[RE: เกมรุกเรือที่ไร้KDB คือห่วยแตกสิ้นดี]
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
FODEN47 พิมพ์ว่า:
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
Spoil
Inspiral พิมพ์ว่า:
โห นี่ขนาดทีมชนะ 3-0 นี่คือเกมรุกห่วยแตกสิ้นดีเลยหรอครับ
เกมเมือคืนเกมรอบรองนะครับ เล่นสนามกลางกับทีมดิวิชั่น1 จะคาดหวังให้ทีม dominate ดาหน้าบุกถล่มยับทุกนัดอย่างเดียว แล้วถ้าตัวหลักเจ็บขึ้นมาทำไงครับ เกมสำคัญๆ ก็มีรออยู่อีกตั้งหลายเกม
การเล่นเพลย์เซฟมันก็น่าจะเป็นแทคติกที่ดีแล้ว รูปเกมก็ครองเกมไว้ตลอดไม่ให้คู่แข่งได้มีโอกาสครองบอลก็ดีมากแล้ว ลองคิดสภาพถ้าทีมโดนตีเสมอ แล้วเจอเล่นรสบัส เพื่อประคองไปดวลจุดโทษ นั้นงานหยาบเลยนะครับ
ผมเห็นคุณอ่อนต่อโลกชอบวิจารณ์เกมซิตี้นัดไหนที่ไม่ได้ถล่มคู่แข่งยับเยิน คือแย่หมด ไม่คิดบ้างว่ามันเป็นแทคติกบ้างหรอครับ
เห็นชอบเรียกหาแต่นักเตะสร้างสรรค์ นักเตะเกมรุกดี
อย่างแบนาโด กรีลิช มาเรซ ที่โฮลบอลและไปกับบอลได้ดี คุณก็ไม่ชอบ บอกเขาเทพม้วน ไม่สร้างสรรค์ แต่การที่เขาเสียบอลยาก ครองบอลดี มันก็ทำให้คู่แข่งมีโอกาสตั้งเกมได้ลดลง ดูอย่างเมื่อคืนคู่แข่งต้องใช้ 2 คนประกบกรีลิช หรือมาเรซตลอด ทำให้คู่ต่อสู้เหลือตัวผู้เล่นในแนวรุกลดลง ประสิทธิภาพเกมโต้กลับก็แทบหายไปเลย
พูดง่ายๆก็คือ ทั้งสามตัวรุกที่ว่า ทำหน้าที่เป็นตัวรุกและตัวรับไปในตัวนั่นแหละ เป๊ปถึงชอบใช้นักเตะที่มีทักษะเอาตัวรอดสูง และเกมรับดีมากกว่าเกมรุกดี ถึงได้ปล่อยชินเซนโก้ คันเซโล่ที่ชอบเปิดเกมรุกเสี่ยงๆ แล้วเล่นเกมรับไม่ค่อยดีออกไป และดันอาเก้กับสโตนที่มีความแน่นอนในแนวรับมากกว่าขึ้นมาแทน
ใช่ จริงอยู่ว่าคีย์แมนเกมรุกคือ KDB และไม่มีใครในทีมมีวิชั่นและคิลเลอร์พาสความแม่นยำเท่าแก เวลา KDB อยู่ในสนามถึงแทบเป็นคนเดียวที่เป๊ปอนุญาติให้จ่ายเสี่ยงได้ตลอดเมื่อมีโอกาส และถ้าพลาดคือทั้งทีมจะช่วยกันเพรสกลับ
แต่ถ้าซิตี้เป็นทีมที่หวังพึ่ง KDB อย่างเดียว ถ้าวันไหนแกลงไมไ่ด้ทีมก็จบเลย การที่ทีมมีความสมดุลและปรับแผนรุก-รับ ได้ตามสถานการณ์ มันยืดหยุ่นกว่าแผนที่มีแต่เกมบุกจัดจ้านอย่างเดียวมากกว่า วันไหนไม่มี KDB เกมรุกมันจะเป็นรูปแบบเคาะหาจังหวะเอาชัวร์ที่สุด จะไม่ได้เห็นลูกจ่ายคีย์พาสพร่ำเพรื่อก็เป็นเรื่องปกติ
KDB ก็อายุไม่ใช่น้อยๆแล้ว เป๊ปก็ถนอมร่างกายแกพอๆกับฮาแลนด์ที่ตัวใหญ่และมีความเสี่ยงเจ็บได้ง่ายกว่าคนอื่นนั่นแหละ ให้แกได้ลงเล่นได้แบบเต็มประสิทธิภาพในเกมสำคัญๆ ดีกว่าเข็นลงทุกเกมแล้วล้าหรือบาดเจ็บ
ทีมชนะ 3-0 แบบไม่เสียประตู ไม่มีตัวเจ็บเพิ่มในรอบรอง ได้พักตัวหลัก + หมุนเวียนสำรองมาเคาะสนิมสร้างความคุ้นเคยในสนามจริง(เผื่อในกรณีต้องเรียกใช้) เก็บผลการแข่งขันได้ตามต้องการมันก็ดีแล้วนี่ครับ
ไม่จำเป็นต้องดาหน้าถล่มทุกนัดหรอก เกิดเจ็บหรือโดนแดงขึ้นมามันไม่คุ้มเลย
เจาะเป็นข้อๆนะครับ
1.สกอร์ 3-0 มันหลอกตา ทีมไม่ได้เล่นดีเลย 2ประตูแรกได้จากโชค คู่แข่งพลาดเอง
2.เราจบครึ่งแรก แบบสร้างโอกาสไปยิงไม่ได้ซักครั้ง นอกจากจุดโทษ ทีมใหญ่เล่นกับรองบ่อน มันควรพยายามเร่งเอาประตูตั้งแต่แรกๆ คือสุดท้ายยังไง ท้ายเกมถ้าไม่ได้ประตูนำ ทีมก็ต้องเร่งเครื่องอยู่ดี
3.ผมยอมเร่งเครื่องแล้วเสียประตูต้นเกม (เหลือเวลาเอาคืนเยอะ) ดีกว่าไปเร่งท้ายเกม ถ้าเสียประตูตอนนั้นคือจบเลย (บอลถ้วยนัดเดียวจบ ควรบริหารเวลาให้ดี)
4.ส่วนพวกตัวม้วน สำหรับผมการม้วนมันคือจังหวะแก้ไข แบบไปไม่ได้เลยต้องม้วนกลับ ทำแล้วทีมยิ่งเสียไทมมิงการบุก เกมบุกตัน แต่ตัวรุกเราแม่งม้วนกันตลอดเวลา มันก็แสดงให้เห็นว่าคุณภาพไม่ถึง มีออฟชันอื่นให้เลือกน้อย (ดูเดอบรอย ไม่ต้องม้วนเยอะ แต่หลากหลาย เกมโฟล เสียบอลยากพอกัน)
5.เรื่องพักKDB เราเจอทีมเล็ก มันก็สมควรแล้ว แต่ตัวที่ลง มันควรทำหน้าที่ได้ดีกว่าดี ไม่งั้นถ้าเดอบรอยเจ็บ ทีมไม่จบเลยเหรอ
6.เรื่องพักตัว ผมว่ายิงนำเร็วๆ แล้วพักตัวหลัก ดีกว่าเล่นเอื่อยเฉื่อยแบบนี้ นีกเตะเรายิ่งเหนื่อยไปอีก
สำหรับผม ต่อให้ครองบอล 90% แต่สร้างโอกาสยิงไม่ได้ มันก็เท่านั้นแหละ ไร้ประโยชน์ แต่ถ้าเกมนำ เลยอยากครองบอลเพื่อลดโอกาสคู่แข่ง มันก็อีกเรื่องนึง
เอาแค่ข้อเดียวนะ ผมยอมเร่งเครื่องแล้วเสียประตูต้นเกมดีกว่า เพราะมีเวลาเอาคืนเยอะ
แค่นี้ก็บ่งบอกทุกอย่างแล้วว่าคุณเอาความคิดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เพราะถ้าคุณรู้จักหรือเข้าใจเป็ปดีพอคุณจะไม่พิมพ์ประโยคนี้ออกมาเลย สไตล์การเล่นของเป็ป เป็นยังไง ความเพอเฟคชั่นนิสของแกขนาดไหน ในช่วงเวลาที่แกคุมทีมมาคุณก็น่าจะเห็นมาเยอะ ตั้งแต่คุมบาร์ซ่า บาร์เยิน เคยเห็นแกวางแทคติกแบบที่คุณพิมพ์ออกมาเหรอ ไม่มี๊ !!! คุมมากี่ทีมๆ แกก็เน้นให้ลูกทีมเคาะไปเคาะมา ถ่ายบอลไปมาเพื่อหาช่องเจาะเข้าไป ต่อบอลจนแทบจะเข้าประตูอยู่แล้วเนี่ยคือต้นแบบของ ติกิ ตะกะ ที่ใช้กันมา ซึ่งสไตล์การเล่นที่คุณต้องการมันไม่ใช่สไตล์ทีมของเป็ป
เหมือนไอ้พวกจอมม้วนทั้งหลายที่คุณไม่ชอบและชี้หน้าพวกเค้าว่าเป็นส่วนเกิน คุณคิดว่าเค้าเล่นแบบนั้นเพราะเค้าครีเอทการเล่นขึ้นมาเองเหรอ...ไม่มีทาง คุณคิดว่า กรีลิช แบนาโด้ มาเรซ ทำได้แค่วนๆเลี้ยงๆ ออกบอลเร็วไม่เป็นเหรอ กรีลิซตอนอยู่ทีมเก่า เป็นเอสของทีม ทั้งเลี้ยง ทั้งยิง ทั้งจ่าย แบนาโด้ตั้งแต่อยู่โมนาโก หรือ แม้แต่ทีมชาติ เล่นเป็นปีกเพลย์เมกเกอร์ มาเรซเกอะแบกทั้งทีมชาติ ทั้งเลสเตอร์ แต่ที่พวกนั้นต้องมาเล่นมากจังหวะ ดึงช้า เลี้ยงวน จ่ายคืน ไม่ใช่ว่าเพราะโค้ชสั่งให้ทำแบบนั้นเหรอ
จริงๆผมขี้เกียจเถียงกับคุณนะ เพราะเห็นคุณยืนกระต่ายขาเดียวเรี่องกรีลิชมาตลอด ก็พอรู้แล้วว่ามายเซ็ตคุณเป็นคนประเภทโลกหมุนรอบตังเองขนาดไหน
การเร่งเครื่อง ไม่ได้แปลว่าต้องเสียประตูเสมอไป ผมแค่พูดเผื่อไว้ สำหรับคนที่บอกว่าเล่นเสี่ยง เดี่ยวเสียบอล
จริงๆ เรือในยุคที่ผ่านมา ก็เล่นเสี่ยง สร้างโอกาสเยอะ แบบไม่เสียบอลได้
ผมไม่ได้ต่อต้านสไตล์ต่อบอลนะ แต่บางที ฟุตบอลมันก็มีอะไรมากกว่าแค่การครองบอล เกมเรือที่ขาดเดอบรอย ผมเห็นได้แต่ครองบอล แต่สร้างโอกาสแทบไม่ได้ ทั้งที่เกมมีเดอบรอย กับเกมขาดเดอบรอย พวก%ครองบอลก็ไม่ต่างกัน ต่างกันตรงความไหลลื่นเกมรุก การสร้างโอกาสที่ต่อเนื่อง ตัวรุกเล่นง่าย
ผมว่านักเตะควรพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่รอแต่หวังพึ่งพาเดอบรอย
เสี่ยงในเวลาที่ควรเสี่ยง และเซฟในเวลาที่ควรเซฟ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าสำหรับฟุตบอลถ้วยนะครับ
บอลลีคกับบอลถ้วย แนวคิด วิธีการวางหมาก มันไม่ควรจะเป็นแบบเดียวกัน
บอลลีกเรามีเตะหลายนัด นัดไหนเราครองเกมเบ็ดเสร็จ หรือสกอร์ขาดแล้ว คนดูมักจะบันเทิง
เพราะสกอร์มีโอกาสไหลได้จากการเล่นเสี่ยงมากขึ้น หรือในจังหวะสวนกลับ หรือถ้าพลาดอย่างทากก็ค่อยแก้ตัวใหม่นัดถัดไป
แต่บอลถ้วยรอบลึกๆ พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีให้แก้ตัว อย่างเมื่อคืนถ้าไม่รัดกุมแล้วโดนตีเสมอแล้วบัสอุด แล้วไปแพ้วัดดวงจุดโทษ
คนก็จะออกมาด่าเป๊ปว่าทำไมไม่คุมเกมตั้งแต่ขึ้นนำ มัวแต่บ้าบุก
หรือถ้าคิดในแนวที่ว่าทำไมไม่โหมบุกให้สกอร์นำขาดไปเลยตั้งแต่ครึ่งแรก แล้วค่อยเปลี่ยนตัวหลักออกมาพัก
อันนั้นมันคือวิธีคิดของคนดูครับ แต่วิธีคิดของโค้ชระดับเป๊ปมันไม่เหมือนเราอยู่แล้ว เขามองภาพที่เรามองไม่เห็นอีกเยอะ
และในบอลถ้วย ยิ่งรอบลึก เกมมันไม่ไหลแบบในบอลลีกหรอกครับ ซิตีิเองก็เคยมีประสบการณ์ชะล่าใจจนพังมาหลายต่อหลายหนแล้วในบอลถ้วย
แฟนบอลอาจจะรู้สึกพึงพอใจกับการทำประตูเยอะๆ สร้างโอกาสมากๆ แน่นอนมันสนุก และมันอึดอัดถ้าเล่นแบบรัดกุม ไม่เสี่ยง
แต่สุดท้ายแล้วขอให้เคารพการตัดสินของเป๊ปแหละครับ เราคนดูมันเห็นแค่องค์ประกอบภายนอกฉาบฉวย
มันไมไ่ด้ลงไปเจาะลึกถึงโครงสร้างในระดับที่รู้ได้ว่า ทำแบบนี้สิถึงจะถูก