เข้าใจความกัฃวลของแดดดี้ศิธา แต่ Mou advance ต่อให้เซ็นก็ฉีกได้ ถ้าพลิกขั้วจริงๆ สังคมจะตัดสินเอง

ถ้าก้าวไกลไม่ได้เป็นนายก แล้วหวงก้างไม่ยอมให้เพื่อไทยลองตั้ง แล้วจะลากเขาไปเป็นฝ่ายค้านด้วย ผมว่าถ้าก้าวไกลมีความคิดแบบนี้มันทุเรศมากนะ ซึ่งผมก็คิดว่าก้าวไกลคงไม่มีความคิดแบบนี้หรือแม้แต่พรรคที่ร่วมงานกันคงไม่มีพรรคไหนคิดแบบนี้

เพื่อไทยไม่ผิดนิครับใครบอกว่าผิด

ผมนึกว่าประชาธิปไตยที่ท่านว่ามายึดจากเสียงประชาชน ไม่ใช่เอาจากเสียง สว
เพราะถ้าไม่มี สว ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยเองก็ยอมให้พิธาเป็นนายกซะอีก
แล้วสรุปว่าประชาธิปไตย ควรยึดจากเสียงประชาชนหรือเสียงจาก สว ครับ

งั้นถามใหม่ทำไมเพื่อไทยถึงจะส่งแคนดิเดตนายกของพรรคไปสู้บ้างไม่ได้ในเมื่อแคนดิเดตนายกของก้าวไกลไม่ได้ ถ้ามันเป็นมติของพรรคร่วมในเวลานั้น


แล้วทำไมต้องเป็นฝ่ายค้านในเมื่อทั้ง2พรรคก็ย้ำมาตลอดว่าจะจับมือกันไปตลอดซึ่งมันไม่มีทางเป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว

เรากำลังพูดถึงประเด็นที่ศิธาถามนะครับ ว่าทำไมเค้าถึงถาม
และที่ท่านพูดมา ผมขอถามว่าถ้าเกิด สว ไม่เลือกพิธา แต่พอพรรคเพื่อไทยส่งชื่ออุ้งอิ้งแล้ว สว ดันเลือกอุ้งอิ้งแทนพิธา ท่านจะวิเคราะห์ยังไงดีครับ

ผมจะบอกว่า นักการเมืองหน้าฉากเวลาออกสื่อ เค้าจะพูดอะไรที่ควรพูดหรือ ความจริงบางอย่างเป็นภาพที่ดีทีสุดของพรรคเค้าครับ

จากประสบการณ์โดยตรงของผมที่ได้นั่งคุยนั่งฟังแบบบนโต๊ะแบบไม่มีกล้องไม่ไมค์อยู่ จากนักการเมืองระดับแกนนำ (ทั้งสายเพื่อไทย ปชป พปชร ผมเคยสัมผัสมาทุกสายแล้วยกเว้นก้าวไกล และ ทำให้ผมกาก้าวไกล 2 นี่แหละ) พวกนี้มีแผนกลยุทธไว้หลายชั้นทั้งแบบดี แบบเทา แบบดาร์คครับ รวมถึงที่ผมเคยบอกไว้ว่าไอ้พวกพรรคใหญ่เนี่ยก็แบ่งเป็นหลายก๊วน แต่ละก๊วนก็มองประโยชน์ของกลุ่มตัวเองเป็นหลักอีกเช่นกัน

ดังนั้นนอกจากก้าวไกลแล้วท่านอย่าปักใจเชื่อไปทุกอย่างที่เค้าพูดหรือแถลงครับ

เท่าที่เชื่อได้ตอนนี้คือ เพื่อไทยไม่ทำอะไรที่ทำลายตัวเอง รวมถึงไม่ผูกมัดตัวเอง อย่างที่ผมเคยบอกไว้ในมู้ที่แล้วว่า เค้าตามเกมไปเรื่อยๆก่อน แค่รอเวลาถ้าก้าวไกลพลาดหนักๆ ในตอนนั้นค่อยหาจังหวะว่าจะมีอะไรที่พลิกเกมได้ครับ

มารยาททางการเมือง คือพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ1 ได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ในทีนี้คือตอนนี้8พรรคเซ็นMOUร่วมกัน จะไปในแนวทางนี้คือโหวตคุณพิธาจากพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าโหวตครั้งแรกแล้วไม่ถึง376เสียง ก็คือต้องโหวตใหม่ครับ ซึ่งตามมารยาททางการเมือง ก็คือ พรรคอื่นก็ควรได้สิทธิ์เสนอชื่อบ้าง ฝั่งอนุทิน รทสชก็คงต้องเสนอบ้าง ทีนี้8พรรคที่เซ็นMOUร่วมกันก็คงต้องมาคุยกัน จะเอาไงกันต่อ จะยืนยันพิธาแบบเดิม หรือจะลองเปลี่ยนแผนดู เพื่อให้ไปต่อได้ ยังไงก็ต้องร่วมกันตัดสินใจใน8พรรค

ถึงเวลานั้นถ้าเพื่อไทยจะลองเสนอแคนดิเดตนายกของตัวเองบ้าง ผมว่าไม่น่าเกลียดนะ เป็นการทำตามมารยาทแล้ว ถ้าเกิดโหวตผ่าน ก็เดินหน้าสานต่อนโยบายตามMOUที่ลงนามกันไว้8พรรค ซึ่งถ้ายังผนึกกันแน่น8พรรคแบบนี้ ไม่มีทางเป็นฝ่ายค้านหรอกครับ

ก็เพื่อไทยยืนยันนิครับว่าจะสนับสนุนพอธาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมันก็ย้อนกลับไปหาคำถามของคุณศิธาไงครับ
แล้วทำไมถึงเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ครับขอเหตุผลหน่อยครับ

ที่ท่านพูดมานั้นละครับ ทำให้คุณศิธาถึงถามกับพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลเมื่อวานนี้ และจริงๆมันขัดกับเสียงของประชาชนที่เลือกมา
ถ้าไม่มี สว เป็นตัวแปร ปัญหา คำถามพวกนี้คงไม่เกิดขึ้นครับ ส่วนพวกเราก็ต้องรอดูต่อไปว่าเกมส์การเมืองจะเป็นแบบที่ทุกคนคิดหรือไม่

งง ครับ ก็ท่านบอกเองไม่ใช่หรือครับ ว่าต้องการคำยืนยันอย่างเดียวว่าต้องการให้เพื่อไทยยืนยันว่าคุณพิธาจะผ่านสว.หรือไม่ผ่าน สว.ทางพรรคเพื่อไทยก็ต้องไม่ส่งแคนดิเดตนายกแทนพรรคก้าวไกล อย่างนี้ไม่เรียกบังคับหรือครับ และเรื่องเสียงของประชาชน ในส่วนตัวผมมองว่า 24 ล้านเสียงของประชาชนที่ได้จาก2พรรค ผมว่าส่วนใหญ่เค้าต้องการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยและต้องการพ้นจากการกดขี่ข่มเหงกันนะครับ

สว.คนที่เลือกก้าวไกลยังไงก็เลือกเพื่อไทย แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่เลือกก้าวไกลแต่ยอมให้เพื่อไทย

ผมย้ำว่าพรรคร่วมมาตลอด หรือเสียงของพรรคร่วมตอนนี้ไม่มีความหมาย

152+141 มองตรงไหนก้ไม่มีฝ่ายค้าน สภานับแค่ สส500 ไอนายกเสียงข้างน้อยมันปัดตกไปนานแล้ว

หมอชลน่านต้อง #มีศิธาไม่มีกู แล้วมั้ง ตั้งแต่เวทีดีเบตมาเมื่อวาน หนักๆทั้งนั้น ยังดีเมื่อวานทิมเซฟหมอทัน

นั้นละครับ ถูกต้องตามที่ท่านพูดเลย แล้วสรุปคือการที่จะเป็นนายกคือต้องขึ้นอยู่กับประชาชน หรือ ขึ้นอยู่กับ สว ครับ