แค่ซักผ้าก็ครึ่งวันแล้วว หมดเวลาไม่อยากทำไรต่อ

ตะหมัยหนุ่มผมทำเกือบทั้งเดือน เดือนนึงหยุด เสาทิตติดกัน2วันแค่นัั้น เงินเดือนก็ประมาณ6-7หมื่น

แล้วก็จะได้โปรโมทแต่ต้องเรียนโทเพิ่ม+คะแนนโทอิค จะได้แสน แต่ไม่เอาหนีมาอยู่บ้านนอก ปัจจุบัน

แทบไม่พอแดก กาวชิพหายชีวิต

ตอนจบใหม่ทำ 6 วัน บางที 7 วัน ถ้างานเร่งๆ เดือนนึงหยุดแค่ 2 วัน เงินไม่ค่อยเยอะ
ตอนนี้ทำงานอุตสาหกรรม ทำ 5 วัน 6 วันสลับกันครับ สบายๆ

งานที่เดิมทำอยู่3ปี ซักผ้าก็หมดละวันหยุด ทีใหม่หยุดเสาร์อาทิตย์ ดีขึ้นเยอะครับ

ผมทำอยู่ วันเสาร์ตอนเย็นดูบอลเลยที่ออฟฟิศ

ผมทำประมาณ 70-80 ชม / สัปดาห์

ไม่รู้จะนับยังไงว่ากี่วัน

แม่งโคตรเหนื่อย

ชีวิตคือรอหยุดเทศกาลอย่างเดียว สงกรานต์-ปีใหม่

ไม่ออกป่านนี้ ได้เด้ยไฮโซแล้ว

แค่พูดว่าทำอาทิตย์ละ 6 วัน Work Life Balance มันก็เสียไปตั้งแต่แรกแล้วครับ ผมว่าหลายคนที่ต้องทำคือส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือก ถ้าเลือกได้ไม่มีใครอยากทำงานเกินอาทิตย์ละ 5 วันหรอก ส่วนเงินที่ได้กลับมาก็ยิ่งไม่คุ้ม เทียบกับชั่วโมงที่ทำงาน แต่ก็นั่นแหละ มันไม่มีทางเลือกนี่นะ

ตอนจบใหม่ๆทำ6วันแล้วหยุดวันเสาร์นะ อาทิตย์ทำงาน แต่แรกๆไฟยังแรง+สะสมประสบการณ์อยู่เลยทนๆทำไป
โทรมมากๆช่วงนั้นเจอคนทักประจำ
ทำเกือบครบ2ปีก็เปลี่ยนงานมาทำแบบเสาร์เว้นเสาร์และเสาร์จะทำแค่ครึ่งวัน แบบชีวิตดีขึ้นเยอะ ผิวพรรณเปร่งปรั่ง หน้าใสเลยละ ปัจจุบันยังอยู่ที่เดิมเพิ่มเติมคือปรับเป็นให้ทำแค่5วันแล้ว

ึตอนยังทำบริษัทแบบที่เค้าเรียกว่าทำงานกันแบบครอบครัว วันหยุดไม่มี ตื่น10โมง>>ทำงานเที่ยง-ตี3>>นอน

แต่ดีที่เค้ามีที่นอน ห้องอาบน้ำให้ พักเที่ยงก็เอาผ้าไปซักตู้หยอดเหรียญไว้ จบปีแรกเก็บเงินได้แสนกว่า55555

ทุกวันนี้เวลาว่างกว่าเดิมเยอะแต่ไม่มีเงินเหลือเลย

1.ใครเคยทำงาน 6 วัน ต่อ สัปดาห์ จ-เสาร์ บ้าง

ผมทำงานสัปดาห์ละ 6 วันตลอด ถ้าสัปดาห์ไหนไม่ได้เจอแฟนก็มีแนวโน้มว่าจะทำงาน 7 วัน

แต่งานวางแผนการเงินของผมครึ่งนึงคือการออกไปเจอลูกค้าตอนกลางวัน อีกครึ่งนึงคือมานั่งทำแผนตอนกลางคืน

ช่วงเริ่มทำงานจนถึงเลิกทำงาน วันนึงไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง


2.เป็นยังไง หนักไหม สุขภาพจิตเสียไหม work life balance โอเคดีไหม

ถามว่าหนักไหมก็หนัก เพราะช่วงกลางวันมันใช้ Energy ค่อนข้างสูง

แต่งานของผมมันจะมีช่วงได้พักตลอด เช่นช่วงนั่งชิลๆรอลูกค้ามา พักผ่อนบนรถ(ผมไม่ขับรถ)

ช่วงชั่วโมงว่างระหว่างเจอลูกค้า ถ้าว่างจัดๆก็ไปเดินห้างดูหนัง หรือไม่ก็หาเรื่องซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ซะเลย

แม้กระทั่งกลับมาทำแผนที่บ้านก็คือได้แวะใช้ชีวิตกับคนที่บ้านด้วย เรียกได้ว่าทำงานไปใช้ชีวิตไป

Work Life Balance ค่อนข้างดีเลย คือเวลาว่างมันไม่ได้เยอะหรอก แต่มันสามารถจัดสรรตามใจเราได้

อยากจะว่างตอนไหน ก็จัดตารางล่วงหน้าไว้สัก 1-2 เดือน คิวก็ไม่ชนลูกค้าแล้ว

อยากจะว่างตอนไหนทำได้หมด แต่ต้องล่วงหน้าสักหน่อย ถ้ามีนัดกะทันหันผมจะไม่ว่างเสมอๆ

หรืออยากจะว่างตลอดไปก็ได้ แต่จะไม่ได้เงิน แฮ่!


3.เงินที่ได้กลับมา คุ้มค่าไหม

คุ้มค่าครับ


ที่ทำงานได้ขนาดนี้เพราะบ้านผมมีแม่บ้านนะ เลยไม่ต้องจัดห้อง ซักผ้า รีดผ้า เอาเวลาไปโฟกัสงาน ความสัมพันธ์ ไลฟ์สไตล์ได้ค่อนข้างเต็มที่

อีกอย่างคือกว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้ หนักเอาเรื่องอยู่

เคยทำตอนจบใหม่ครับ งานหายาก อะไรก็ทำ ก็เหนื่อยนะครับ การจราจรก็ติดต้องฝ่าฟันมันมา 6 วันต่อสัปดาห์เหลือวันเดียวทำได้แค่ซักผ้า แฟนก็มาหาบ่อย เวลาไปหาเค้าก็มีวันเดียว กะเพื่อนก็ต้องบาลานซ์ดีๆหาวันเจอกันมั่ง แต่โดยรวมถือว่าถ้าตอนนั้นไม่ใช่เด็กจบใหม่ ไฟไม่รู้จะสู้ขนาดนั้นไหวไหม ทำอยู่เกือบ 2 ปี ไปหางานที่ทำ 5 วันดีกว่า

เคยทำและ จะไม่กลับไปทำอีก

งานคลังสินค้า

ทำจันทร์-เสาร์ (8.30-17.30)

วันเสาร์คือนั่งว่างไปครึ่งวัน

ทำงาน พฤหัส-อังคารครับ หยุดวันพุธ หยุดไปก็ทำไรไม่ได้ครับ คนอื่นเค้าทำงานกัน จัดสรรเวลาชีวิตไม่ค่อยได้เลยครับ เลิกกี่โมงก็บอกได้ไม่แน่นอน ไม่ชอบชีวิตตอนนี้เลย แต่ไม่มีทางเลือก