พอพวก ยุโรป จีน และสหรัฐที่เป็นตลาดใหญ่เลิกใช้รถไฟฟ้า คุณจะโดนบังคับให้ใช้ Ev ตามไปโดยปริยายครับ

เพราะต้นทุนจะมันสูงขึ้นจนไม่คุ้มขายแค่ตลาดเล็กๆ จนพวกบริษัทต้องเลิกทำรถสันดาป

ให้นึกถึงรถเก๋งเกียร์ MT กับ AT ไว้ครับ อนาคต รถสันดาป กับ Ev จะเป็นแบบนั้นแหละ

แรกๆ พวกจอดหน้าบ้านตัวเองและคนอื่นคงใช้รถน้ำมันจนหยดสุดท้าย
แต่เด่ยวถ้ามะนชารจ์ง่ายชาร์จไวคงไม่มีปัญหา

อีกหน่อยมันต้องมีไฟชอร์ต ลากปลั้กสามตาชาร์จรถเเล้วฝนตกงี้มั้ย

ผมไม่สะดวกฟังคลิป เขาหมายถึง EV vs สันดาป เหรอครับนึกว่าหมายถึงแบรนด์ Tesla vs ฝั่งญี่ปุ่น

เห็นฝั่งเมืองนอกเขาก็ดูชอบ nissan leaf กันอยู่นะ

อ้างอิง : https://ktla.com/news/nexstar-media-wire/nationworld/these-are-the-most-popular-used-electric-vehicles-by-state/

ต้นปี คนจะซื้อรถไฟฟ้า ถามเหมือนกันหมด ตู้ชาร์จจะพอไหม
คำถามที่สอง แบตจะเสื่อมไหม?
ตู้ชาร์จตอนนี้ไม่มีใครถามละ (สำหรับคนที่จะซื้อนะ)
100โลค่าไฟ 55-70บาท คิดที่ค่าไฟหน่วยละ 5บาท

คือฝั่งญี่ปุ่นตอนนี้ยังไม่ได้มี ev ขายเป็นตัวชูโรง แบบเทสล่าไงครับ(ยกเว้นนิสสัน)

เพราะเพิ่งเริ่มจะกลับลำ หันมาพัฒนา Ev กันเต็มตัว หลังจากสวนกระแสอยู่นาน

ตอนนี้มันเลยกลายเป็น เทสล่า(ev) vs ญี่ปุ่น (สันดาป/ไฮบริด)

เมื่อก่อนจะไปไฮโดรเจน

โดน Yaris น้องในไส้ฆ่าตายไปละครับ

แนะนำไปดูยอดขายรถ ตลาดใหญ่ๆอย่างเมกาดูครับว่า รถญี่ปุ่นจะตายหรือป่าว

ขอบคุณครับ ไปเช็คดูอีกทีเทสล่าแซง leaf ไปละ 55

infra (เช่น ตู้ชาร์จ, ราคาแบต ฯลฯ) พวกนี้มันตาม demand-supply อยู่แล้ว..ถ้าคนใช้เยอะๆเดี๋ยว infra พวกนี้มันก็ตามมาเอง

คุณมีที่ คุณมีเงินลงทุน..แล้วมีคนรอชาร์จไฟ แบบรอคิวกันใช้ เปิดกี่ที่ก็เต็ม คุณจะไม่สนใจลงทุนตู้ชาร์จหรอ?

ถ้าตลาดมันคึกคักจริง เผลอๆจะเร่งเปิดกันจน over supply แบบร้านกาแฟสดสมัยนึงเลยด้วยซ้ำ..

ดื้อไง ยังดีที่เริ่มยอมปรับเปลี่ยนบ้างแล้ว ไม่งั้นมันจะทรงเดียวกับ Nokia เดะๆเลย

ที่คนอื่นเขาไป Android กันหมด แต่ตัวเองมัวแต่งมโข่งกับ Symbian อยู่

สุดท้ายจากบริษัทมือถือชั้นนำ การเป็นแค่ไม้ประดับในตลาด

คิดอีกทางนึงมันคุ้มครับ เพราะแบรนด์ยุโรป จีน เลิกขายรถน้ำมัน เท่ากับคู่แข่งในตลาดรถน้ำมันหายไป = ผูกขาดตลาดรถน้ำมันในโลกแล้วครับ

แล้วลองมาดูว่าที่ไหนรถน้ำมันยังครองตลาด+ไม่มีทีท่าจะบังคับเลิกขาย เช่น อาเซียน , ญี่ปุ่น , เอเชียกลาง , เอเชียตะวันออก , อเมริกากลาง , อเมริกาใต้ พวกนี้คือถ้าตัดพวกที่จะเลิกขายรถน้ำมันก็แทบผูกขาดแล้วครับ และพวกแบรนด์ที่จะเลิกขายรถสันดาปคือแบรนด์ที่รถนำ้มันขายไม่ดีอยู่แล้วกับพวกยอดขายหลักอยู่ในยุโรป(โดนบังคับเลิกขาย)

รถเกียร์ MT มันขายไม่ดีแค่ตลาดอาเซียนครับ ตลาดอื่นมันยังขายดีอยู่เลย ยุโรปนิยมมากขนาดบางแบรนด์ทำรถไฟฟ้าเกียร์ MT ขึ้นมา(เกียร์หลอก เอาไว้ให้คนขับสับเพื่อความเคยชินเฉยๆ)

เอาอะไรมาคุ้มท่าน แค่สามกลุ่มประเทศที่ผมว่า กินตลาดรถยนต์ทั่วโลกไป 70% แล้ว

บริษัทรถที่ไหนจะทิ้งตลาด 70% ไปเพื่อเอา 30% ที่เหลือครับ

สุดท้ายมันจะไป BEV FCEV แทนเบนซิล กับ Hydrogen direct แทนดีเซลครับ ICE ค่อย ๆ หักหัวลงหลัง 2035 ครับ

ร่อแร่ครับ การใช้รถไฟฟ้าที่ tesla ตั้งเป้าไว้คือแทนที่รถน้ำมัน แปลว่าเน้นการเติมไฟฟ้าผ่านปั๊ม หรือที่ชาร์จนอกบ้านล้วนๆ ใครมีที่บ้านก็สะดวกขึ้น แต่คนขับเทสล่าตปท.ไม่ได้ชาร์จทุกวันเพราะวิ่งได้เยอะ


ล่าสุดไปเช่ารถขับที่เจจูมาเกือบสัปดาห์ ไฟฟ้าล้วน เป็นฮยอนไดเนโร่ วิ่งได้เกือบ 500กม. ตอนเช่ากลัวแทบตายว่าจะหาที่ชาร์จได้มั้ยวะ เพราะชินกับการชาร์จทุกวันจากที่ขับที่บ้านเป็น phev แต่สรุปคือทั้งทริปไม่ได้ชาร์จแม้แต่ครั้งเดียว วิ่งไปทั้งหมดสามร้อยกิโลเศษ แบตฯเหลือเกือบครึ่ง และที่คืนรถแต้งว่าตอนคืน ไม่ต้องเติมให้เต็มมาคืนด้วยก็เลยสบายเลย แต่ที่ชาร์จรอบเกาะนี่คือหาง่าย มีเหลือๆเลย


อีกหน่อยไอเรื่องที่ว่าที่ชาร์จตามบ้าน ตามคอนโดไม่มีเนี่ย มันจะค่อยๆลดลงครับ แต่ผมว่ากินตลาดรถน้ำมันได้เยอะแน่ๆ ถ้าเทสล่าลง super charger เร็วและเยอะ