[RE: การรับอุปการะบุตรบุญธรรม ควรเลือกเด็กได้หรือไม่]
ไม่อยากกินต้มไก่ พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
จริงๆก็ควรเลือกได้
แต่เค้าคงไม่อยากให้มันเกิดกรณีที่มีคนถูกทิ้งไว้ เพราะอะไรของเด็กไม่ถูกใจผู้อุปการะอ่ะครับ
สมมติมีเด็กต่อคิว 10 คน แล้วคนอื่นๆถูกอุปการะออกไปหมด แล้วเหลือคนเดียว ที่มากี่คนๆก็ไม่เอา อาจจะด้วยเรื่องง่ายๆอย่างภาพลักษณ์ภายนอกเลยก็ได้ แล้วเด็กคนนี้จะเป็นยังไงต่อ ความรู้สึกของเด็กคนนี้จะเป็นยังไง
คงประมาณนี้แหละครับ ส่วนเรื่องอื่นๆพอไปอยู่ด้วยกัน เค้าก็ต้องปรับตัวเข้าหาเด็กด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ถูกชะตา แล้วจะไม่เอาเลย
จะให้มานั่งทดลอง แล้วถูกใจค่อยรับ ไม่ถูกใจส่งคืน มันคงจะไม่ได้ จิตใจเด็กจะรับได้แค่ไหนกัน
รับเด็กมาเลี้ยง ไม่ต่างจากการเลี้ยงลูกที่คลอด ออกมาหรอก เราเลือกเด็กที่จะมาเกิดเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าเค้าจะเป็นยังไง เป็ฯความรับผิดชอบของคนรับเลย
แต่ที่คลอดออกมา อย่างน้อย ก็หน้าเหมือนเรา หรือแฟนเรา ที่เราเลือกแล้วนะครับ
แต่ถ้าไปรับเลี้ยงมา เหมือนสุ่มมาเลย ถ้าไม่ถูกชะตา แล้วจะเลี้ยงเค้ายังไงหรอครับ
เพราะต้องส่งเสีย ต้องอยู่ด้วยกัน 20 ปี+
เลยนะครับ
สมมุติเป็นผมนะครับ
ผมคิดว่า มีครอบครัวหลายๆครอบครัวติดตรงนี้ ที่ไม่สามารถเห็นเด็กได้ก่อนที่จะรับมาเลี้ยง
ไม่งั้นอาจจะมีหลายคนที่พร้อมจะรับน้องๆมาเลี้ยง
อย่างน้อย คนที่ถูกเลือกก็มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าตอนอยู่มูลนิธินะครับ
ลองสมมุติว่า ถ้าสามารถเลือกน้องได้
สมมุติมีน้องซัก 100 คน แล้วมีครอบครัวที่มาดูน้อง พาน้องกลับไปได้ 50 ครอบครัว
กับอีกสถานการณ์คือ
มีน้อง 100 คน แต่ด้วยความที่พ่อแม่ไม่สามารถเห็นหน้าน้องก่อนรับมาเลี้ยง
แล้วมีครอบครัวที่รับตรงนี้ได้แค่ 10 ครอบครัว เหลือที่มูลนิธี 90 คน
ท่านคิดว่าแบบไหนดีกว่ากันครับ
แบบเลือกได้ย่อมดีกว่าอยู่แล้วครับ ดีสำหรับครอบครัวผู้รับอุปถัมภ์ แล้วก็ตัวน้องๆ ที่โดนเลือกด้วย
อย่างเคสที่คุณยกมา ถ้าเลือกไม่ได้ เด็ก 100 คน คนรับได้มีแค่ 10 ครอบครัว เหลืออีก 90 คน ทำยังไงต่อ
เค้าก็หาคนอุปการะกันต่อไป เรื่อยๆครับ ไม่ใช่ว่าจะต้องโยนทิ้งทันทีครับ
ผมไม่ได้จะบอกว่าไม่ควรให้เลือกนะครับ ผมบอกแล้วว่าถ้าเลือกได้ก็อาจจะดีกว่า
แต่มุมมองปัจจุบัน ผมคิดว่าเคสการรับเด็กอุปการะ (ที่ไม่ใช่ญาติ หรือเกี่ยวพันทางสายเลือด)
คงไม่เยอะถึงขนาดนั้น ในแต่ละปี (เดาก่อนว่าไม่ถึง 100 ด้วยซ้ำ ในแต่ละปี)
ฉะนั้น ถ้าให้เลือก คนที่ไม่ถูกเลือกก็จะไม่มีโอกาสถูกเลือกตลอดไป จนวันที่เค้าออกจากสถานสงเคราะห์แหละครับ
นี่แหละที่ผมจะสื่อ ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยนะฮะ 55