นับว่าเป็นช่วงที่แฟนเชลซีกว่า 95% ทั้งในและนอกลอนดอนจะต้องกำลังเป็นห่วงและกำลังอยู่ในช่วงที่ "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" กับผลงานของทีมในช่วงที่ผ่านมา เพราะในฐานะทีมใหญ่ทีมนึงแล้ว อาการตอนนี้คงเรียกได้เต็มนะครับวว่ากำลังอยู่ในอาการ "โคม่า" อย่างแรงเลย ไม่ว่าจะทั้งผลงานหรือสภาพของทีม ที่เมื่อมองในตอนนี้แล้วกลับไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่า "อนาคต" ที่ใคร ๆ คาดหวังเลย

ผลงาน "คาที่" ในนัดที่เจอกับเซาธ์แธมป์ตันสร้างความโมโหโกรธาให้แก่แฟนบอลมหาศาลเลยครับ หลังจากที่พ่ายแพ้แก่ดอร์ทมุนต์ ใคร ๆ ก็มองว่าเชลซีน่าจะได้นัดนี้นี่แหละ ที่จะใช้แก้ตัวจากผลงานที่ตกต่ำ และเรียกความเชื่อมั่นจากแฟน ๆ กลับมาได้บ้าง แน่นอนว่าผมเอง ... แม้จะมองว่ามีหน้าแพ้ออกได้เหมือนกัน แต่ก็ยังเชื่อว่าทีมรักจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้ อย่างน้อยก็ขอแค่ 1-0 หรือสกอร์ชนะ จะแบบไหนก็เอาหมด

และใช่ครับ ... แฟนเชลซีทั่วโลกและอาจรวมไปถึงแฟนทีมอื่นก็ได้ผิดหวังกันไปทั้งแถบเลยจากความพ่ายแพ้คาบ้านในแบบที่เรียกว่าแทบจะ "รับไม่ได้"

เราสร้างโอกาสเป็นกอบเป็นกำในการเข้าทำประตูมาตั้งแต่เกมกับดอร์ทมุนต์แล้วครับ แต่สุดท้ายเราจบกันไม่ได้และปัญหานั้นก็ยังลุกลามมายังเกมนี้ ในครึ่งหลังที่มีราฮีม สเตอร์ลิ่ง ถูกเปลี่ยนลงมาช่วยกระตุ้นเกมรุกของเชลซี และมันดูดีขึ้นมากในจังหวะเข้าทำ แต่ว่าในจังหวะสุดท้าย เราทั้งพลาดเอง ทั้งไม่มีดวงมากพอ จากลูกยิงของสเตอร์ลิ่งที่โดนสกัดบนเส้น และลูกยิงจากเอนโซ่ก็ถูกเซฟไว้อีก ทำเอาผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

ในเกมนี้ แท็กติดของพอตเตอร์เองก็ยังคงเป็นปัญหาเมื่อโดนเพรสซิ่งสูงจากเซาธ์แธมป์ตัน ทำให้ผู้เล่นเชลซีเจอความยากลำบากในการขึ้นเกมรุก ในสภาพนักเตะหลายคนที่มองไม่เห็นความกระหายอยากได้ชัยชนะ บวกกับความ "นิ่ง" เป็นเสาหลักกิโลของพอตเตอร์ ทำให้ทีมแทบไม่มีพลังงานอะไรเลยที่จะทำให้พลิกสถานการณ์และสุดท้ายต้องแพ้ต่อหน้าแฟนบอลตัวเองที่เข้ามาชมเกม

ในส่วนของการชำแหละแผนการเล่นขอไม่พูดถึงมากนะครับ เพราะหลายเจ้าเขาก็วิเคราะห์กันได้ดีแล้ว มาว่ากันในส่วนของตัวพอตเตอร์กันครับ

อย่างที่เราเห็นกันจนชินตาว่า "แฮรี่ พอตเตอร์" เอ้ย! "เกรแฮม พอตเตอร์" เป็นกุนซือสายนิ่งและไม่แสดงออกถึงแอคชั่นใด ๆ ไม่ว่าในสนามตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น พี่แกก็ยังยืนรักษามาดไว้ได้เป็นอย่างดี เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้แย่อะไรหรอกครับ กับการรักษาท่าทางและไม่ออกอาการเกินเหตุหรือออกอาการแล้วเสียเรื่อง แต่ในสนามเนี่ย เมื่อทีมคุณเสียประโยชน์หรือถูกทำฟาล์วในจังหวะแบบนี้ การแอคชั่นถึงความ "เป็นห่วง" ลูกทีมออกมาให้ได้เห็น หรือการที่จะเข้าไปกดดันผู้ตัดสินที่ 4 สักนิดเพื่อเป็นการโพรเท็คก์ลูกทีม

แต่นี่กลับไม่มีอะไรเลย เราเห็นกันทั้งโลกว่ากุนซือจากฮ็อกว็อตส์ยืนกอดอกไม่สนใจจังหวะใด ๆ ทั้งนั้น แม้กัปตันเดฟจะสลบอยู่ หรือแม้แต่จังหวะชุลมุนข้างสนามที่เกิดจากนักเตะทั้งสองทีมปะทะคารมกัน มันเป็นจุดที่ทำให้แฟนเชลซีไม่ชอบเอามากนะครับ คนที่ไล่อยู่ทุกวันก็ด่าหนักขึ้นไปอีก คนที่ไม่ค่อยด่า หรือพยายามเชียร์แบบกัดฟัน มาถึงจุดนี้ทุกคนแทบลุกมาพร้อมกันเลยด้วยซ้ำครับ ออกไปเถอะพอตเตอร์

จนกระทั่งคืนนั้นหลังบอลจบ ในทวิตเตอร์ก็เกิดแฮชแท็ก #PotterOut ขึ้นในบัดนั้นเลย

แต่ว่าในเมื่อสโมสรได้ตัดสินใจว่าจะใช้แผนการสร้างทีมระยะยาว จึงให้การสนับสนุนพอตเตอร์เต็มรูปแบบต่อไป แฟน ๆ ก็ต้องรับสภาพและเชียร์กันต่อไปครับ ส่วนตัวผมเองก็ยอมรับตามตรงว่าในใจก็อยากให้ทีมชนะครับ กลับมาสักครั้งให้ชื่นใจก็ได้ แต่ว่าในแง่ของเหตุผลและความเห็นส่วนตัว ก็อยากจะให้แพ้ต่ออีกหน่อยเพื่อให้สโมสรได้ตระหนักว่ากุนซือที่เขาเลือกมา อาจจะไม่เหมาะกับทีมก็ได้

ผมไม่ได้เกลียดชังอะไรพอตเตอร์จนถึงขั้นว่าจะด่าให้ยับหมา ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดนะครับ หลายครั้งมันขัดใจ มันหงุดหงิด แต่ในเมื่อเขามาคุมทีม ผมก็อยากจะเห็นว่าเขาจะทุ่มเทแบบไหนให้ผลลัพธ์มันออกมาดี วันไหนทำดี ก็จะชมให้ อยากจะชมและตำหนิอย่างตรงไปตรงมาไม่มีอคติ แต่ในเมื่อช่วงหลังมันไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มันก็มีแต่คำตำหนิเท่านั้นเองครับ

แม้ในตอนที่กำลังเขียนบทความนี้ ในใจก็หวังเล็ก ๆ นะครับ ว่าเกมกับสเปอร์สเนี่ย จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรจากทีมบ้างไหม พวกเขาจะทำให้เราผิดคาดได้สักครั้งในรอบหลายนัดหรือเปล่า ทั้งหมดนี้คงต้องไปดูกันในสนาม เชื่อว่าแฟนสิงห์ทุกคนก็คงจะอยากเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แม้บางคนอาจจะมีความคิดที่คล้ายผมตรงที่ว่าถ้าแพ้ไปก็ได้ สโมสรจะได้ตัดสินใจสักที แต่ถ้าผลลัพธ์มันออกมาดี เราก็ดีใจกันอยู่แล้วครับ

พายุที่เชลซีกำลังเจอตอนนี้มันเป็นไปได้ยากที่จะกลับมาในไม่กี่วัน แต่อย่างน้อยถ้าได้เห็นความกระหาย และความทุ่มเทที่ถูกถ่ายทอดออกมาบนสนามมากกว่านี้ ผมยังคงพยายามมองหลาย ๆ มุมอยู่ด้วยการเชื่อว่า เวลาจะบอกให้เรารู้เองว่าพอตเตอร์จะกู้สถานการณ์กลับมาได้ไหม เพราะสิ่งที่แกต้องกู้นั้นมากมายเหลือเกินครับ ทั้งคะแนน ทั้งความเชื่อมั่น ทั้งศรัทธาและความหวังจากแฟนบอล

ทั้งหมดที่ว่าคำตอบคงอยู่ในสนามนัดต่อ ๆ ไปครับ หากว่าสโมสรยังให้โอกาสไปเรื่อย ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งการที่อะไร ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้น หรือแย่ลงไปเรื่อย ๆ จนสโมสรตระหนักกันได้เองว่า มันถึงเวลาแล้ว

มาเชียร์ทีมกันต่อไปนะครับ ชาวสิงห์บลูส์ ...

=========================================

ซอสภาพ : https://chelseafclatestnews.com/official-chelsea-hire-graham-potter-as-new-manager-169890/

Sorry I’m late I’ve just come out of a crisis meeting!

ผมกลัวว่ามันส่งผลต่อนักเตะด้วย เจ้าของทีมยังยอมปล่อยจอยเพื่อรักษาสถานภาพของ ผจกทีม ไว้

นักเตะมันจะรู้สึกอยากทุ่มเทขนาดไหนกัน ในเมื่อทีมไม่เอาอะไรละ


ส่วน พ๊อตเตอร์ ผมเม้นบ่อยนะว่าแกเก่ง ผมดู ไบรท์ตัน บ่อย ผมว่าผลงานที่นั่นไม่ฟลุ๊คหรอก

แต่แกใช้เวลาวางระบบนาน กว่าจะเก่งนี่ไม่รู้จะใช้เวลานานขนาดไหน


ตอนคุม ไบรท์ตัน เขายังพอรับได้ เพราะมาตรฐานความคาดหวังไม่ได้สูงมาก

- พ็อตเตอร์ คุม ไบรท์ตัน ปีแรกจบที่ 15 , ปีสองจบที่ 16 , พึ่งมาโหดปีสาม จบที่ 9


แต่ถ้ามาเป็นแบบนี้ที่ เชลซี ที่มาตรฐานในความคาดหวังสูงกว่า ใครมันจะไปรับได้

เอาจริงตอนนี้ดูบ้างไม่ดูบ้าง ดูก็ไม่ได้หวังชนะแล้ว คิดๆก็อนาถใจ

ถ้าวันอาทิตย์แพ้สเปอร์แบบสู้ไม่ได้ ผมว่าท็อดด์รับแรงกดดันไม่ไหวแน่ เพราะแฟนบอลไม่มีทางยอม สาปกับแน่นอน

คือดูเชลซี ไม่สนุกเลย ไม่มีวิ่งไล่เพลส ไล่กดดัน เอาแต่รับลึกรอสวน พอบุกก็ไร้ทรงบุก แถมยิงก็ไม่คมกัน ต่างกับทีมอื่นๆ ที่เค้าเป็นกัน เมื่อคืนดูแมนยูเจอบาซ่าคือ อิจฉาจริง อยากให้เชลซีเป็นแบบนั้นบ้าง อย่างน้อยโอกาสชนะ ก็ยังมีมากกว่า แผนที่เป็นอยู่ทุกวันนึ้ หรือ พึ่งความสามารถนักเตะเพียงอย่างเดียว

ดูไม่สนุกจริง ๆ ครับ บอลจืดชืดเอามาก ๆ จนง่วงหลายครั้ง พอจังหวะเข้าทำก็จบไม่ได้อีก ไม่ว่าจะพลาด จะดวงซวยอีกฝ่ายเซฟเทพอะไรก็แล้วแต่

แต่โดยรวมคือ มันไม่มีอะไรเลยจริง ๆ ทั้งไม่ไล่บอล โดนอัดล้มไปยืนขึ้นมาเฉื่อย ๆ อีก