เสียงคนละเสียงเลยครับ ถ้าไปเจอบางเพลงที่เปลี่ยนจาก Fmaj แล้วไป Fmaj7

แล้วเกิดท่านไม่สามารถเล่นเปลี่ยนคอร์ดแบบนี้ได้ อารมณ์เพลงตรงนี้จะหายไปทันทีครับ

การเปลี่ยนคอร์ดแบบนี้พวกเพลงสไตล์แจ๊ส บลูส์ มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ครับ อย่างวง ETC

Tattoo colour ก็ใช้เยอะครับ


สำคัญคืออยู่ที่ท่านจะจริงจังกับการเล่นกีต้าร์แค่ไหนด้วยแหละ ถ้าเล่นแค่ขำๆ

ตีคอร์ดเพลินๆ ร้องเพลงตามวงเหล้า แค่นี้ถือว่าแทนกันได้ครับ

รายละเอียดไม่เหมือนกันก็ทำให้อารมณ์ไม่เหมือนกันครับ

เหมือนที่ด้านบนๆ บอกอะครับเปรียบเป็นทะเล เพลงอารมณ์สงบๆ เพิ่มโน๊ตมาละอารมณ์เปลี่ยนเป็นมีคลื่นพร้อมเสิร์ฟเลย

ถ้าท่านไม่คิดอะไรมาก มันก็คือได้มาทะเลเหมือนกันอะ แต่ถ้าต้องการอารมณ์ด้วยคือโคตรต่าง

Fmaj7 มันจับง่ายสุด ๆ เลยนะครับ

หาฟอร์มที่ท่านถนัดให้เจอเท่านั้น

FMaj7 ฟอร์มง่ายสุดนี้แทบจะเหมือนคอร์ด C เลยนะ

คนละฟีล แต่ผมก็ใช้แทนบ่อยนะ

ก็แล้วแต่ซาว์นที่เราอยากได้ด้วยแหละ

ถ้าเป็นแบบเกา ผมใช้แทนแทบตลอดนะ แต่ถ้าเป็นตีคอร์ดนี่ผมว่าเสียงมันไม่ได้อ่ะ

ความหมายของผมคือ ผมใช้เวลาหัดคอร์ด F แต่ยังต้อใช้เวลาอีกสักพักเลย ถ้าเอา Fmaj7 แทนไปพลางๆมันจะดูเพี้ยนๆรึปล่าว

ได้ และไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับบริบทของคอร์ดในตัวเพลง

ต้องย้อนไปอธิบายเรืองโครงสร้างคอร์ดก่อนฮะ คอร์ดคือกลุ่มของโน้ตที่เล่นออกมาพร้อมกัน โดยจะเริ่มจากโน้ต 3 ตัวหลักๆ ที่เรียกว่า triad คือโน้ตตัวที่ 1,3,5 ของสเกลจากคอร์ดนั้น อย่างเช่น C จะมี โดมีซอล (C,E,G) ของสเกล C major หรือ Am จะเป็น ลาโดมี (A,C,E) ของสเกล A minor กลุ่มโน้ตพวกนี้จะถือว่าเป็นรากฐานของคอร์ด

ทีนี้ คอร์ด maj7 จะเพิ่มส่วนขยาย ก็คือตัวที่ 7 ของสเกลนั้นมาในคอร์ดด้วย ถ้าเป็นคอร์ด Cmaj7 ก็จะเพิ่มตัว B เข้ามาในคอร์ด (C D E F G A B) ซึ่งพวกนี้จะเป็นฐานของส่วนต่อขยายไปคอร์ดแปลกๆ ที่มักจะเจอในเพลงแจ๊ส นีโอโซลเช่น maj9, maj11, maj11#9 อะไรก็ว่าไป

ทีนี้จะอธิบายว่าทำไมการเติม maj7 ถึงใช้ได้ และใช้ไม่ได้นะฮะ

เพลงส่วนใหญ่จะมีกลุ่มโน้ตชุดเดียวกัน ก็คือคีย์เพลง ซึ่งมีเพื่อคุม mood and tone ให้แข็งแรง (ก็ใช้โน้ตกลุ่มเดียวกันอะนะ) สมมติเพลงอยู่ในคีย์ C คอร์ดในเพลงนั้นก็มักจะประกอบด้วยโน้ต C D E F G A B เช่น C Am F G Dm เป็นต้น

ทีนี้ ถ้าเราอยากเล่นคอร์ด Fmaj7 (F A C E) ในเพลงคีย์ C ทำได้ไหม ทำได้ เพราะโน้ตทุกตัวของคอร์ดอยู่ในคีย์ สมมติว่าเราอยากได้กลิ่นของคอร์ดนี้ เอามาใส่ในเพลงคีย์ C จะรู้สึกไม่เขิน

แต่ๆๆๆ ถ้าเราอยากเล่นคอร์ด Fmaj7 ในเพลงคีย์ Bb (Bb มีโน้ตคือ Bb C D Eb F G A) จะทำได้ไหม

ลองกางโน้ตมาเทียบดู

Bb C D Eb F G A

C E F A

เห็นอะไรไหมครับ

โน้ตตัว maj7 ที่เราเติมเข้าไปมันไม่ตรงกับโน้ตที่มีในคีย์

และโน้ตที่ต่างกันนี่ดันต่างกันแค่ครึ่งเสียง (1 เฟร็ตกีตาร์)

ทางทฤษฏีดนตรี ถ้าเราเล่นโน้ตที่อยู่ห่างกันแค่นี้ จะเกิดสิ่งทีเรียกว่า dissonance หรือคู่เสียงที่กัดกัน

ซึ่งเพลงที่อยู่ในคีย์ Bb ทำนองส่วนใหญ่จะใช้โน้ตในสเกล Bb นั่นหมายความว่าถ้าเราเล่นคอร์ด Fmaj7 จะมีโอกาสสูงมากที่จะตีกับทำนอง เลยทำให้รู้สึกแปร่งๆ ไม่ค่อยเพราะ

ละเราจะใช้คอร์ด maj7 ได้ตอนไหนบ้าง

ถ้าเป็นเพลงป๊อปคอร์ดไม่ยาก มันมักจะเจอในคอร์ด 1 หรือ 4 ของคีย์นั้นๆ ครับ ถ้าเพลงคีย์ C ก้จะเป็น Cmaj7 กับ Fmaj7 ถึงจะเติมตัว maj7 มาแล้วไม่เขิน

สำหรับคอร์ด 5 หรือตระกูล minor ตัว extension จะเป็นโน้ตตัวที่ 7 ของสเกลนั้น แต่ถอยลงมาครึ่งเสียง (1 เฟร็ต) เรียกว่าตัว dominant 7 หรือคอร์ดที่เติมแค่เลข7 เฉยๆ เช่น G7 Am7 Dm7 ซึ่งตัวขยายนี่จะอยู่ในคีย์ของเพลงที่ใช้คอร์ดพวกนี้ฮะ ซึ่งจุดเด่นของพวกนี้คือเป็นคอร์ดที่ใช้ resolve เข้าหาอะไรบางอย่าง ลองสังเกตฟีลเวลาเล่นคอร์ด G7 ส่งเข้า C มันจะรู้สึกลื่นกว่า G เฉยๆ เข้า C

ส่วนวิธีการจับคอร์ด F แบบทาบน้อย ลองจับ Fmaj7 ฟอร์มแรกเฟร็ต 1 2 3 แล้วเอานิ้วชี้ทาบสายล่างสุดกีตาร์ด้วย ก็จะได้คอร์ด F แล้วครับ

ส่วนการจับคอร์ดทาบ เทคนิคคือไม่ต้องวางนิ้วทาบให้ติดสายทุกสาย วางให้เราเล่นสายที่ใช่นิ้วทาบออกเป็นโน้ตชัดๆ พอ ไอสายที่มีนี้วอื่นของมือซ้ายก็ปล่อยหลวมๆ ได้

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเล่นกีตาร์นะครับ

อ่าผมพิมพ์ผิดไปขออภัย หมายถึง F นั้นแหละฮะ

ไม่ได้
ถ้าอยากจะเล่นแบบนี้เวลาตีคอดก็ไม่ต้องให้มันโดนสาย1