Ramenya Shima

- ร้านราเมงอันดับ 1 ในโตเกียวและอันดับ 2 ของประเทศ จากเว็บ Tabelog

- ร้านราเมงอันดับ 4 ในโตเกียวและอันดับ 11 ของประเทศ จากเว็บ RamenDB

ณ วันที่ไปกิน 6/3/2023

(แต่ ณ วันที่โพสต์ 12/3/2023 อันดับในเว็บ RamenDB ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโตเกียวและอันดับ 10 ของประเทศแล้ว)

เมนู : โชยุราเมง 1,600 JPY

ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/o7eBfcEcgjcodbhJ8

เวลาเปิด - ปิด : จันทร์ - ศุกร์ 10.00 – 16.00 น. (ปิดวันเสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) บางวันอาจเปิดให้เข้าร้านเร็วกว่า 10.00 น. ถ้าคิวยาวมาก และถ้าขายหมดก็คือปิดเลย

นี่คือหนึ่งในร้านราเมงที่อยากมากินที่สุดสำหรับทริปนี้ (ตอนแรกมี 2 ร้านที่อยากกินมาก แต่จองอีกร้านไม่ได้ 555) หาข้อมูลไว้ตั้งแต่ช่วงที่ญี่ปุ่นยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้เลย แล้วยิ่งมาได้ดูรายการ Sauce ยกซด in Japan ที่ไปตะลุยกินราเมงเจ๋งๆ มาหลายร้าน ยิ่งทำให้อยากกินเพิ่มขึ้นไปอีก

รอไปประมาณ 2 ชม. ครับ สำหรับรอบนี้

รสชาติ :

- เส้นของร้านนี้คือสุดยอดมากๆ ลวกมานุ่มๆ ลื่นๆ กินเพลินมากๆ คะแนนเต็มของเส้นมีเท่าไหร่ก็จะให้เท่านั้นเลย (มีข้อมูลว่าเป็นเส้นที่รับมาจากร้าน Shina Sobaya ซึ่งเป็นอีกหนึ่งร้านราเมงระดับท็อปของญี่ปุ่น และเป็นร้านของอาจารย์ของเชฟเจ้าของร้าน Shima แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะของเค้าดีจริงและเข้าใจได้ว่าเจ้าของร้าน Shima เค้าทำร้านคนเดียว มีเรื่องต้องจัดการหลายอย่าง ถ้าเจอเส้นที่ดีแล้ว ก็ควรจะเอามาใช้แหละ)

- น้ำซุปนี่ถ้าเอาแบบสั้นๆ คืออร่อยเลย แต่ถ้าแบบยาวหน่อยนี่อธิบายยากมาก มีความเข้มข้น ลึกซึ้ง แต่สมดุล ไม่มีรสอะไรโดดนำหน้าขึ้นมาแบบชัดเจน แล้วเป็นรสชาติที่รู้สึกว่ายังค้างอยู่ในปากหลักจากกินอีกนานพอสมควร ไม่รู้เรียกว่า aftertaste แบบกินกาแฟมั้ย แต่ส่วนตัวรู้สึกยังงั้นเลย พอกินมาถึงตอนท้ายๆ ซุปมันก็จะเค็มขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว ทางร้านก็มีหอมแดงและต้นหอมซอย ซึ่งเอามากินด้วยก็ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีเลย (แต่ถึงซุปจะเค็ม ผมก็ยกซดหมดชามอยู่ดีแหละ 555)

ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ

-หมูชาชูนี่ก็สุดยอด เบิร์นมาได้หอมมาก ส่วนตัวรู้สึกว่าสัดส่วนของมันเยอะไปนิดนึง แต่ก็นิดเดียวจริงๆ

- ไก่ย่าง (ที่ในรูปโดนสาหร่ายบังอยู่ 555) ย่างมาได้สุกพอดี

- หมูย่าง (ไม่รู้ควรจะใช้ศัพท์ว่าอะไรดี) ก็ดี มีความสู้ฟัน ให้ได้ออกแรงเคี้ยว แต่ไม่เหนียว

- ไข่ต้มยางมะตูมก็ทำได้พอดี ไข่แดงข้างมีความครีมมี่ๆ

- เกี๊ยว มีกุ้งและน่าจะผสมกับหมู อันนี้ลืมสังเกต รสชาติเข้มข้นกำลังดี บาลานซ์กับองค์ประกอบอื่นได้พอดีเป๊ะ เพราะส่วนใหญ่ที่เคยเจอถ้ามีเกี๊ยวจะมีกลิ่นขิงนำมาค่อนข้างเยอะ (ซึ่งจริงๆ ก็ชอบแหละ เพราะเป็นคนชอบกลิ่นของขิง)

สรุปแล้วก็คือเป็นร้านราเมงที่ยอดเยี่ยมมากๆ เข้าใจเลยว่าทำไมอันดับถึงสูงและทำไมคนถึงมายืนรอกันเยอะขนาดนี้ ใครที่ชื่นชอบราเมง โดยเฉพาะโชยุราเมงที่ชอบแนวเข้มข้น แนะนำให้จัดตารางเวลามากินเลยครับ ส่วนตัวก็ยังอยากกลับมากินร้านนี้ซ้ำอีกแต่จะเปลี่ยนไปลองเมนูอื่นของเค้าดูบ้าง เท่าที่เคยเห็นรูปมาก็ดูน่าสนใจไม่แพ้กัน

วิธีการจอง:

- ไปยืนต่อคิวลงชื่อหน้าร้าน เจ้าของร้านจะเอากระดาษสำหรับลงชื่อออกมาไว้หน้าร้าน แต่ระบุไม่ได้ว่าจะเอาออกมากี่โมง เพราะเคยได้ยินว่าบางวันก็ 8.30 น. แต่วันที่ไปกินเอาออกมา 9.30 น.

- เขียนชื่อเรียงตามลำดับ ห้ามเว้นช่องเพื่อไปเลือกช่วงเวลาที่ต้องการ

- สมาชิกที่จะกินต้องไปให้ครบ ห้ามส่งตัวแทนไปลงชื่อ

- การลงชื่อจะลงเป็นรอบๆ รอบละ 6 คน และมีเวลา 30 นาทีต่อรอบ อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้นนิดหน่อยแล้วแต่คนกินก่อนหน้า ถ้าไปหลายคน อาจจะต้องนั่งแยกกัน

- ลงชื่อเสร็จแล้ว ทางร้านให้ไปรอตรงอื่น แล้วค่อยกลับมาใกล้ๆ เวลาที่จะกิน ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็คงเดินเล่นหรือหาร้านกาแฟนั่งแถวนั้นแหละ เพราะกลัวเลยคิว

- ถ้าลงชื่อไว้มากกว่า 1 คน พอถึงคิวเข้าร้านแล้ว ต้องกลับมาพร้อมกันทุกคน ถึงจะเข้าร้านได้

- ต้องสั่งคนละ 1 ชาม

- ถ้าเลยคิวไปแล้ว ให้แจ้งเจ้าของร้าน

- ติดตามข้อมูลอื่นๆ ได้ทาง Twitter @Ramenya_Shima

ข้อควรระวังอื่นๆ

- ถ้าจะไปกินห้ามฉีดน้ำหอม เพราะกลิ่นอาจไปรบกวนลูกค้าคนอื่น

- ถ่ายรูปได้เฉพาะชามตัวเอง ห้ามถ่ายรูปติดหน้าลูกค้าคนอื่น

หลักๆ จำได้เท่านี้ นอกนั้นลองดูตามรูปได้เลยครับ

คิดถึงเลยฮะ เพิ่งกลับมา ก็อยากไปอีก

อากาศหนาว ราเมง สุกี้ยากี้ หม้อไฟ ฟินสุดพลัง