ผมเห็นในกลุ่มเฟสมีแบบ ยกรถให้ผ่อนต่อ
หรือบ้างก็ขายดาวน์ อะไรแบบนี้

ผมไม่เข้าใจความหมายของเคสแบบนี้ครับ
รบกวนผู้รู้อธิบายให้เข้าใจหน่อยได้ไหมครับ
ว่าการยกรถให้ผ่อนต่อ คือยังไง ?

ส่วนตัวผมเป็นนักร้องกลางคืน วิ่งตามร้านทั่วไป
ไม่มีสลิปเงินเดือน
รายรับ3หมื่น++ต่อเดือนครับ

แต่ผมสนใจอยากมีรถของตัวเองบ้าง
ก็เลยพยายามศึกษาหาข้อมูล
ว่ามีแนวทางไหนบ้าง

ก็คือเค้าผ่อนต่อไม่ไหว แต่ถ้าปล่อยยึดไปมันจะเสียประวัติ แถมยังต้องมาจ่ายส่วนต่างที่เหลืออยู่ดี
เพราะงั้นเค้าเลยหาคนมาเปลี่ยนสัญญาให้มาผ่อนต่อแทน ประวัติจะได้ไม่เสียครับ

อธิบายแบบลงรายละเอียดก็
นาย ก อยากจะซื้อรถ ก็เลยไปยืมเงินไฟแนนซ์ เอาไปจ่ายโชว์รูมเพื่อซื้อรถ
จะเห็นว่าเจ้าหนี้ของนาย ก คือไฟแนนซ์ ไม่ใช่โชว์รูม เจ้าของรถตัวจริงก็คือไฟแนนซ์ และนาย ก เป็นลูกหนี้ไฟแนนซ์ แค่ไฟแนนซ์ให้นาย ก ยืมรถมาใช้จนกว่าจะใช้หนี้หมด แล้วถึงโอนชื่อให้นาย ก เป็นเจ้าของ
ทีนี้ นาย ก ใช้หนี้ไปซักพักปรากฏว่ามีปัญหาการเงิน ใช้หนี้ต่อไม่ได้แล้ว ถ้าตามกระบวนการ ไฟแนนซ์ก็จะมาเอารถของเขาคืน แล้วเอาไปขาย เพราะไฟแนนซ์ไม่ได้อยากได้รถ แต่อยากได้เงินที่นาย ก ติด
รถที่ยึดมาขายได้เท่าไหร่ เอาไปหักกับหนี้ที่เหลือ เหลือเท่าไหร่นาย ก ก็ต้องจ่ายให้ครบอยู่ดี

สมมติ ยืมค่ารถมาแปดแสน ผ่อนไปแล้วสามแสนเหลือห้าแสน ผ่อนไม่ไหวแล้ว ไฟแนนเลยเอารถกลับไปขาย ขายรถได้มาสี่แสน เอาไปหักกับหนี้เดิมก็จะเหลือแสนนึง นาย ก ก็ต้องรับผิดชอบหนึ่งแสนที่เหลือนั้นต่อ ย้ำอีกทีว่านาย ก เป็นหนี้เงินจากการยืมเงิน และไฟแนนซ์ไม่ได้อยากได้รถ

ดังนั้นถ้านาย ก ไม่อยากใช้หนี้หนึ่งแสนที่ว่านี้ นาย ก พอรู้ตัวว่าผ่อนไม่ไหวแล้ว ก็เลยไปหาคนมาเปลี่ยนชื่อลูกหนี้กับไฟแนนซ์แทน เพราะไม่อยากเสียเครดิตไม่งั้นต่อไปจะกู้เงินจะทำอะไรลำบาก ก็หาคนมาว่าใครเอาไหม ยกรถให้ฟรีเลยไปผ่อนต่อเองนะ คือนาย ก ยอมขายทุนไอ้สามแสนที่เคยผ่อนไปแล้วดีกว่าเสียประวัติ

ซึ่งไอ้ตัวเลขนี้ก็แล้วแต่หนี้ที่กู้มา แล้วแต่ราคามือสองของรุ่นนั้น แล้วแต่สภาพ แล้วแต่ความพอใจ บางเคสเปลี่ยนสัญญาแล้วยังได้เงินด้วยก็มี บางเคสก็ต้องจ่ายเงินให้กับคนที่มาเปลี่ยนสัญญาก็มี

ไอเดียก็ประมาณนี้ครับ

เปลี่ยนสัญญาให้ท่านผ่อนต่อจากเดิม คนขายก็ขาดทุนที่ตัวเองส่งไปแล้ว (เหมือนเช่ารถใช้)

แต่ไม่รู้มีหมกเม็ดอะไรไหมอันนี้อาจต้องให้คนดูรถเป็นช่วยครับ

คนมันดาวน์มาแล้วผ่อนต่อไม่ไหว เลยยอมขาดทุนให้เราผ่อนต่อไง

คือรถยิงติดไฟแนนซ์อยู่ คนขายไม่อยากผ่อนต่อแล้ว แต่ราคาค่างวดที่เหลือ ยังพอๆกับราคารถในตลาด
ก็เลยใช้วิธียกรถให้คนอยากได้ เอาไปผ่อนกับไฟแนนซ์ต่อ คนซื้อคนแรกก็ขาดทุนค่าดาวน์กับค่างวดที่จ่ายไปแล้ว แต่ก็ตัดภาระหนี้ที่เหลือออกไปได้ครับ (ถ้าไปขายเต้น แล้วเค้ารับเข้าต่ำกว่าหนี้ที่เหลือ ก็ยังต้องหาเงินไปโปะไฟแนนซ์เพิ่มอีก)

ปล เปลี่ยนสัญญาผ่อนกับไฟแนนซ์ เท่านั้นนะครับ ยกให้ผ่อนปากเปล่าอาจมีปัญหาทีหลังได้

ก็คือเค้าผ่อนต่อไม่ไหว แต่ถ้าปล่อยยึดไปมันจะเสียประวัติ แถมยังต้องมาจ่ายส่วนต่างที่เหลืออยู่ดี
เพราะงั้นเค้าเลยหาคนมาเปลี่ยนสัญญาให้มาผ่อนต่อแทน ประวัติจะได้ไม่เสียครับ

อธิบายแบบลงรายละเอียดก็
นาย ก อยากจะซื้อรถ ก็เลยไปยืมเงินไฟแนนซ์ เอาไปจ่ายโชว์รูมเพื่อซื้อรถ
จะเห็นว่าเจ้าหนี้ของนาย ก คือไฟแนนซ์ ไม่ใช่โชว์รูม เจ้าของรถตัวจริงก็คือไฟแนนซ์ และนาย ก เป็นลูกหนี้ไฟแนนซ์ แค่ไฟแนนซ์ให้นาย ก ยืมรถมาใช้จนกว่าจะใช้หนี้หมด แล้วถึงโอนชื่อให้นาย ก เป็นเจ้าของ
ทีนี้ นาย ก ใช้หนี้ไปซักพักปรากฏว่ามีปัญหาการเงิน ใช้หนี้ต่อไม่ได้แล้ว ถ้าตามกระบวนการ ไฟแนนซ์ก็จะมาเอารถของเขาคืน แล้วเอาไปขาย เพราะไฟแนนซ์ไม่ได้อยากได้รถ แต่อยากได้เงินที่นาย ก ติด
รถที่ยึดมาขายได้เท่าไหร่ เอาไปหักกับหนี้ที่เหลือ เหลือเท่าไหร่นาย ก ก็ต้องจ่ายให้ครบอยู่ดี

สมมติ ยืมค่ารถมาแปดแสน ผ่อนไปแล้วสามแสนเหลือห้าแสน ผ่อนไม่ไหวแล้ว ไฟแนนเลยเอารถกลับไปขาย ขายรถได้มาสี่แสน เอาไปหักกับหนี้เดิมก็จะเหลือแสนนึง นาย ก ก็ต้องรับผิดชอบหนึ่งแสนที่เหลือนั้นต่อ ย้ำอีกทีว่านาย ก เป็นหนี้เงินจากการยืมเงิน และไฟแนนซ์ไม่ได้อยากได้รถ

ดังนั้นถ้านาย ก ไม่อยากใช้หนี้หนึ่งแสนที่ว่านี้ นาย ก พอรู้ตัวว่าผ่อนไม่ไหวแล้ว ก็เลยไปหาคนมาเปลี่ยนชื่อลูกหนี้กับไฟแนนซ์แทน เพราะไม่อยากเสียเครดิตไม่งั้นต่อไปจะกู้เงินจะทำอะไรลำบาก ก็หาคนมาว่าใครเอาไหม ยกรถให้ฟรีเลยไปผ่อนต่อเองนะ คือนาย ก ยอมขายทุนไอ้สามแสนที่เคยผ่อนไปแล้วดีกว่าเสียประวัติ

ซึ่งไอ้ตัวเลขนี้ก็แล้วแต่หนี้ที่กู้มา แล้วแต่ราคามือสองของรุ่นนั้น แล้วแต่สภาพ แล้วแต่ความพอใจ บางเคสเปลี่ยนสัญญาแล้วยังได้เงินด้วยก็มี บางเคสก็ต้องจ่ายเงินให้กับคนที่มาเปลี่ยนสัญญาก็มี

ไอเดียก็ประมาณนี้ครับ

เท่าที่รุ้นะ

ก็คือไปเปลี่ยนสัญญา ที่ไฟแนนซ จากชื่อเขา เปนชื่อท่าน แล้วท่านก็ผ่อนต่อ สัญญาเดิมดอกเรท มือหนึ่ง

เค้าอาจจะผ่อนไม่ไหว หรือจำเปนต้องลดภาระ
โดยเงินที่เค้า ดาวน์ไป กับผ่อนมาแล้ว ก็เป็นค่าเสื่อม ที่เค้าใช้รถไป
แล้วแต่ว่าเค้าจะคิดท่านเพิ่มไหม บางคนอยากขายมาก ก็ไม่คิดเพิ่มเลย

ข้อดี ที่ต่างจากซื้อรถมือสองทั่วไปก็คือ
- ไม่ต้องเสียดอกเรทมือสองเพราะใช้สัญญาเดิม
-ไม่ต้องเสียvat7%
-ค่าเปลี่ยนสัญญา ไม่ถึงหมื่น แล้วแต่ตกลงว่าใครจ่าย
ก็ต้องคำนวณว่ารวมๆ ที่ต้องจ่ายเขา(บางทีเปน0)+ค่าผ่อนต่อจนจบ รวมแล้วเท่าไหร่ คุ้มไหม

เคสที่ผมเคยเห็นครับ

บางคนตอนออกรถเลือกที่จะผ่อน8ปี ผ่อนไป3-4ปี ผ่อนต่อไม่ไหว ขายดาวน์ไม่ออกเพราะยอดที่ค้างต้องผ่อนต่อสูง รถก็ราคาตกลงเรื่อยๆ บางคนเลือกที่จะยอมขาดทุนยกให้เจ้าของใหม่ผ่อนต่อไปเลย

ขายรถแล้วไม่ได้ราคา ปิดผ่อนไม่ได้ เป็นหนี้ต่อ

ยกสิทธิให้ คนยกไม่มีหนี้เหลือ ได้ป.ย. กว่า

เจ้าของเดิมผ่อนไม่ไหว ก็หาคนมาผ่อนต่อ จากที่ว่าก็จะมี 2 อย่าง

1. ขายดาวน์ (แล้วแต่ตกลงกันเรื่องเงิน) แล้วไปโอนเป็นชื่อคนผ่อนใหม่ให้ถูกต้องกับไฟแนนซ์หรือธนาคาร แบบนี้ทำเรื่องเสร็จ ก็ถือว่าปลอดภัยละ ผ่อนหมดรถเป็นของเราแน่ๆ

2. ยกให้ไปผ่อนเลย ส่วนใหญ่ก็คงคนรู้จักกันเช่นญาติพี่น้อง ก็เอารถไปใช้ไปผ่อนต่อ *แต่* ชื่อยังเป็นเจ้าของเดิมอยู่ แต่จะใช้การเซ็นเอกสารโอนลอยไว้ให้ ดังนั้น อาจจะมีปัญหาทีหลังได้ ต้องระวังดีๆครับ

ในแง่ของคนผ่อนมี 2 ประเภท
1. ผ่อนไม่ไหว ขายต่อก็ไม่ได้ราคาโดยเฉพาะไปขายเต้นท์ราคาต่ำกว่ายอดหนี้คงเหลือ ก็เลยหาคนมารับรถไปผ่อนต่อ
2. เป็นวิธีมีรถใหม่ใช้ตลอดด้วยค่าผ่อนถูกกว่าค่าเช่า

ตัวอย่างโตโตต้า ativ ราคา 594,000
ดาวน์ 89,100 ผ่อน 72 เดือน @8,275
ใช้รถ 4 ปี เหลือยอดผ่อน 36x8,275 = 297,900 หาคนมาผ่อนต่อ
สรุป 4 ปีที่ผ่านมาจ่ายไป 89,100+48x8,275 = 486,300 หรือเฉลี่ย 10,131 บาท/เดือน
เทียบกับไม่ผ่อนรถแต่ใช้วิธีการเช่า ต้องจ่ายค่าเช่า 11,500 บาท/เดือน
เท่ากับผ่อนถูกกว่าเช่า อยากเปลี่ยนรถใหม่ก็เปลี่ยนได้ตามใจ และถ้าหาแบบดาวน์น้อย 5-10% แล้วผ่อนยาว 7 ปี ยิ่งจ่ายถูกกว่านี้มาก

ในแง่ของคนรับไปผ่อน ก็ดูว่ารถ 4 ปี ยอดเหลือไม่ถึง 3 แสน ก็น่าสนใจ เพราะไปซื้อเต้นท์ราคาแรงกว่านี้แน่ แถมไม่รู้ว่าจะโดนย้อมแมวขายหรือเปล่า การรับรถไปผ่อนต่อจึง win-win ทั้งสองฝ่าย

แต่คนผ่อนต่อต้องระวัง
1. ต้องโอนทะเบียนเท่านั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นช่วยเขาผ่อนฟรี
2. รับเฉพาะรถมือแรกเท่านั้น ราคาเป็นธรรมที่สุด อย่าไปรับรถมือสองที่ผ่านการรีไฟแนนซ์มาแล้วเพราะยอดที่เราต้องรับมาผ่อนต่อเริ่มไม่คุ้มแล้ว

เปลี่ยนสัญญาเขาก็ต้องเช็คประวัติไม่ต่างจากยื่นกู้ใหม่หรอกครับ ทำ statement ให้ดี เก็บเงินก้อนไว้ดาว์น ออกรถใหม่ไปเลย

เงื่อนไขหลักก็ตามเมนท์อื่นว่า คือเปลี่ยนชื่อคู่สัญญากับทางไฟแนนซ์ โดยเงื่อนไขไม่ต่างอะไรกับการยื่นกู้ด้วยตนเองเลย เช็คเครดิตและใช้หลักฐานเหมือนกัน

แต่มันเป็นช่องทางให้พวกคนโกงได้หากิน ถ้าเจอข้อเสนอลักษณะนี้ห้ามทำโดยเด็ดขาด
‘’ผ่อนต่อแบบไม่เปลี่ยนสัญญา’’ คือขอเอารถไปใช้งานและส่งต่อ โดยทำสัญญากันเองระหว่าง เจ้าของรถและผู้ซื้อ ซึ่งมันทำไม่ได้เพราะเจ้าของกรรมสิทธิ์จริงๆเป็นไฟแนนซ์

มุมผู้ขาย เจอคนมาหลอกซื้อรถแบบขอผ่อนต่อ แต่ไม่เปลี่ยนสัญญาแล้วส่งไปชำแหละ ไม่ก็ไปบ่อน หรือส่งข้ามประเทศเยอะมาก พวกที่คิดว่าคนซื้อเครดิตดีมีที่อยู่ชัดเจน หรือมีตัวกลางนายหน้าค้ำประกันให้ บอกเลย ส่วนใหญ่ไม่รอดเจอโกงทั้งนั้น ได้แต่นั่งรับกรรมต้องผ่อนลมต่อให้ไฟแนนซ์เองไม่งั้นก็เจอไฟแนนซ์ฟ้อง

มุมผู้ซื้อ เจอพวกคนขายหัวหมดลอประจำ ผ่อนไปเรื่อยๆแล้วมายึดรถคืน หรือตุกติดชกไม่ยอมโอนให้ บ้างหนักถึงขั้นแจ้งความเพื่อจะเอารถคืน

การผ่อนต่อ แบบไม่เปลี่ยนสัญญา ยุ่งยากมีแต่ปัญหา อย่าไปหาทำ!!!