พอดีนั่งฟังเฮียวิทย์กับพี่ยักษ์ แล้วติดใจประโยคนึง "มึงขยันยังไงก็ตามแต่มึงกับกูแชมป์โลกเท่ากัน" พอมานั่งนึกๆดูเรื่องอื่นๆนอกจากฟุตบอลนี่อิตาลีสายชิลล์ไม่ห่างจากเยอรมันสายระเบียบเยอะเลยนะ

เศรฐกิจเยอรมันอันดับ4 อิตาลีอันดับ8 รถยนต์เยอรมันมี BMW เบนซ์ อิตาลีก็มี Lamboghini Ferrari ปืนเยอรมันมี MP5 อิตาลีมี Beretta ผมเลยสงสัยว่าทำไมชาติสายชิลล์อย่างอิตาลีถึงเป็น 1 ในชาติชั้นนำด้านอุตสาหกรรมและวิศวกรรมได้ครับ ทั้งๆที่ไม่ระเบียบจัดแบบเยอรมัน

อีกอย่างจากตรงนี้ของคนอิตาลีคนไทยเราที่เขาว่าอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันคิดว่าเราจะนำอะไรมาปรับให้เกิดประโยชน์ได้บ้างครับแบบไม่ต้องเครียดแต่มีความก้าวหน้า ไม่ต้องเอาสเกลใหญ่ระดับประเทศนะเอาแค่ตัวเราเองนี่แหละคิดว่าจะดึงอะไรมาปรับได้ครับ

ห่างนะ gdp ห่างกัน 2 เท่าตัว

ไม่เท่านะ อิตาลีนี่อย่างจนเลย

อิตาลีเศรษฐกิจแย่กว่าเยอรมันเยอะ

อิตาลีไม่มี...

เป็นคำถามที่น่าสนใจ แต่ขอพูดถึงอันดับทางเศรษฐกิจก่อน
ถึงอันดับของอิตาลีจะไม่ห่างจากเยอรมันมาก
แต่อิตาลีมีรายได้และทำกำไรมากที่สุด มาจากการท่องเที่ยว
มากกว่าจะเป็นพวกอุตสาหกรรมหนัก น่ะค่ะ

ผมไม่ชัวร์ว่าจะตอบคำถามท่านได้มั้ย แต่ผมเคยที่เฮียวิทย์เค้าเล่าอันนี้ ผมว่าท่านน่าจะมองภาพออกมากขึ้นฮะ

แลมโบโดนโฟกสวาเก้นกรุ๊ปเอาเข้าไปพักนึงแล้วหนิ แบรนด์อิตาลีจริงๆเหลือไม่เยอะนะครับ โดนบิ๊กเยอรมันเอาไปเยอะเหมือนกัน เหมือนแบรนด์อื่นๆแหละ

แต่ถ้าถามว่า ทำไมชาติสายชิลล์อย่างอิตาลีถึงเป็นหนึ่งในชาติชั้นนำด้านอุตสาหกรรมและวิศวกรรมได้

จริงๆ ก็ต้องย้อนกลับไปตั้งยุค "ลีโอนาโด้ ดาร์วินชี" โน่นเลย
คนนี้ไม่ได้อัจริยะแค่ด้านศิลปะนะคะ วิทยาศาสตร์ วิศกรรมศาสตร์นี่ก็ตัวพ่อเด้อ
เค้าบอกว่า

"ลีโอนาโด้ ดาร์วินชี คือนักประดิษฐ์และวิศวกรผู้มีชื่อเสียง ซึ่งช่วยสร้างพิมพ์เขียวสำหรับการพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ในอิตาลี และนิโคลัส "โจเซฟ คูโญ่" ได้สร้างเครื่องอบไอน้ำ สิ่งประดิษฐ์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ยุคใหม่"

นั่นแหละค่ะคือจุดเริ่มต้นอุตสาหกรรมยานยนต์ของอิตาลี

มาจนถึงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่2
อิตาลีเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมหลายอย่าง
เกิด "สหภาพแรงงานอิตาเลียน" ที่คอยเป็นตัวต่อรองเรื่องค่าแรงและสวัสดิการให้คนงาน
อุตสหกรรมเลยยิ่งเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน


แก้ไข ลิงค์อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.yoair.com/th/blog/car-culture-in-italy-and-its-anthropological-significance/

ตอนสงครามโลก อิตาลีก็อย่างกากเลยนะ แพ้อย่างเยอะ ฮิตเลอร์ต้องยกไปช่วยอย่างเยอะ หัวจะปวด

"แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจเมื่อปี 1958 ในปี 1953 บริษัท FIAT ได้ทุ่มลงทุนและประสบความสำเร็จในรถยนต์รุ่นใหม่ FIAT 600 ที่เปิดตัวในปี 1957 และต่อมา FIAT 600 กลายเป็นสัญลักษณ์ “ความมหัศจรรย์เศรษฐกิจของอิตาลี” ENI บริษัทพลังงานข้ามชาติ ที่รัฐบาลอิตาลีเป็นเจ้าของ ได้ลงทุนด้านปิโตรเคมี ยางสังเคราะห์ และปุ๋ยเคมี ENI ยังมีบทบาทสำคัญในการจัดหาและสนองก๊าซธรรมชาติราคาต่ำแก่อุตสาหกรรมต่างๆ ของอิตาลี

ทั้ง ENI และสถาบันฟื้นฟูเศรษฐกิจ (Institute of Economic Reconstruction) ที่มีชื่อย่อว่า IRI มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจขึ้นมา IRI ตั้งมาปี 1933 สมัยรัฐบาลเผด็จการ เพื่อฟื้นฟูธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ล้มละลายจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำครั้งใหญ่ปี 1932 หลังสงครามโลก IRI มีบทบาทลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง การขนส่งทางอากาศ และระบบโทรคมนาคม หน่วยงานรัฐบาลอิตาลีจึงมีบทบาทสำคัญต่อความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจ"

ลิงค์ต้นทาง
https://thaipublica.org/2022/12/pridi332/

กราฟมันสวนทางกันตั้งแต่ WW2 ครับ

เยอรมัน พุ่ง /อิตาลี ดิ่ง

เรื่องอุตสาหกรรมอย่างข้างบนว่าเลย อิตาลีมีช่วงที่บูม ก่อนจะซบยาวแบบทุกวันนี้ ไม่ได้ต่างจากสเปนยุคนายพลฟรังโก้เท่าไหร่ ต่างกันแค่ระบบการปกครอง

แต่ถ้าเรื่องฟุตบอลผมว่า ระเบียบวินัยไม่ต่างกันเลย เรื่องอื่นไงก็ช่างแต่ฟุตบอลทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นทั้งสองชาติจะคิดและใช้แทคติกที่เน้นผล จนออกมาเป็นแชมป์โลกสี่สมัยทั้งคู่ได้ยังไง อีกอย่าง ภาพความมีระเบียบวินัยของเยอรมนี มันติดตัวเพราะปรัสเซีย (ซึ่งเป็นรัฐทหาร) เป็นผู้นำรวมชาติครับ

ว่ากันตามประวัติศาสตร์ ยุโรปหลังยุคกลาง (ยุคมืด) เมืองแรกที่เข้าสู่ยุคพื้นฟูศิลปวิทยาการ (เรเนซองส์) ประมาณศตวรรษที่ 13 คือ เมืองฟลอเรนซ์

เนื่องจากความใกล้ชิดศิลปะวิทยาการของโรมัน กรีซ ผสมการเจริญรุ่งเรืองทางการค้าของเวนิช และ เจนัว ทำให้มีเศรษฐีให้การสนับสนุนการฟื้นฟูศิลปะในคาบสมุทรอิตาลีเป็นอันมาก(ไม่แน่ใจสมัยก่อนเรียกอะไรนะครับ ลืมแล้ว 55)

ฟลอเรนซ์ เวนิช และเจนัว ปัจจุบันอยู่ในอิตาลีทั้งหมด ถ้าเรียกเป็นทีมบอลก็คือ ฟิออเรนติน่า เจนัว เวเนเซีย นั่นเอง

จึงไม่แปลกที่ว่าอิตาลี แม้ภาพลักษณ์จะดูชิลล์ แต่มีองค์ความรู้ทางด้านศิลปะวิทยามาตั้งแต่อดีต ทำให้สามารถสร้างสินค้านวัตกรรมระดับสูง หรือสินค้าแบรนด์หรู ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ต เช่น เฟอร์รารี่ ลัมโบกีนี่ หรือทางสายแฟชั่นก็ Armani Prada สินค้าพวกนี้ผลิตจำนวนจำกัด แต่กำไรต่อชิ้นสูง ก็สามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของอิตาลีได้

พระที่นั่งอานันตสมาคมของประเทศเราออกแบบโดยสถาปิกและช่างฝีมือจากอิตาลีด้วยครับ

ส่วนเรื่องฟุตบอลนั้น ผมแฟนทีมชาติเยอรมนี ขอไม่ออกความคเห็น เพราะจะมีลำเอียงบ้าง 555
แต่คิดว่าเทียบความขยันก็อาจจะไม่ถูกนัก เพราะไม่อย่างนั้นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นน่าจะได้เป็นแชมป์โลกบ้างแล้ว

แนะนำฟังอันนี้เลยครับ ประวัติศาสตร์ฉบับคนอิตาลี แพสชันสร้างชาติ | Global Economic Background EP.20 เขาพูดถึงเยอรมัน vs อิตาลีอยู่