คือผมทำประกันสุขภาพไว้เมื่อปีที่แล้ว พอดีทำกับตัวแทนที่เป็นแฟนของเพื่อนไว้ น้องเขาก็ให้ทำประกันหลัก 1 ตัว แล้ว + ประกันสุขภาพ (จ่ายทิ้ง) 500 + 1,500 ก็ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน แต่จ่ายเป็นรายปีคือ 24k

ทีนี้มันก็วนมาครบ 1 ปีที่จะต้องถึงรอบจ่ายรายปี ผมรู้สึกเสียดายเงินก้อนนี้ก็เลยไม่อยากทำต่อ เพราะความเสี่ยงสุขภาพตัวเองต่ำด้วยและพอทำไปก็รู้สึกว่าไว้ค่อยไปทำตอนสักอายุ 40 ก็ได้ ก็เลยโทรไปคุยกับตัวแทน

ทีนี้ตัวแทนก็กล่อม (ตามสเต็ป) ว่าเออมันจำเป็นนะพี่นู้นนี่ ผมก็แบบยืนยันว่าจะยกเลิก ก็อ้างไปว่าอยากไปทำประกันตัวอื่นแทนที่มันไม่ได้จ่ายทิ้ง เช่น ประกันออมทรัพย์

ประเด็นคือน้องมันให้เหตุผลที่ผมฟังแล้วจะใจอ่อนตาม คือน้องมันบอกว่าเขาจะเหมือนเสียเครดิตถ้าขายประกันได้แล้วแต่ได้แค่ปีเดียว เหมือนดัชนีการขายอะไรเขาจะเสีย (น้องมันเป็นตัวแทนระดับ MDRT ด้วย)

ทีนี้ผมก็ลองไปถามตัวแทนคนอื่นดูว่ามันมีเสียเครดิตตรงนี้ด้วยหรอ แต่หลายคนก็บอกว่ามันไม่เสียตรงนี้ มันเสียแค่เขาก็อดคอมที่ขายได้

ก็เลยอยากถามเพื่อนๆ SS ที่เป็นหรือเคยเป็นตัวแทนขายประกันว่ามันมีแบบนี้ด้วยหรอ

ปล. ตอนนี้ผมยังไม่ได้จ่ายรายปีไป กำลังตัดสินใจอยู่

ถ้าจำไม่ผิด คล้ายๆพวก เปอร์เซ็นต์ต่อปี ที่จะได้อ่ะครับ มันหายไป

สำหรับเขาคนทำคุณวุฒิ ตัวเลขก็จะลดลง

ถ้าลูกค้าอยากยกเลิก ผมก็บอกปกติ ทำตอนนี้ กับ 40 เบี้ยไม่เท่ากันนะ

เผลอๆ ไม่ได้กำไรด้วย ถ้ายกเลิกตอนนี้ แต่ไม่ค้านอะไรถ้าจะปิดเล่ม

อันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับที่ถามเท่าไหร่ครับ แต่ ถ้าเป็นผม ถ้าจ่ายไหวก็จ่ายไปก็ดีครับ เคสผม ก็ไม่เคยทำประกันสุขภาพเหมือนกัน โดยคิดว่าเดี่ยวรออายุมากกกว่านี้ค่อยทำ คิดว่าตัวเองแข็งแรงดี ไม่กินเหล้า สูบบูหรี่ ออกกำลังกายเป็นประจำ แล้วยังมี รพ รัฐ ใกล้ๆ บ้าน แต่เมื่อปีที่แล้ว ผมไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด อยู่ๆ ก็ปวดท้อง ปวดรุนแรง จนต้องส่ง รพ ประจำอำเภอ ตอน เที่ยงคืน หมอที่อยุ่เวร รพ ก็ทำอะไรไม่ถูก ต้องโทรปรึกษา หมอที่อื่น แล้วก็วินิฉัยว่า ลมในท้องเยอะหรือ ลำไส้ตัน แล้วให้พยาบาาลต่อท่อ ลงไปในกระเพาะอาหาร สวนก้น อะไรก็แล้ว ผมก็นอนปวดแบบทรมานสุดๆ มองไปที่หมอ หมอยังงงอยู่ว่าผมเป็นอะไร ก็โทรปรึกษาหมอคนอื่น ตอนตีสอง หมอบางคนก็ไม่รับสาย ผมได้ยินแม่ผมถามว่าส่งไป รพ ประจำจังหวัดได้ไหม พยาบาลบอกว่า ต้องทำเรื่องส่ง พรุ่งนี้ แล้วรอให้รถ พยาบาลที่รพ ประจำจังหวัดมารับ ทั้งๆที่ มีรถรพจอดอยู่ แล้วคือผมปวดแบบทรมานสุดๆ แล้ว จะให้รออีก 1 วัน แค่ 1 นาทีก้เหมือนจะตายแล้ว จนแม่ผมตัดสินใจขอย้ายไป รพ เอกชน ในเมือง ทีแรก พยาบาลจะไม่ยอมอีก ผมต้องขอร้องว่าผมไม่ไหวแล้ว ขอให้ฉีดยาแก้ปวดให้ ทั้งๆ ที่ควรจะฉีดให้ผมตั่งแต่แรก ผมไปถึง รพ เอกชน ตี 4 เข้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลฉีดยาให้ผมหลับ ตอนเช้า mri สรุปว่าเป็น นิ่วที่ ท่อไต หมดค่ารักษาไป 80,000 พอหายดี ผมก้ทำประกันเลย แต่บริษัทประกัน ยกเว้นคุ้มครองเรื่อง ระบบทางเดินปัสสาวะไปแล้ว ถ้ารู้งี้ผมทำแต่ตั้งแรกแล้ว

มันคือค่า Persistency ครับ ตัวแทนจะเรียกว่าค่า Per

ค่าเปอร์ จะลดจากการโดน "เบี้ยว" ไม่จ่ายเงินให้ครบกรมธรรม์

จะเพิ่มตาม การเก็บเงินต่ออายุกรรมธรรม์


ถ้าท่านกลัวว่าน้องจะเสีย เปอร์ ท่านคงต้องจ่ายจนเสียชีวิตอะ เพราะประกันหลัก ปกติจบตอนโน่น 80+

ถ้าคนดีก็ยอมจ่ายแต่ประกันหลักได้ครับ ตัวประกันสุขภาพ เป็นสัญญารอง หมดอายุ ปีต่อปี
คือไม่ต่อก็ปล่อยขาดไปได้เลยเหลือแค่สัญญาหลักอย่างเดียวได้


แต่ถ้าตอบแบบจริงจัง ไม่เกี่ยวกับค่าเปอร์ครับ

ค่าคอม ปีที่ 2 ยังได้อยู่ 7-8% จากยอด แล้วพอขึ้นปีที่สามเหลือ 1% ครับ ท่านยกเลิกสัญญาสุขภาพตอนนั้นน้องเค้าน่าจะดีใจด้วยซ้ำ

ถึงว่าน้องมันขอให้ต่ออีกปีนึง ปีต่อไปค่อยเปลี่ยนอะไรได้หมด กระจ่างเลย ขอบคุณครับ

ของผมนี่ก็ไม่เคยป่วย ไม่เคยเป็นอะไรที่หนักกว่าไข้หวัดเลย

แต่ประมาณว่าแฟนเข้า รพ บ่อย ละคือเค้าทำประกันไว้ เข้า รพ เอกชน อะไรๆก็สะดวก

ก็เลยทำตามแฟนไป หลังจากทำไม่นาน ประมาณ 3-4 เดือน ผมเกิดอุบัติเหตุ นิ้วหัก ต้องผ่ามือ+ใส่เหล็ก สรุปเข้าเอกชน เบิกไป 16x,xxx คล่องไปเลยครับ

ถ้าไม่ทำประกัน ละเข้า รพ รัฐ ลำบากแน่นอน

ปล.ถ้าใครไม่ติดขัดอะไร ประกันทำไว้เถอะครับ อย่ารอให้เกิดเหตุก่อนเลย

ตอบความสงสัยของจขกท.นะครับ
มันมีครับ อย่างที่ตัวแทนท่านบอกมา แต่จริงๆ มันเรียกค่าอัตราความยั่งยืน
ซึ่งผมคิดว่าอันนี้น่าจะมีแทบทุกแบรนด์เลยครับ ไม่ใช่แค่ AIA
มันคือค่าตัวชี้วัดว่าเราขายประกันไปแล้ว
มีการให้บริการลูกค้า แล้วสามารถดูแลให้ลูกค้าจ่ายเบี้ยต่อๆ ไปได้หรือเปล่า
อันนี้อธิบายแบบง่ายๆ วิธีการคำนวณมันซับซ้อนกว่านั้น

เหตุผลที่มันมีแบบนี้ก็เพื่อ
1. ไม่ให้ตัวแทนทิ้งงาน ดูแลลูกค้าต่อเนื่อง
2. ให้ตัวลูกค้าเองไม่เสียผลประโยชน์ด้วย เพราะบางคนทำประกันแล้วทิ้ง ก็เสียโอกาส เสียประโยชน์

ซึ่งถ้าสมมติตัวแทนคนหนึ่งขายประกันไปปีแรก แล้วปีต่อไป ลูกค้าไม่ต่อประกัน ไม่ทำต่อเยอะๆ
ค่านี้มันก็จะลดน้อยลง มีผลต่อผลตอบแทนหรือโบนัสต่างๆ หรือค่า career path อะไรก็ตามที่บริษัทจะให้ตอบแทนตัวแทนครับ

เรียกว่ามีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ถึงขนาดจะเป็นจะตายครับ

ปล.ส่วนเรื่องแนวคิดจะไปทำประกันสุขภาพตอน 40 อันนี้ต่างคนต่างคิดครับ
แต่ในความเป็นจริง คือมีหลายคนคิดว่าจะไปทำประกันสุขภาพตอนอายุเยอะแล้ว
แต่พอถึงวันนั้นจริงๆ ปรากฎว่าทำไม่ได้ เพราะเริ่มตรวจเจอว่าป่วยนั่นป่วยนี่ไปแล้ว
บางคนก็โดนยกเว้นไม่คุ้มครองโรคนั้นโรคนี้
จริงๆ หลักของประกันสุขภาพคือ การวางแผนทางการเงินอย่างหนึ่ง
ถ้าจ่ายได้ไม่ลำบาก แนะนำให้ทำ
แต่ถ้าจ่ายไม่ไหวจริงๆ ไปใช้บัตรทองเอา
ถ้าจ่ายไหว ตัดสินใจทำแล้ว อย่าไปคิดว่าทำแล้วไม่เห็นป่วย เสียดายเงินเลยครับ
ทุกวันนี้เราเห็นข่าวคนหนุ่มสาว อยู่ๆ ป่วย อยู่ๆ เป็นมะเร็ง ทั้งที่แข็งแรงดีอยู่แล้วเยอะแยะครับ
ภายในร่างกายเรามองไม่เห็น ไม่รู้มีอะไรอยู่บ้าง

ตัวที่เสียไปเรียกว่า ลิมร่า (Limra) ครับ

หรืออัตราความยั่งยืนครับ มีผลต่อโบนัส หรือ เกณฑ์การจัดอะไรต่างๆ ของตัวแทนฯ ครับ

เป็นตัวแทน MDRT ทำไมไม่เสนอแบบที่ดีกับลูกค้า จริงๆ ตัวควบการลงทุนมันไม่เสียเบี้ยเปล่าเพราะส่วนที่เหลือเอไปลงทุน ถ้าเขาเป็น MDRT น่าจะแนะนำได้ดีกว่านี้ เป็นผมถ้าไม่ทำเบี้ยสุขภาพก็บอกเหตุผลไม่ใช่บอกเสียค่า อัตรความยั่งยืน อันนี้เหมือนมัดมือชกคนจ่าย แต่มีประกันดีกว่าไม่มีคับ

ใช่เลยครับ ถ้าใครไม่ติดขัดอะไร ก็ควรทำไว้ก่อนที่จะเป็นอะไร อย่ารอให้เป็นแล้วทำแบบผมเราจะได้ไม่เสียผลประโยชน์

เรื่องเสียเครดิตนี่เสียจริงครับแต่ผมว่าไม่มีผลไรต่อตัวแทนมากหรอกครับ

แต่ขอตอบเรื่องที่คิดว่าจะไปทำตอนอายุ40ละกันครับ ว่าเป็นความคิดที่แย่มากครับแปลว่าคุณไม่ได้รักตัวเองเลยถ้าคุณสามารถจ่ายได้ก็จ่ายเถอะครับถ้าแค่ 24K/ปี ถือว่าถูกมากครับแต่ไม่รู้ว่าผลประโยชน์ดีแค่ไหน ตัวผมปีนี้อายุ30ปี ปกติมีประกันสุขภาพมาตลอดเพราะแม่ทำไว้ให้แล้ววงเงินสูงมากด้วย แต่พอเรียนจบทำงานแม่ก็ยื่นใบเสร็จมาว่าต่อไปนี้จ่ายเองนะแล้วห้ามยกเลิกด้วย ผมจ่ายเองทุกปีและบ่นทุกปีเพราะคิดแบบคุณแหละครับอยู่มา 28 ปีไม่เคยป่วยจะเสียตังฟรีไปทำไม แต่เมื่อปลายปีที่แล้วผมเพิ่งป่วยหนักติดกัน 3 เดือนติดเลย เดือนแรก1ลำไส้ใหญ่มีปัญหาส่องกล้อง เคลมไป 60K เดือน2ไส้ติ่งอักเสบผ่าตัดเคลมไป 300K เดือน3เป็นโควิดนอน รพ เคลมไป 40K นี่แค่ป่วยปีเดียวผมเคลมไปแล้วประมา 400K ประกันตัวนี้แม่ผมจ่ายไป5ปีผม5ปี ตีเป็นประมาณปีละ 27K รวม10ปีแค่ 270K เอง แต่ผมป่วยปีเดียวก็กำไรแล้ว นี่ยังไม่รวมค่าชดเชยที่ผมได้จากการนอนโรงพยาบาลมาอีกประมาณแสนนึงนะ พวกประกันมันไม่คุ้มตอนจ่ายหรอกครับแต่ถ้าป่วยขึ้นมาสักครั้งนึงอะคุ้มแน่นอน

ถือซะว่าผมเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังนะครับไม่ได้บังคับให้ทำเพราะผมไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าประกันรถคุณยังทำก็ทำประกันของตัวเองไว้เถอะครับอย่าเห็นสิ่งของสำคัญกว่าชีวิตตัวเองเลย เพราะถ้าคุณคิดจะทำตอนอายุ40 แต่ในระหว่างนั้นถ้าเกิดคุณป่วยสักครั้งขึ้นมามันก็อาจจะทำประกันไม่ได้อีกเลยนะครับ