#ฮิเดโตชินากาตะกับการแขวนสตั๊ดในวัย 29 ปี
.
ถ้านึกถึงนักฟุตบอลสัญชาติญี่ปุ่นที่มีภาพลักษณ์โดดเด่นมากที่สุดคนนึง
เขาคนนี้ยืนหนึ่ง ทั้งในและนอกสนามด้วยสไตล์การเล่น ฝีเท้า ทรงผม ความเป็นแฟชั่นนิสต้า
.
เขาเป็นอีกหนึ่งคนที่พิสูจน์ให้ชาวยุโรปลบล้างภาพ การย้ายทีมของชาวเอเชียที่มักย้ายมาด้วยเหตุผลทางการตลาด
ฝีเท้าของเขาแสดงให้แฟนฟุตบอลเห็น จนทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลเอเชียที่ดีที่สุดตลอดกาล
.
สำหรับแฟนฟุตบอลที่ทันได้ดูช่วงปลายปี 90 ถึงรอยต่อช่วงต้นปี 2000
ลีกฟุตบอลภายในประเทศอิตาลีอย่างกัลโช่ เซเรีย อา เป็นหนึ่งในลีกที่มีคุณภาพของการแข่งขันสูงที่สุดหนึ่งลีกของโลก
การได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลา 7 ฤดูกาลเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
.
แม้จะผ่านมากว่า 20 ปี มูลค่าการย้ายทีมของเขายังติด 2 ใน 3 อันดับแรก
ของการย้ายสโมสรของนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ปี 2000 ย้ายจาก เปรูจา ไป โรม่า ด้วยค่าตัว 21 ล้านยูโร (771 ล้านบาท)
ปี 2001 ย้ายจาก โรม่า ไป ปาร์ม่า ด้วยค่าตัว 28 ล้านยูโร (1,029 ล้านบาท)
.
“ฮิเดโตชิ นากาตะ” คือ ใครคนนั้น
.
#ก้าวแรกที่เจลีกกับโชนันเบลมาเร่
.

นากาตะ เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพในวัย 18 ปีกับทีมเบลมาเร่ ฮิรัตสึกะ (ปัจจุบัน คือ โชนัน เบลมาเร่)
เพียงแค่ขวบปีแรกของการเล่นลีกอาชีพ เขาก็สร้างความทรงจำที่ดีโดยการยิงประตูชัย
ในนัดชิงชนะเลิศศึกเอเชี่ยน คัพ วินเนอร์ คัพ ปี 1995 ทำให้ ทีมเบลมาเร่ ฮิรัตสึกะ คว้าแชมป์ไปครอง
*เอเชี่ยน คัพ วินเนอร์ คัพ คือ ทัวร์นาเมนท์ที่เอาแชมป์บอลถ้วยของแต่ประเทศมาแข่งขันกันยกเลิกไปในปี 2002
.
#พาทีมชาติญี่ปุ่นไปบอลโลกและรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปเอเชียปี1997
.
ในช่วงปี 1996/97 นากาตะได้ลงเล่นในฐานะตัวหลักของทีมเบลมาเร่ ฮิรัตสึกะในเจลีกอย่างสม่ำเสมอ
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงปีนั้น คือ การเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมชาติญี่ปุ่นได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส
.
16 พฤศจิกายน ปี 1997
เป็นการพบกันระหว่างสองมหาอำนาจฟุตบอลเอเชีย คือ ทีมชาติญี่ปุ่นและทีมชาติอิหร่าน
วันที่ทั้งสองทีมเดิมพันกันด้วยตั๋วการไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
.
ถ้าทีมชาติญี่ปุ่นชนะจะเป็นการได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติ
หลังจากพลาดโอกาสสำคัญมาแล้วในการคัดเลือกไปบอลโลก 1994
เหตุการณ์นั้นถูกเรียกว่า “ฝันร้ายที่โดฮา”
.

บทสรุป ทีมชาติญี่ปุ่นเอาชนะไปด้วยประตูโกลเด้น โกล์ในนาที 118 ด้วยสกอร์ 3 – 2
นากาตะมีส่วนในการผ่านบอลให้เพื่อนยิง 2 ลูก และอยู่ในสนามจวบจนวินาทีประวัติศาสตร์
พร้อมผลงานการนลงสนามในนามทีมชาติญี่ปุ่นในปีนั้นไป 16 นัด ยิงไป 5 ประตู
พร้อมกับการพาทีมชาติญีปุ่นสร้างประวัติศาสตร์ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก
.
ทำให้ในปี 1997 ฮิเดโตชิ นากาตะ คว้ารางวัลส่วนตัวมากมายทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติ
J. League All-Star Soccer: 1997
J. League Best XI: 1997
Japanese Footballer of the Year: 1997
Japan Professional Sports Grand Prize: 1997
Asian Footballer of the Year: 1997
AFC All Star Team: 1997

.
#นักเตะญี่ปุ่นคนที่สองในลีกสูงสุดของอิตาลี
.

หลังจบฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส มีรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์สัญชาติอิตาเลี่ยนว่า
ฮิเดโตชิ นากาตะในวัย 21 ปี ได้บรรลุข้อตกลงเซ็นสัญญา 4 ปี มูลค่า 6 พันล้านลีรา (3.5 ล้านดอลลาร์) กับทีมอิตาลีที่เพิ่งเลื่อนชั้นอย่างเปรูจา
ทำให้ นากาตะ เป็นผู้เล่นชาวญี่ปุ่นคนที่สอง ที่ได้มาร่วมทีมลีกสูงสุดของลีกอิตาลี
ต่อจาก คาซูโยชิ มิอุระที่เคยย้ายมาเล่นกับเจนัวช่วงปี 1994
.
สื่อใหญ่ในประเทศอิตาลีอย่าง สกาย สกอร์ต ตั้งข้อสงสัยในการย้ายทีมครั้งนี้
ว่าเป็นไปด้วยเหตุผลทางการตลาดหรือไม่
.
แต่แค่นัดแรกของการลงสนาม นากาตะ ก็ตอบคำถาม
ด้วยผลงานยิงสองประตูกับการเจอทีมยักษ์ใหญ่ของลีกอย่างยูเวนตุส
แม้ผลการแข่งขันจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเปรูจาด้วยสกอร์ 3-4
แต่ชื่อของ นากาตะ ก็ตราตึงเข้าไปที่ใจแฟนบอลและสื่อเรียบร้อย
.
มีบันทึกไว้ว่า นัดเปิดตัวกับยูเวนตุส มีแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นกว่า 5,000 คนบินไปอิตาลีเพื่อชมการลงสนามครั้งแรกของนากาตะ
.
ในฤดูกาล 98/99 ฮิเดโตชิ นากาตะ ลงเล่นเป็นตัวหลักของทีมเปรูจาในตำแหน่งกองกลางตัวรุก
ลงสนามไป 33 นัด ยิงไป 10 ประตู มีส่วนร่วมในการทำประตูอีก 4 ครั้ง

.
#ย้ายไปโรม่ากับบทบาทตัวสำรองของต๊อตติ ?
.

ผลลัพธ์ของการโชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดีหลังผ่านไปหนึ่งฤดูกาลครึ่งกับเปรูจา
ทีมยักษ์ใหญ่อีกหนึ่งทีมของอิตาลีอย่าง โรม่า ได้ติดต่อแสดงความสนใจในตัวนากาตะ
จนเกิดการย้ายตัวขึ้นจริงด้วยเงินที่ถูกมองจากสื่อว่าเป็นการลงทุนครั้งมหาศาลของ ทีมหมาป่ากรุงโรม
.
พร้อมด้วยความคลางใจว่า ถ้านากาตะย้ายมาจะมีโอกาสในการลงเล่นหรือไม่
เนื่องด้วยในทีมมีคนที่เล่นในตำแหน่งเบอร์สิบอยู่แล้ว คือ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ
ผู้เล่นที่เราไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความถึงอิทธิพลของเขาต่อทีม หรือ ความสำคัญของเขาต่อทีม
.
ในช่วงหกเดือนแรกที่ย้ายมาร่วมทีมสถานการณ์ก็เป็นไปตามที่หลายคนคาด
นากาตะเป็นเพียงผู้เล่นทดแทนของฟรานเชสโก้ ต๊อตติ เขาได้ลงเล่นไปเพียง 18 นัด
.
#ถูกที่ถูกเวลากับการพาโรม่าคว้าสคูเดตโต้
.
ในสถานการณ์ที่ทีมกำลังลุ้นแชมป์กับยูเวนตุสและเป็นนัดที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนของทีมคว้าสคูเดตโต้ (ชื่อแชมป์กัลโช่ ซีรี่ย์ อา)
นากาตะตอบคำถามด้วยฝีเท้าอีกครั้งกับการได้รับความไว้วางใจจากกุนซือของโรม่า ณ ขณะนั้น
“ฟาบิโอ คาเปลโล่”กับการเปลี่ยนตัวเขาลงไปแทนฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ในนาที 60 ด้วยสกอร์ที่ย่ำแย่กับโรม่าสุดๆ คือถูกนำด้วยสกอร์ 2 – 0 ด้วยประตูของเดล ปิโร่ และ ซีเนดิน ซีดาน
และเป็นนัดที่เล่นรังเหย้าของยูเวนตุส สตาดิโอ เดลเล่ อัลปิ (สนามเก่ายูเวนตุส)

.
เวลาในการแข่งขันล่วงเลยมาถึงนาที 79
นากาตะปลุกความหวังของพลพรรคจัลโล่รอสซี่ด้วยการยิงระยะนอกกรอบเขตโทษ
ในจังหวะที่ตัดบอลได้จากวงกลมกลางสนามและพาบอลขึ้นมาด้วยตัวเอง
ก่อนวางเท้ากดเต็มข้อด้วยเท้าขวาบอลพุ่งหายเข้าประตูไปแบบสนั่นหวั่นไหว

.
สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร
นาฬิกาล่วงเลยเข้าสู่การทดเวลาหลังเวลาในการแข่งขันครบ 90 นาทีเป็นที่เรียบร้อย
นากาตะเชื่อมบอลที่กราบซ้ายของสนาม ก่อนไปรับบอลและหาจังหวะกดด้วยเท้าขวาที่ระยะไกลเคียงเดิม
ผู้รักษาประตูของยูเวนตุสยุคนั้น คือ เอดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ต้องออกแรงปัดแต่ไม่พ้นระยะอันตราย
กลายเป็นวินเซนโว่ มอนเตล่า กระโดดวอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้าย พาโรม่าพลิกกลับมาเสมอ 2-2

.
หลังจบเกมส์มีภาพบรรยากาศที่เพื่อนๆภายในทีมโรม่า
ต่างวิ่งกรูกันมาดีใจกับนากาตะที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมส์นัดดังกล่าว
นากาตะได้รับการยอมรับอย่างมาก
ว่ามีส่วนสำคัญในการพาโรม่าคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ในรอบ 18 ปีได้อีกครั้ง

.
#เดินทางและจบอาชีพในวัย29ปี
.

หลังจากคว้าแชมป์กับโรม่า กับโอกาสลงเล่นที่น้อย
เขาจัดสินใจอำลาทีมไปซบทีมปาร์ม่าในปีต่อมากับการย้ายตัว
ที่ทำลายสถิติมูลค่าการย้ายตัวสูงสุดของนักฟุตบอลเอเชีย
.
หลังจากนั้นเขาก็โลดแล่นกับปาร์ม่า โบโลญญ่า และ ฟิออเรนติน่า
รวมถึงมีโอกาสได้สัมผัสพรีเมียร์ลีก อังกฤษด้วยสัญญายืมตัวกับทีมโบลตัน วันเดอเรอร์
ที่มีผู้เล่นอย่างเจย์ โจย์ โอโคชา จอมทัพผิวสีที่มากทักษะ อีบัน คัมโบ และแกร์รี่ สปีด

.
หลังจบฟุตบอลโลกปี 2006 ที่เยอรมัน ในเกมส์ที่ทีมญี่ปุ่นแพ้ทีมชาติบราซิล ตกรอบแบ่งกลุ่ม
ฮิเดโตชิ นากาตะ ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 29 ปี

"ผมตัดสินใจตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลก 6 เดือน ว่าจะแขวนสตั๊ดหลังจบฟุตบอลโลก"
"ไม่มีเหตุผลเจาะจงว่าทำไมผมถึงตัดสินใจแบบนี้ แต่ผมรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องออกจากเส้นทางนี้ซึ่งเรียกว่าฟุตบอลอาชีพแล้ว ผมอยากเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ซึ่งจะทำให้ผมได้ เพื่อค้นพบโลกใบใหม่"
.
ด้วยภาพลักษณ์ รูปร่าง และหน้า นากาตะก็ได้รับอีกบทบาทหนึ่ง คือ การได้ร่วมงานในแวดวงแฟชั่นบ่อยครั้ง
จนกระทั่งได้เป็น แบรนด์ แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ดังอย่าง CALVIN KLEIN (คาลวิน ไคลน์)
ได้ถ่ายแบบและเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ Coca-Cola, MasterCard, Toyota และ Nike

.
ฮิเดโตชิ นากาตะ ได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 100 คนที่ยังมีชีวิตโดยการคัดเลือกจากตำนานตลอดกาลชาวบราซิล “เปเล่”
และยังได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดของอิตาลี อัศวินแห่ง Order of the Star of Italian Solidarity เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในต่างประเทศ
.
#บทสรุป
.
“ตลอดชีวิตของผม ผมเล่นแต่ฟุตบอล ผมไม่รู้ว่าเลยโลกภายนอกเป็นยังไง” นากาตะเคยให้สัมภาษณ์ไว้หลังประกาศแขวนสตั๊ด ส่วนหนึ่ง ฮิเดโตชิ นากาตะ อาจเป็นผู้เล่นชาวญี่ปุ่นที่ไปนำร่องพิสูจน์ฝีเท้าในลีกอิตาลีอย่างแท้จริงจนมีผู้เล่นชาวญี่ปุ่นหลายคนได้ไปลงเล่นในกัลโช่ ซีรี่ย์ อา ทั้งชุนสุเกะ นากามูระ ยูโตะ นางาโตโมะและเคสึเกะ ฮอนดะ
.
แต่ทั้งหมดทั้งมวล นากาตะ น่าจะเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีในการสร้างมูลค่านอกสนามนอกเหนือจากการเป็นนักฟุตบอลรวมไปถึงการเปิดกว้างในโอกาสที่เข้ามาใหม่กับตัวเอง หลังพยายามอย่างหนักและพิสูจน์ความสามารถของตัวเองมาแล้ว
.
“เงินไม่จำเป็นต้องมาก่อน การให้ความสำคัญกับสิ่งคุณชอบควรมาก่อน”
“นี่คือแนวคิดที่ผมใช้มาตลอด ผมไม่ได้เล่นฟุตบอลเพราะเงินหรือเพื่อชื่อเสียง แต่เพราะความรักที่มีในฟุตบอลและนี่คือชีวิตของผม”

.
#เจลีกโดยสังเขป
#JLeague
#J30
#บอลญี่ปุ่น

ตอนเด็กไม่ได้คิดอะไรมากก็แค่รู้สึกว่าเจ๋งดีนักบอลเอเชียเล่นในเซเรียอา แต่มาตอนนี้คิด ๆ ดูมันต้องเก่งมากในระดับที่ทีมยักษ์ใหญ่ระดับโรม่าซื้อไปเป็นตัวหลักได้แถมคว้าแชมป์อีกต่างหาก

สมัยนั้นโคตรเท่ห์เลย ฮิเดโตะ

นากาตะ มีทำสารคดีครบรอบยี่สิบการเล่นในอิตาลีของตัวเองเอาไว้
.
เป็นสารคดีที่เล่าเหตุการณ์ตามแต่ละสโมสรที่นากาตะเคยไปร่วมทีม
.
เพื่อไว้ดูเพลินๆครับ

ยุคนั้นผมถือว่าคือไอดอลชาวเอเชียเลย

ชอบตอนแกอยู่ปาร์มา เท่ห์

เราก็ต้องรอนากาตะของเราต่อไป

พอผมเริ่มรู้ความ ดูฟุตบอลแบบจริงจัง ทีมแรกในอิตาลีที่เชียร์คือเปรูจา เหตุผลเพราะมีนากาตะนี่แหละ สมัยนั้นเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากเลยนะ นักเตะเอเชียในลีคสูงสุดอิตาลี ขนาดผมไม่ใช่คนญี่ปุ่นยังมีความสุข

ฮิเดะ เท่จริงๆ