวางแผนสำหรับการอพยพเพื่อค้นหาสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ในภาคปฏิบัติการอพยพย้ายถิ่นฐานกลับไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องด้วยประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียได้ออกนโยบายที่ห้ามไม่ให้เกิดการอพยพเข้าในประเทศของตัวเอง
.
แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 1907 รัฐบาลบราซิลและญี่ปุ่น ร่วมลงนามใน "สนธิสัญญาอนุญาตให้ชาวญี่ปุ่นอพยพไปยังบราซิล" เหตุเนื่องจากว่าแรงงานไร่กาแฟที่เดิมที่แล้วเป็นชาวอิตาเลี่ยนมีจำนวนลดน้อยลงอย่างมีนัยยะและเกิดภาวะขาดแคลนแรงงาน
.
ทำให้บราซิลต้องการที่จะเพิ่มจำนวนแรงงานในส่วนนี้จึงมีพูดคุยกับประเทศญี่ปุ่น ในที่สุดแล้วชาวญี่ปุ่นจำนวน 781 คน (ส่วนมากแล้วเป็นเกษตรกร) และกว่าครึ่งเป็นชาวโอกินาว่า ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นซึ่งลักษณะภูมิศาสตร์เป็นเกาะทางตอนใต้ของประเทศ
.
ชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรกได้เดินทางข้ามไปยิงดินแดนมาประเทศบราซิล โดยการล่องเรือจากท่าเรือเมืองโกเบล่องเรือไปในมหาสมุทรอินเดียผ่านแหลมกู๊ดโฮปที่ประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนมาถึงจุดหมายถึง "เมืองเซา เปาโล" เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล
.
ในช่วง 7 ปีแรก มีครอบครัวชาวญี่ปุ่นอพยพข้ามมาที่บราซิลทั้งหมด 3,434 ครอบครัว (14,983 คน) อีกหนึ่งสาเหตุของการอพยพ คือ จุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในปี 1914 ทำให้ชาวญี่ปุ่นอพยพไปยังบราซิลเป็นจำนวนมาก ซึ่งระหว่างปี 1917 ถึง 1940 มีบันทึกว่า ชาวญี่ปุ่นกว่า 164,000 คนมาย้ายถิ่นฐานมาที่บราซิล และ 3 ใน 4 ของพวกเขาอยู่ที่เซาเปาโล
.
#นักบอลบราซิลสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น
หลังจากมีการมาตั้งรกรากกันในบราซิล เจเนอเรชั่นใหม่ ก็เกิดขึ้นรุ่นที่ 2 และ รุ่นที่ 3 จนเกิดลูกครึ่ง "บราซิล-ญี่ปุ่น" คือ รูปพรรณสัณฐาน เหมือนคนญี่ปุ่น แต่ว่าเกิดในบราซิล
.
นักเตะบราซิลสัญชาติญี่ปุ่นคนแรกในญี่ปุ่นที่มีการบันทึกไว้ คือ "เนลสัน ไดชิโร โยชิมูระ" ซึ่งมาเล่นให้กับยันม่าร์ ดีเซล (ปัจจุบัน คือ เซเรโซ่ โอซาก้า) ในช่วงปี 1967 - 1980
.
เขาเกิดที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล แต่ในฐานะหนึ่งในคนญี่ปุ่นที่เกิดในประเทศบราซิลและเดินทางกลับมาค้าแข้งให้กับ "ยันม่าร์ ดีเซล" ไปกว่า 190 นัด รวมถึงก้าวขึ้นไปติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ได้อีกด้วย
.
แต่ถ้านับว่าคนบราซิลเชื้อสายญี่ปุ่นที่เคยค้าแข้งในบราซิลมาก่อนแล้วย้ายมาเล่นในญี่ปุ่นคนแรก คือ "เซร์จิโอ เอจิโกะ" เข้าได้ย้ายมาร่วมทีม "โทวะ เอสเตท เดเวลลอปเมนท์ เอสซี" (ปัจจุบันคือ โชนัน เบลมาเร่)
.
"เซร์จิโอ เอจิโกะ" เคยเล่นให้ทีมดังอย่าง "โครินเธี่ยนส์" และอีกหลายทีมในประเทศบราซิล
.
คนต่อมา คือ "รุย รามอส" ตำนานของ "เวอร์ดี้ คาวาซากิ" เขาถือหนึ่งในผู้เล่นต่างชาติคนแรกๆในวงการฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม สโมสร โยมิอุริ ซึ่งต่อมา คือ "เวอร์ดี้ คาวาซากิ"
.
"รุย รามอส" เป็นบราซิลเลี่ยนแท้ๆ ที่ได้รับสัญชาติญี่ปุ่นและถูกเรียกให้ติดทีมชาติญี่ปุ่นในช่วงปี 1990 หลังเลิกเล่น เขารับทั้งงานโค้ชและงานที่เกี่ยวข้องฟุตบอลในวงการโทรทัศน์
.
#บราซิลเลี่ยนในเจลีกปัจจุบัน
ฤดูกาล 2023 มีนักฟุตบอลชาวบราซิลลงทะเบียนเล่นโควต้าต่างชาติ เฉพาะในเจลีก 1 กว่า 40 คน เป็นชาติที่มีผู้เล่นลงทะเบียนมากที่สุดในโควต้าต่างชาติ
.
"แอนเดอร์สัน โลเปซ" กับ มารินอส ที่ปีนี้ยิงไปแล้ว 9 ประตู
"ดักลาก วิเอร่า" กับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า
"ลีโอ เซียร่า" กับ เซเรโซ่ โอซาก้า
.
นักฟุตบอลชาวบราซิล
ยังมีผลงานเป็นถือยอมรับเรื่อยมาสำหรับฝีเท้าและความเก่งกาจทั้งในเวทีโลกและสำหรับ "เจลีก"
.
#เจลีกโดยสังเขป